ได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของ My Own Private Idaho มาตั้งแต่สมัยเราเป็นวัยรุ่น โดยเฉพาะการเป็นหนังที่ River Phoenix กับ Keanu Reeves เล่นเป็นโสเภณีชาย และการที่หนังถูกแปะป้ายจัดหมวดรวมอยู่ใน “หนังเกย์ที่ควรดู” แต่แล้วเราก็ไม่ได้มีโอกาสดูเสียที จนกระทั่ง Bangkok Screening Room เลือกมาฉายในเทศกาลหนัง LGBT+ Film Festival 2019
.
เรื่องราวความสัมพันธ์ของ Mike โสเภณีหนุ่มที่มีอาการหมดสติฟุบหลับไปทุกครั้งที่มีเรื่องตื่นเต้น (หรือบางทีก็คาดเดาไม่ได้ว่าจะหลับไปตอนไหน) กับ Scott โสเภณีหนุ่มหล่ออีกคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ Mike เมื่อคราวที่เค้าหลับไม่ได้สติ และกลายมาเป็นเพื่อนรัก ซึ่งยินดีออกเดินทางไปช่วย Mike ตามหาแม่แท้ๆ ของตัวเอง
.
ชอบความเซอร์เรียลของหนังมาก ทั้งอาการของ Mike, โลกในความฝันที่พาเค้าไปติดอยู่บนถนนมุ่งสู่ไอดาโฮที่ไม่เคยมีรถแล่นผ่าน การที่ตัวละครยากจนข้นแค้นในเมืองใหญ่พูดจาด้วยภาษาราวกับอยู่ในละครเชกสเปียร์, ฉากเลิฟซีนที่ทำเราเหวอไปเลย และการเลือกใช้กราฟิกตัวหนังสือขาวบนพื้นหลังสีๆ เปิด/ปิดเรื่องแบบนั้น แน่นอนที่สุดความร้าวราน แปลกแยก โดดเดี่ยว และเปล่าเปลี่ยวของตัวละครนั้นคือสิ่งที่ทำให้เราจมดิ่ง และไม่อาจสลัด My Own Private Idaho ออกจากหัวได้เลย
.
Gus Van Sant ผู้กำกับ/เขียนบท ร้อยเรียงเรื่องราวกึ่งจริงกึ่งฝัน ผสานการเป็นหนังของคนชายขอบในเมืองใหญ่เข้ากับการเป็นหนังโรดมูฟวี่ด้วยวิธีการที่แปลกแปร่ง แต่ก็กระตุ้นมวลอารมณ์ข้างในเราได้ดีเหลือเกิน แล้วในขณะที่ชะตากรรมของตัวละคร วิธีคิด การตัดสินใจ หรือทัศนคติของตัวละครเป็นสิ่งที่เราจูนไม่ติด เราก็กลับเข้าอกเข้าใจพวกเค้าได้ดีอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวละครอย่าง Mike ที่ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนทั้งในโลกแห่งความจริงและโลกแห่งความฝัน แต่ตัวละครอย่าง Scott และ Bob ขาใหญ่ของคนจรจัด ต่างก็มีความเจ็บปวดเป็นของตัวเองเช่นกัน
.
River Phoenix เปล่งแสงสว่างแห่งความเศร้าออกมางดงาม ราวกับบทนี้เขียนมาเพื่อเค้า และใช่ น่าเสียดายที่เค้าจากโลกนี้เร็วเกินไป Keanu Reeves หล่อมาก และเราชอบมากที่ได้เห็นเค้าเล่นหนังด้วยท่าทีผ่อนคลาย ร่าเริง และมีชีวิตชีวาแบบนี้ ลากยาวไปจนถึงนักแสดงทั้งหลายที่โผล่มามีซีนเป็นของตัวเอง ก็ดูราวกับกลืนกินตัวละครเป็นของตัวเองไปซะหมด ความเรียลในการแสดงมันทำให้เรื่องเซอร์เรียลดูสมจริงขึ้นมาได้จริงๆ นะ
.
ที่สุดแล้ว เราแทบไม่ได้รู้สึกเลยว่า My Own Private Idaho เป็นหนังเกย์เลย โอเค ต่อให้มันมีฉากเลิฟซีนแบบชาย-ชาย ตัวละครหลักเปิดเผยว่าเป็นเกย์ เล่าถึงความรักความสัมพันธ์ของเค้า (และใช้ความเป็นเกย์ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เค้าต้องเจ็บปวดและโดดเดี่ยว) แต่พอตัวหนังมันมีความเป็นกวีมาก และจดจ่ออยู่กับภาวะภายในที่แหว่งโหว่ของตัวละครมากกว่าเรื่องอื่น เราก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเก๊ย์เกย์เหมือนหนังเกย์เรื่องอื่นๆ ที่เคยดูมา ... พลางคิดต่อไปอีกว่า ดูเหมือนหนังสไตล์นี้หาดูได้ยากเหลือเกินในยุคนี้
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่
เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
[CR] [Review] My Own Private Idaho (1991)
ได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของ My Own Private Idaho มาตั้งแต่สมัยเราเป็นวัยรุ่น โดยเฉพาะการเป็นหนังที่ River Phoenix กับ Keanu Reeves เล่นเป็นโสเภณีชาย และการที่หนังถูกแปะป้ายจัดหมวดรวมอยู่ใน “หนังเกย์ที่ควรดู” แต่แล้วเราก็ไม่ได้มีโอกาสดูเสียที จนกระทั่ง Bangkok Screening Room เลือกมาฉายในเทศกาลหนัง LGBT+ Film Festival 2019
.
เรื่องราวความสัมพันธ์ของ Mike โสเภณีหนุ่มที่มีอาการหมดสติฟุบหลับไปทุกครั้งที่มีเรื่องตื่นเต้น (หรือบางทีก็คาดเดาไม่ได้ว่าจะหลับไปตอนไหน) กับ Scott โสเภณีหนุ่มหล่ออีกคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ Mike เมื่อคราวที่เค้าหลับไม่ได้สติ และกลายมาเป็นเพื่อนรัก ซึ่งยินดีออกเดินทางไปช่วย Mike ตามหาแม่แท้ๆ ของตัวเอง
.
ชอบความเซอร์เรียลของหนังมาก ทั้งอาการของ Mike, โลกในความฝันที่พาเค้าไปติดอยู่บนถนนมุ่งสู่ไอดาโฮที่ไม่เคยมีรถแล่นผ่าน การที่ตัวละครยากจนข้นแค้นในเมืองใหญ่พูดจาด้วยภาษาราวกับอยู่ในละครเชกสเปียร์, ฉากเลิฟซีนที่ทำเราเหวอไปเลย และการเลือกใช้กราฟิกตัวหนังสือขาวบนพื้นหลังสีๆ เปิด/ปิดเรื่องแบบนั้น แน่นอนที่สุดความร้าวราน แปลกแยก โดดเดี่ยว และเปล่าเปลี่ยวของตัวละครนั้นคือสิ่งที่ทำให้เราจมดิ่ง และไม่อาจสลัด My Own Private Idaho ออกจากหัวได้เลย
.
Gus Van Sant ผู้กำกับ/เขียนบท ร้อยเรียงเรื่องราวกึ่งจริงกึ่งฝัน ผสานการเป็นหนังของคนชายขอบในเมืองใหญ่เข้ากับการเป็นหนังโรดมูฟวี่ด้วยวิธีการที่แปลกแปร่ง แต่ก็กระตุ้นมวลอารมณ์ข้างในเราได้ดีเหลือเกิน แล้วในขณะที่ชะตากรรมของตัวละคร วิธีคิด การตัดสินใจ หรือทัศนคติของตัวละครเป็นสิ่งที่เราจูนไม่ติด เราก็กลับเข้าอกเข้าใจพวกเค้าได้ดีอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวละครอย่าง Mike ที่ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหนทั้งในโลกแห่งความจริงและโลกแห่งความฝัน แต่ตัวละครอย่าง Scott และ Bob ขาใหญ่ของคนจรจัด ต่างก็มีความเจ็บปวดเป็นของตัวเองเช่นกัน
.
River Phoenix เปล่งแสงสว่างแห่งความเศร้าออกมางดงาม ราวกับบทนี้เขียนมาเพื่อเค้า และใช่ น่าเสียดายที่เค้าจากโลกนี้เร็วเกินไป Keanu Reeves หล่อมาก และเราชอบมากที่ได้เห็นเค้าเล่นหนังด้วยท่าทีผ่อนคลาย ร่าเริง และมีชีวิตชีวาแบบนี้ ลากยาวไปจนถึงนักแสดงทั้งหลายที่โผล่มามีซีนเป็นของตัวเอง ก็ดูราวกับกลืนกินตัวละครเป็นของตัวเองไปซะหมด ความเรียลในการแสดงมันทำให้เรื่องเซอร์เรียลดูสมจริงขึ้นมาได้จริงๆ นะ
.
ที่สุดแล้ว เราแทบไม่ได้รู้สึกเลยว่า My Own Private Idaho เป็นหนังเกย์เลย โอเค ต่อให้มันมีฉากเลิฟซีนแบบชาย-ชาย ตัวละครหลักเปิดเผยว่าเป็นเกย์ เล่าถึงความรักความสัมพันธ์ของเค้า (และใช้ความเป็นเกย์ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เค้าต้องเจ็บปวดและโดดเดี่ยว) แต่พอตัวหนังมันมีความเป็นกวีมาก และจดจ่ออยู่กับภาวะภายในที่แหว่งโหว่ของตัวละครมากกว่าเรื่องอื่น เราก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันเก๊ย์เกย์เหมือนหนังเกย์เรื่องอื่นๆ ที่เคยดูมา ... พลางคิดต่อไปอีกว่า ดูเหมือนหนังสไตล์นี้หาดูได้ยากเหลือเกินในยุคนี้
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่ เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้