สวัสดีครับผมสืบเนื่องจากเมื่อสามปีก่อนนั้นผมได้ตั้งกระทู้เกี่ยวกับ Bitcoin ว่ามันคืออะไร หลังจากศึกษาได้ประมาณสองเดือนได้ลงในพันทิป
https://ppantip.com/topic/36526604 ซึ่งจริงๆก็ต้องยอมรับว่าในตอนนั้นผมไม่ได้มีความเข้าใจอะไรเกี่ยวกับ Bitcoin มากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ก็ผ่านมา 3 ปีแล้วหลายๆคนก็คงเห็นว่า Bitcoin เป็นอย่างไรตามมุมมองของแต่ละคน
เพราะอย่างนั้นในคราวนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวกับมูลค่าของ Bitcoin รวมทั้งตอบคำถามอื่นที่มักถามกันมา

มูลค่ากับการใช้งาน?
ในกระทู้ที่แล้วรวมทั้ง Feedback ที่ผมมักจะได้รับคำถามมาส่วนใหญ่คือ 
“แล้ว Bitcoin ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง มันมีการใช้งานเยอะแค่ไหน”
ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรครับที่คนจะถามคำถามนี้เพราะสิ่งที่เรียกได้ว่ามีมูลค่าและใกล้ตัวคนเรามากที่สุดคือสิ่งที่มีการใช้งานเยอะๆ อย่าง หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล หยอกๆครับ มันคือเงินนั้นเอง
มีเงินเยอะ = รวย หรือเปล่า?
เพราะงั้นคนทั่วไปจึงอยากมีเงินเยอะจะได้รวยกลายเป็นค่านิยมที่อยากรวยต้องมีเงิน แต่คำถามคือเงินที่คุณสามารถใช้อะไรได้หลายอย่างทำให้คุณรวยจริงหรือเปล่า ถ้าคุณย้อนไปซัก 50 ปีก่อนคุณมีเงิน 1 บาทคุณอาจจะซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ชามนึงแต่ในปัจจุบันคุณเอาเงิน 1 บาทไปที่ร้านค้าคุณอาจจะได้น้ำตาลมาซองนึง เผลอจะโดนแม่ค้าเอากระบวยฟาดหน้าซะด้วย

เงินกับรัฐบาล
ที่เงินมีการใช้งานที่เยอะเป็นเพราะมันถูกควบคุมโดยรัฐบาล อย่างประเทศไทยที่เป็นรัฐบาลประชาธิปไตยกับ สว 250 เสียง รัฐบาลทำให้กระดาษเหล่านี้มีความมั่นคงในระยะสั้นๆ แต่ว่าในระยะยาวรัฐบาลสามารถขโมย “มูลค่า” ที่ถูกเก็บไว้ในมือประชาชนในรูปแบบต่างๆได้ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีและการผลิตเงิน
เมื่อเกิดการผลิตเงินแล้วผู้ที่ได้รับประโยชน์อันดับแรกคือคนที่อยู่ใกล้แหล่งผลิตเงิน กว่าเงินจะมาถึงมือของชนชั้นแรงงานภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้สิ่งต่างๆแพงขึ้นก็จะเกิดขึ้น ในอดีตรัฐบาลทำแบบนี้ไม่ได้เพราะว่าเงินอ้างอิงกับทองคำถ้าไม่มีทองคำก็ผลิตเงินเพิ่มไม่ได้
ถ้าเราไปดู balance sheet ของ FED หรือไปเทียบกับอัตรากำลังซื้อของดอลลาร์ต่อทองคำในระยะยาวนั้นลดลงอย่างต่อ
ในประเทศอังกฤษเมื่อปี 1560 ถึง 1976 กำลังซื้อของทองคำ นั้นลดลงครั้งแรกในรอบ 140 ปี ซึ่งเคยคงที่มาตลอดตั้งแต่ปี 1700 ถึง 1914 หลังจากอังกฤษยกเลิกระบบมาตรฐานทองคำ 
เหตุผลเดียวที่ทองคำเป็นสิ่งที่มันมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดไม่ใช่เพราะการใช้งาน(การใช้งานน้อยกว่าเงินแน่ๆ) แต่มันไม่สามารถผลิตขึ้นอย่างรวดเร็วได้เลยตลอดประวัติศาสตร์

ทำไมสิ่งที่จับต้องไม่ได้ถึงมีมูลค่า
ปัญหาที่เรามีมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงยุคของอินเทอร์เนตคือข้อมูลเป็นสิ่งที่ปลอมแปลงได้ง่าย ทำให้ผู้คนจึงไม่เชื่อถืออะไรก็ตามที่สามารถปลอมแปลงได้ง่าย ถ้าเราส่งรูปไปในไลน์ให้ใครซักคนเราจะมีรูปในมือถือทั้งสองผ่าย แล้วถ้าเป็นเงินอันไหนคือของจริง ด้วยฟังชั่น copy and paste ที่ทำให้ผมสามาระเรียนจบมหาลัยได้นี้ทำให้ข้อมูลเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อถือยิ่งมันกลายเป็นเงิน
แต่ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อ Bitcoin เกิดขึ้นพร้อมกับ Blockchain ด้วยแนวคิดของการที่ให้คนหลายๆคนเก็บข้อมูลจนการปลอมแปลงข้อมูลทำได้ยากจนแทบเป็นไปไม่ได้ทำให้ข้อมูลที่จับต้องไม่ได้เชื่อถือได้ว่ามันจะไม่ถูกปลอมแปลง และเกิดเป็นแนวคิดของ Digital asset

Bitcoin กับจำนวนจำกัด
หากวันนี้ราคาของทองคำเพิ่มขึ้นซัก 10%-20% แหล่งผลิตทองคำทั่วโลกอาจจะเพิ่มอัตราการผลิตทองคำเพื่อตอบสนองต่อตลาด แต่ Bitcoin ไม่เป็นอย่างนั้นด้วยค่า Difficulty adjustment ที่ไม่ว่าคนจะเข้ามาขุด Bitcoin มากเท่าไหร่ Bitcoin จะผลิตด้วยอัตราคงที่และลงลงอย่างคาดคะเนได้ ทุกวันนี้เราไม่สามารถขุดทองขึ้นมาด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีแต่เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น แล้วทองคำมีจำนวนอยู่ที่เท่าไหร่กันบนโลก แต่ Bitcoin จะมีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้าน เพราะงั้นในทางทฤษฎีในแง่จำนวนจำกัดมันดีกว่าทองคำด้วยซ้ำ

Bitcoin ระบบที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
อีกหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจคือ Bitcoin เป็นระบบที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลก ปกติแล้วความปลอดภัยของระบบใดๆนั้นถูกวัดจากต้นทุนในการทำลายระบบๆนั้นซึ่งการจะทำลายระบบ Bitcoin ทฤษฎีคือ
- ทำลาย Node ทั่วโลกด้วยอะไรก็ได้จะระเบิดจะปิดอินเทอร์เนตหรือไวรัส โดยห้ามมี backup หลงเหลือ (รวมถึงดาวเทียมด้วยนะมี node บนดาวเทียมแล้ว)
- ทำ 51% Attack ซึ่งเป็นไปได้แต่คนทำต้องมีต้นทุนมหาศาลมากๆดังรูป และไม่มีใครที่ทำแล้วคุ้มค่าในปัจจุบัน ทำก็ได้แต่ขาดทุน

Quantum Computer จะทำลาย Bitcoin ได้ไหม

เวลาที่เราพูดว่า Quantum จะระบบต่างๆผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องโง่เง่าที่หลอกผู้บริโภคสิ้นดี คนเสพข่าวอย่างเราชอบ Story ที่มีตัวดีตัวร้ายเลยพอเราตั้งหัวเรื่อง Disrupt คนเลยให้ความสนใจ เพราะในความเป็นจริง Quantum จะทำลาย Encryption ทุกอย่างไม่ใช่แค่ Bitcoin ระบบธนาคาร ระบบขนส่ง ทุกอย่างที่ใช้ศาสตร์การเข้ารหัส ซึ่งมันจะเกิดขึ้นในกรณีที่ “เทคโนโลยีการเข้ารหัสไม่มีการพัฒนา”
เคยได้ยินคำว่าเรียนผูกง่ายกว่าแก้ไหม ทันทีที่แนวคิด Quantum computer เกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้นพร้อมๆกับ Quantum encryption เช่นกันที่จะทำให้ Quantum ไม่สามารถทำลายได้ การจะทำลาย Encryption ใน Bitcoin ต้องใช้ Quantum computer กำลัง 1500 Qubit ที่ถูกสร้างมาเฉพาะการถอดรหัสเท่านั้นซึ่งปีจจุบันเรามี Quantum Computer ที่ประมาณ 75 Qubit ซึ่งมีการประมาณการว่าอีก 20-30 ปีเราจะไปถึงจุดนั้น

Bitcoin กับมูลค่าพื้นฐานที่เป็นระบบจ่ายเงิน
คนที่บอกว่า Bitcoin ไม่มีมูลค่าพื้นฐานใดๆส่วนใหญ่คือ คือคนที่มาจากสายหุ้นและตีความ Bitcoin กับหุ้นที่เกิดจากการระดมทุน ซึ่ง Bitcoin นั้นไม่ใช่หุ้น มูลค่าพื้นฐานของระบบ Bitcoin คือการเป็นระบบการจ่ายเงินระดับโลกคุณสามารถโอน Bitcoin ไปให้ใครก็ได้บนโลกด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและเร็วเมื่อเทียบกับระบบ Swift ปกติการสร้างระบบชำระเงินขึ้นมาต้องมีต้นทุนทั้งนั้น ธนาคาร  Visa Swift ต้องใช้ต้นทุนเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น Bitcoin จึงมีมูลค่าพื้นฐานแน่นอน 

Bitcoin กับเรื่องราวที่น่าสนใจ
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ผู้คนไม่ได้ซื้อสินค้าแต่เค้าซื้อเรื่องราวของมัน” ซึ่งเรื่องราวของ Bitcoin นั้นมีความน่าสนใจที่มันเกิดจากความไม่พอใจในรัฐบาล วิกฤติการเงิน และความเป็นส่วนตัวที่รัฐบาลฉกฉวย ผู้สร้าง Bitcoin นั้นนำแนวคิดหลายอย่างมาจากกลุ่ม Cypherpunk ซึ่งเป็นกลุ่มนักรหัสที่ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลมาตั้งแต่ช่วงปี 90 เรื่องราวเหล่านี้เป็นสิ่งน่าสนใจยิ่งในทุกวันนี้ที่เรามีวิกฤติการเงิน ในวันที่ผมพิมพ์กระทู้อยู่ที่อเมริกามีคนชูป้า Buy Bitcoin เพราะมองว่าการซื้อ Bitcoin เป็นการประท้วงรัฐบาลและออกจากระบบที่รัฐควบคุมไว้ คุณคิดว่า Story มีพลังแค่ไหน คุณคิดว่ามีคนบนโลกแค่ไหนที่ไม่พอใจกับรัฐบาล และนั้นทำให้ Bitcoin ไปต่อได้ 

Bitcoin ไม่ใช่ Safe heaven
ในทางทฤษฎีแล้ว Bitcoin เป็นอะไรที่สามารถต่อต้านการเสียมูลค่าได้ดีกว่าทองคำเสียอีก แต่ถ้าเรามันไปเปรียบเทียบกับทองที่ทุกคนคิดว่าเป็น Safe heaven เราจะพบว่ามูลค่ามันต่างกันถึง 35 เท่า และทองคำก็มีความเชื่อทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า Bitcoin ที่เพิ่งเกิดมายังไม่สามารถมาแทนที่ทองคำได้ในตอนนี้ เพราะงั้นถ้าใครที่บอกว่าลงทุนทองดีกว่า มันน่าเชื่อถือกว่าจริงๆในสายตาคนหมู่มาก
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับ ทองคำ Bitcoin มีความน่าสนใจตรงที่มันมามารถแบ่งแยกย่อยได้ 8 หลัก และการเคลื่อนย้ายทำได้รวดเร็ว ในช่วง Covid ที่ผ่านมาเราจะเห็นมีช่วงนึงที่ร้านทองไม่รับซื้อทองเพราะขาดสภาพคล่องซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาที่ทองคำมี

Libra กับเงินดิจิทัลของรัฐบาลจะทำลาย Bitcoin ไหม
 Libra หรือ DCEP ของจีนคือแล้ว Bitcoin จะถึงจุดจบหรือเปล่า? ซึ่งคำตอบในทางตรงคือมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยมันคือของคนละอย่าง มันเหมือนทองคำกับเงินสด ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน Bitcoin ไม่ใช่เงิน Fiat ที่ถูกควบคุมโดยรัฐ Bitcoin นั้นยังเล็กมากเกินกว่าที่จะมีรัฐจะใส่ใจหรือมีผลต่อเงินดอลลาร์หรือหยวนด้วยซ้ำในปัจจุบัน
แต่ในทางอ้อมๆแล้วการกำเนิดของ Libra และ DCEP นั้นกลับเป็นประโยชน์ต่อ Bitcoin เพราะว่าการเข้ามาของเงินดิจิทัลนั้นไม่เร็วหรือช้าก็ต้องมีคนที่เข้าใจว่าการใช้เงินนั้นจะถูกรัฐควบคุม และจะมีความต้องการของคนที่ต้องการจะไม่ถูกควบคุมหรืออกจากระบบเสมอไม่ว่าเหตุผลนั้นจะมาจากความไม่วางใจในรัฐบาลหรือ การรักษาความเป็นส่วนตัวของตัวเอง

สรุปแล้ว Bitcoin มันดีไหมน่าลงทุนไหม
Andreas Antonopoulos ผู้เขียนหนังสือ Mastering Bitcoin ได้กล่วไว้ในปี 2017 ว่า
 “เรายังไม่อยู่ในจุดเริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ เราเป็นแค่พงกฝันเฟื่องและ Ealy adopter จะมาทีหลัง” แปลว่าตอนนี้ในกราฟของเทคโนโลยี Bitcoin มันน่าสนใจแต่ความเสี่ยงมันก็สูงมากๆเช่นกัน คุณไม่ควรเอาเงินเก็บของคุณทั้งชีวิตมาลงทุนกับมัน มองแค่ว่ามันเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่น่าสนใจก็พอแล้ว

อ้างอิง
https://bitcoinaddict.org/2020/06/04/masked-protester-in-los-angeles-issues-bitcoin-btc-manifesto/
https://bitcoinaddict.org/2020/05/26/yi-said-theres-still-no-timetable-on-a-formal-launch-dcep-yet/
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/decp-china-digital-yuan
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/quantum-computer-bitcoin/
https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/what-is-51-percent-attack/