ASUS TUF นั้นถือว่าเป็นตระกูลสายเกมที่ค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคากันพอสมควรครับสำหรับแบรนด์ ASUS แน่นอนว่าในรุ่นก่อนๆนั้นถือว่าทำในเรื่องของสเปกกับราคาทำได้ดี และเป็นกระแสเยอะพอสมควรอีกทั้งยังได้เรื่องของดีไซน์งานออกแบบที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ของตระกูลนี้ และในรุ่นก่อนหน้าก็ยังใช้งาน AMD Ryzen ที่ทำในเรื่องของประสิทธิภาพที่น่าสนใจมากๆ และในครั้งนี้ได้ทำการเปิดตัว ASUS TUF GAMING A15 ในรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับ AMD RYZEN 7 ที่เป็นรุ่นใหม่ 4000 Series พร้อมกับการผลิตที่ 7nm ทำให้ในเรื่องของประสิทธิภาพนั้นที่หลายๆคนน่าจะทราบกันดี และในรุ่นนี้ยังคงทำในเรื่องของราคาได้คุ้มค่าคุ้มราคาอีกครั้ง และงานออกแบบก็ดูดีขึ้นเรียบสวยมากขึ้นกว่าเดิมในรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เป็นสเปก Ryzen 4800H พร้อมกับการ์ดจอแยก RTX 2060 จากทาง Nvidia ด้วยครับ และแน่นอนว่าทางด้านหน้าจอนั้นให้มาที่ 144Hz ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นสบายๆไว้ใจได้เลย
ASUS TUF GAMING A15 นั้นมีมาด้วยกันหลากหลายรุ่นครับและแน่นอนว่ามีหลากหลายเรทราคาเหมาะสำหรับคนงบน้อยไปถึงสูงได้ครอบคลุมมาก ตั้งแต่ราคา 26,990 บาทไปจนถึง 39,990 บาท และแน่นอนว่าที่เรามารีวิวจะเป็นตัวท็อปสุดของตระกูลครับ มาพร้อมกับ CPU AMD RYZEN7 4800H ความเร็ว 2.90 – 4.20GHz โดยเป็นแบบ 8 คอร์ 16 เธรด และใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร และมาด้วยการ์ดจอ RTX 2060 6GB GDDR6 VRAM และมาพร้อมกับ RAM 16GB DDR4 3200MHz เต็มๆครับเป็นแบบ 2 Slot ใส่มาให้ และในเรื่องของ SSD นั้นให้มาที่ PCIe NVMe 1TB M.2 ถือว่าสเปกการใช้งานเน้นๆคุ้มๆครับ และหน้าจอในรุ่นนี้นั้น ให้มาที่ขนาด 15.6″ นิ้ว (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 144Hz หน้าจอแบบด้าน Anti-Glare IPS-level Panel 45% NTSC พร้อมกับ Adaptive Sync พร้อมรองรับมาตรฐานความแข็งแรง MIL-STD-810H ครับ และที่สำคัญนั้นยังคงมีกล้องหน้ามาให้อยู่ รวมถึงทางด้าน Keyboard นั้นเป็นไฟ RGB ปรับเปลี่ยนได้แต่จะเป็นโทนสีเดียวทั้งหมดครับ และ ทางด้านลำโพงนั้นก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยเช่นกันครับ
- Windows 10 Home/R5-4600H/GTX 1650Ti 4GB GDDR6/ DDR4 8GB 3200/PCIe NVMe 512GB M.2 SSD/15.6” FHD 144 Hz
ราคา 26,990.- บาท
- Windows 10 Home/R7-4800H/GTX 1650Ti 4GB GDDR6/DDR4 8GB 3200/PCIe NVMe 512GB M.2 SSD/15.6” FHD 144 Hz
ราคา 29,990.- บาท
- Windows 10 Home/R7-4800H/GTX 1660Ti 6GB GDDR6/DDR4 8GB 3200/PCIe NVMe 512GB M.2 SSD/15.6” FHD 144 Hz
ราคา 32,990.- บาท
- สเปกที่เรารีวิวนั้น Windows 10 Home/R7-4800H/RTX 2060 6GB GDDR6/DDR4 8GBx2 3200/PCIe NVMe 1TB M.2 SSD/15.6” FHD 144 Hz พร้อมราคา 39,990 บาท
UNBOX
ทางด้านตัวกล่องนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของงานออกแบบทั้งหมด ทั้งของรูปทรงตัวกล่องและตัวลวดลายที่ปรับเข้ากับตัวเครื่องมากขึ้นด้วยครับแอบดูดีกว่าเดิมเยอะเลยสมราคามากขึ้น ส่วนอุปกรณ์ในตัวกล่องให้มาพอดี เหมือนทั่วไปครับทั้งเรื่องของ Adaptor ชาร์จไฟ ตัวคู่มือต่างๆ และแน่นอนว่าตัวเครื่องด้วย แต่มี สติกเกอร์มาให้ด้วยครับ
DESIGN
งานออกแบบมีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบครั้งใหญ่ในภายนอกฝาหลังและทั้งหมดของตัวเครื่อง เป็นจุดที่ค่อนข้างชอบมากๆครับเพราะมีความเรียบหรูลงตัวมากกว่าเดิมเยอะมากดูแพงขึ้นเยอะมากครับ เพราะรุ่นก่อนๆเราบ่นไปว่าดีไซน์มันดูเยอะไปในด้านหลังแม้จะดูสายเกมก็จริงแต่บางทีมันเยอะไปหน่อยชอบแบบเรียบๆแต่ดูเท่ไปในตัวและตัวนี้ก็ได้ทำออกมาตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ เปลี่ยนแปลงงานออกแบบทั้งหมดฝาหลังสวยพร้อมโลโก้ตรงกลาง และมีเว้าอะไรรวมถึงออกแบบเหมือนมีน็อต 4 มุมด้วยและตัวเครื่องก็ใช้ฝาหลังแบบเรียบสีด้าน คนละแบบกับส่วนอื่นๆด้วยเช่นกัน
เมื่อเปิดเข้ามาข้างในนั้นเราจะยังคงเห็นการออกแบบที่คล้ายๆตัวเดิมอยู่บ้างในส่วนของที่วางมือและลวดลายตรงส่วนนั้นครับจริงๆทำเรียบไปก็ดูดีอีกแบบเหมือนกันแต่ก็อาจจะเป็นการออกแบบที่คงเอกลัษณ์ของตระกูลนี้อีกทางนึงครับ และขอบจออะไรบางขึ้น การออกแบบอะไรขนาดเครื่องกระชับมากขึ้น แป้นพิมพ์สุดขอบมากกว่าเดิมด้วยเช่นกันครับ ส่วนวัสดุอะไรพวกนี้รู้สึกดีกว่าเดิมแน่นแข็งแรงมากขึ้นในระดับของมัน และฝาหลังสวยขึ้นเยอะมากๆเรียบสวยลงตัวครับ
ขอบหน้าจอรุ่นนี้มีความบางอะไรไม่หนีจากเดิมแต่รูปทรงงานออกแบบขอบหน้าจอการตัดมุมอะไรนั้นมีความเล็กลงกว่าเดิมด้วยเช่นกัน ทางด้านกล้องหน้านั้นยังคงมีมาให้ไม่ได้ตัดออกไปไหนส่วนข้างในยังคงมีโลโก้ ASUS อยู่เช่นกัน
ฝาหลังเป็นการเปลี่ยนแปลงหลักๆใช้วัสดุพลาสติกคล้ายส่วนอื่นๆ แต่จะเป็นอีกโทนสีและเล่นลวดลายแบบเรียบๆต้องบอกว่าเป็นฝาหลังที่ทำสวยสุดในบรรดาตระกูลนี้ที่เคยออกมาเลยครับดูเรียบหรู ดูแพงขึ้นเยอะพร้อมกับโลโก้ TUF ที่ใส่เข้ามาครับและการตัดขอบมุมทั้ง 4 ยังคงมีมาเหมือนเดิมและมีการเล่นออกแบบคล้ายๆน็อตยึด 4 มุมดูแปลกตาดี
ฝาหลังมีการออกแบบเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด มีการเจาะรูคล้ายรังผึ้งด้วยเช่นกัน และลวดลายอะไรเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดดูสวยงามขึ้นเยอะเลยแหละ ส่วนช่องระบายมีมาให้พอประมาณแต่จริงๆน่าจะเจาะได้เยอะกว่านี้ครับแอบดูน้อยไปหน่อย ส่วนทางด้านในนั้น Layout เหมือนกับรุ่นก่อนเป๊ะๆเลยไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างภายในเท่าไรนักครับ ทั้ง พัดลม 2 ตัว ระบายได้ 3 ทิศทาง พร้อม Heat pipe 4 เส้นวางตำแหน่งเดิม รวมถึง ช่องใส่ M.2 ให้มา 2 ช่อง ว่าง 1 และ RAM 2 Slot ใส่มาเต็ม 16GB และพื้นที่ว่างสำหรับใส่ SATA SSD ได้ด้วยครับถือว่ารองรับการอัพเกรดอะไรได้สบาย
ในส่วนของขาพับอะไรต่างๆนั้นดูแข็งแรงขึ้นและวัสดุอะไรนั้นแอบคล้ายๆเดิมครับ มีการเล่นลวดลายของตัวเครื่องที่แตกต่างกันเหมือนเดิมไม่ใช่วัสดุแบบเรียบๆสีดำครับ ก็ทำให้ดูมีอะไรมากขึ้นส่วนวัสดุความรู้สึกยังคงเป็นพลาสติกเยอะหน่อยในรุ่นนี้ครับ ส่วนการระบายตรงกลางนั้นยังมีมาให้เหมือนกันครับ สำหรับดูดอากาศเข้าเครื่อง และมีบอกไฟสถานะรวมถึงเขียนชื่อรุ่นมาให้ และตรงหน้าจอก็เว้าสำหรับการระบายอากาศได้เหมือนรุ่นอื่นๆของค่ายนี้เลยครับ
ในส่วนของช่องระบายอากาศนั้นจะเห็นว่าตัวช่องระบายอากาศนั้นเปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดเล่นลวดลายอะไรสวยงามขึ้นดูดีขึ้นเยอะมาก และแน่นอนว่ามีทั้ง 2 ฝั่งเช่นเดิมและมีเพิ่มฝั่งขวาตัวเครื่องมาด้วย ระบาย 3 ทิศทางครับ แต่แอบชอบการออกแบบตรงนี้มากๆเลยดูดีกว่าเดิมเยอะครับ ส่วนตรงกลางก็ดูดีถือว่าทีมออกแบบครั้งนี้ทำได้ดีครับ
SPEC
- AMD® Ryzen™ 7 4800H Processor
- ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
- DDR4 3200MHz SDRAM, 2 x SO-DIMM socket 16 GB SDRAM, Dual-channel
- การแสดงผล 15.6″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 144Hz Anti-Glare IPS-level Panel with 45% NTSC With Adaptive Sync
- กราฟิก NVIDIA® GeForce® RTX 2060 , with 6GB GDDR6 VRAM
- สตอเรจ Solid state drive: 1TB PCIe® Gen3 SSD
- คีย์บอร์ด Chiclet keyboard with isolated numpad key + RGB
- WebCam HD 720p CMOS module
- เน็ตเวิร์คกิ้ง Wi-Fi Integrated Wi-Fi 5 (802.11 ac (2×2))
- Bluetooth Bluetooth® 5.0
- อินเตอร์เฟส
1 x COMBO audio jack
2 x Type-A USB 3.2 (Gen 1)
1 x Type-C USB 3.2 (Gen 2) with display supportDP1.4
1 x Type-A USB2.0
1 x RJ45 LAN jack for LAN insert
1 x HDMI, HDMI support 2.0b
1 x AC adapter plug
- ออดิโอ DTS:X® Ultra
- แบตเตอรี่ 48 Wh lithium-polymer battery Battery
- ขนาด NB: 35.9 x 25.6 x 2.49 ~2.47 cm (WxDxH) น้ำหนัก NB:2.3 kg
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้เด่นๆเลยคือเจ้า CPU ตัวใหม่ที่ได้ใช้งาน AMD Ryzen 4000 Series มากับเจ้า AMD Ryzen 7 4800H ขนาด 7nm 2.9-4.2 GHz 8 Core/16 Thread L3 Cache 12MB แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีการผลิตอะไรทั้งหลายทำให้มันทำได้ดีมากๆในส่วนนี้ และ ส่วนการ์ดจอ นั้นยังคงใช้งานของ NVIDIA GeForce RTX 2060 มาพร้อมกับ 6GB GDDR6 และทางด้าน Ram ให้มา 16GB DDR4 bus 3200 2 ช่องใส่มาเต็มครับ รองรับได้ 32GB สูงสุดนั้นเองครับ ส่วน SSD 1TB PCIe® Gen3 SSD M.2 ให้มาเรียบร้อยและ มีช่องว่างโล่งๆ 1 ช่องสำหรับใส่เพิ่มได้เลย และมาพร้อมกับ Windows 10 เรียบร้อยพร้อมใช้
PCMARK
นั้นทำคะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว Ryzen 7 4800H นั้นทำออกมารอบรับพวกนี้อยู่แล้วครับทำ ไปได้ 5395 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆและดีกว่าตัว i7 9750H อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ครับ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 5,500 คะแนนครับ
3DMARK
นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว FIRESTRIKE EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 7327 ถือว่าดี และในคะแนน FIRESTRIKE นั้นทำไปได้ 14628 และ ทดสอบตัวเทพสุด FIRESTRIKE ULTRA 3721 คะแนนในแบบที่โหดๆขึ้นมานั้นเอง ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 4 แบบ และในส่วนของ PORT ROYAL ในการทดสอบ RAY TRACING นั้น ได้คะแนน 3399 คะแนนครับ
ความร้อน CPU 89 GPU 76
[SR] รีวิว ASUS TUF GAMING A15 สเปค RYZEN7 4800H พร้อม RTX 2060 จอ 144Hz !
ASUS TUF นั้นถือว่าเป็นตระกูลสายเกมที่ค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคากันพอสมควรครับสำหรับแบรนด์ ASUS แน่นอนว่าในรุ่นก่อนๆนั้นถือว่าทำในเรื่องของสเปกกับราคาทำได้ดี และเป็นกระแสเยอะพอสมควรอีกทั้งยังได้เรื่องของดีไซน์งานออกแบบที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ของตระกูลนี้ และในรุ่นก่อนหน้าก็ยังใช้งาน AMD Ryzen ที่ทำในเรื่องของประสิทธิภาพที่น่าสนใจมากๆ และในครั้งนี้ได้ทำการเปิดตัว ASUS TUF GAMING A15 ในรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับ AMD RYZEN 7 ที่เป็นรุ่นใหม่ 4000 Series พร้อมกับการผลิตที่ 7nm ทำให้ในเรื่องของประสิทธิภาพนั้นที่หลายๆคนน่าจะทราบกันดี และในรุ่นนี้ยังคงทำในเรื่องของราคาได้คุ้มค่าคุ้มราคาอีกครั้ง และงานออกแบบก็ดูดีขึ้นเรียบสวยมากขึ้นกว่าเดิมในรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เป็นสเปก Ryzen 4800H พร้อมกับการ์ดจอแยก RTX 2060 จากทาง Nvidia ด้วยครับ และแน่นอนว่าทางด้านหน้าจอนั้นให้มาที่ 144Hz ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นสบายๆไว้ใจได้เลย
ASUS TUF GAMING A15 นั้นมีมาด้วยกันหลากหลายรุ่นครับและแน่นอนว่ามีหลากหลายเรทราคาเหมาะสำหรับคนงบน้อยไปถึงสูงได้ครอบคลุมมาก ตั้งแต่ราคา 26,990 บาทไปจนถึง 39,990 บาท และแน่นอนว่าที่เรามารีวิวจะเป็นตัวท็อปสุดของตระกูลครับ มาพร้อมกับ CPU AMD RYZEN7 4800H ความเร็ว 2.90 – 4.20GHz โดยเป็นแบบ 8 คอร์ 16 เธรด และใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ 7 นาโนเมตร และมาด้วยการ์ดจอ RTX 2060 6GB GDDR6 VRAM และมาพร้อมกับ RAM 16GB DDR4 3200MHz เต็มๆครับเป็นแบบ 2 Slot ใส่มาให้ และในเรื่องของ SSD นั้นให้มาที่ PCIe NVMe 1TB M.2 ถือว่าสเปกการใช้งานเน้นๆคุ้มๆครับ และหน้าจอในรุ่นนี้นั้น ให้มาที่ขนาด 15.6″ นิ้ว (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 144Hz หน้าจอแบบด้าน Anti-Glare IPS-level Panel 45% NTSC พร้อมกับ Adaptive Sync พร้อมรองรับมาตรฐานความแข็งแรง MIL-STD-810H ครับ และที่สำคัญนั้นยังคงมีกล้องหน้ามาให้อยู่ รวมถึงทางด้าน Keyboard นั้นเป็นไฟ RGB ปรับเปลี่ยนได้แต่จะเป็นโทนสีเดียวทั้งหมดครับ และ ทางด้านลำโพงนั้นก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยเช่นกันครับ
- Windows 10 Home/R5-4600H/GTX 1650Ti 4GB GDDR6/ DDR4 8GB 3200/PCIe NVMe 512GB M.2 SSD/15.6” FHD 144 Hz
ราคา 26,990.- บาท
- Windows 10 Home/R7-4800H/GTX 1650Ti 4GB GDDR6/DDR4 8GB 3200/PCIe NVMe 512GB M.2 SSD/15.6” FHD 144 Hz
ราคา 29,990.- บาท
- Windows 10 Home/R7-4800H/GTX 1660Ti 6GB GDDR6/DDR4 8GB 3200/PCIe NVMe 512GB M.2 SSD/15.6” FHD 144 Hz
ราคา 32,990.- บาท
- สเปกที่เรารีวิวนั้น Windows 10 Home/R7-4800H/RTX 2060 6GB GDDR6/DDR4 8GBx2 3200/PCIe NVMe 1TB M.2 SSD/15.6” FHD 144 Hz พร้อมราคา 39,990 บาท
UNBOX
ทางด้านตัวกล่องนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของงานออกแบบทั้งหมด ทั้งของรูปทรงตัวกล่องและตัวลวดลายที่ปรับเข้ากับตัวเครื่องมากขึ้นด้วยครับแอบดูดีกว่าเดิมเยอะเลยสมราคามากขึ้น ส่วนอุปกรณ์ในตัวกล่องให้มาพอดี เหมือนทั่วไปครับทั้งเรื่องของ Adaptor ชาร์จไฟ ตัวคู่มือต่างๆ และแน่นอนว่าตัวเครื่องด้วย แต่มี สติกเกอร์มาให้ด้วยครับ
DESIGN
งานออกแบบมีการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบครั้งใหญ่ในภายนอกฝาหลังและทั้งหมดของตัวเครื่อง เป็นจุดที่ค่อนข้างชอบมากๆครับเพราะมีความเรียบหรูลงตัวมากกว่าเดิมเยอะมากดูแพงขึ้นเยอะมากครับ เพราะรุ่นก่อนๆเราบ่นไปว่าดีไซน์มันดูเยอะไปในด้านหลังแม้จะดูสายเกมก็จริงแต่บางทีมันเยอะไปหน่อยชอบแบบเรียบๆแต่ดูเท่ไปในตัวและตัวนี้ก็ได้ทำออกมาตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ เปลี่ยนแปลงงานออกแบบทั้งหมดฝาหลังสวยพร้อมโลโก้ตรงกลาง และมีเว้าอะไรรวมถึงออกแบบเหมือนมีน็อต 4 มุมด้วยและตัวเครื่องก็ใช้ฝาหลังแบบเรียบสีด้าน คนละแบบกับส่วนอื่นๆด้วยเช่นกัน
เมื่อเปิดเข้ามาข้างในนั้นเราจะยังคงเห็นการออกแบบที่คล้ายๆตัวเดิมอยู่บ้างในส่วนของที่วางมือและลวดลายตรงส่วนนั้นครับจริงๆทำเรียบไปก็ดูดีอีกแบบเหมือนกันแต่ก็อาจจะเป็นการออกแบบที่คงเอกลัษณ์ของตระกูลนี้อีกทางนึงครับ และขอบจออะไรบางขึ้น การออกแบบอะไรขนาดเครื่องกระชับมากขึ้น แป้นพิมพ์สุดขอบมากกว่าเดิมด้วยเช่นกันครับ ส่วนวัสดุอะไรพวกนี้รู้สึกดีกว่าเดิมแน่นแข็งแรงมากขึ้นในระดับของมัน และฝาหลังสวยขึ้นเยอะมากๆเรียบสวยลงตัวครับ
ขอบหน้าจอรุ่นนี้มีความบางอะไรไม่หนีจากเดิมแต่รูปทรงงานออกแบบขอบหน้าจอการตัดมุมอะไรนั้นมีความเล็กลงกว่าเดิมด้วยเช่นกัน ทางด้านกล้องหน้านั้นยังคงมีมาให้ไม่ได้ตัดออกไปไหนส่วนข้างในยังคงมีโลโก้ ASUS อยู่เช่นกัน
ฝาหลังเป็นการเปลี่ยนแปลงหลักๆใช้วัสดุพลาสติกคล้ายส่วนอื่นๆ แต่จะเป็นอีกโทนสีและเล่นลวดลายแบบเรียบๆต้องบอกว่าเป็นฝาหลังที่ทำสวยสุดในบรรดาตระกูลนี้ที่เคยออกมาเลยครับดูเรียบหรู ดูแพงขึ้นเยอะพร้อมกับโลโก้ TUF ที่ใส่เข้ามาครับและการตัดขอบมุมทั้ง 4 ยังคงมีมาเหมือนเดิมและมีการเล่นออกแบบคล้ายๆน็อตยึด 4 มุมดูแปลกตาดี
ฝาหลังมีการออกแบบเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด มีการเจาะรูคล้ายรังผึ้งด้วยเช่นกัน และลวดลายอะไรเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดดูสวยงามขึ้นเยอะเลยแหละ ส่วนช่องระบายมีมาให้พอประมาณแต่จริงๆน่าจะเจาะได้เยอะกว่านี้ครับแอบดูน้อยไปหน่อย ส่วนทางด้านในนั้น Layout เหมือนกับรุ่นก่อนเป๊ะๆเลยไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างภายในเท่าไรนักครับ ทั้ง พัดลม 2 ตัว ระบายได้ 3 ทิศทาง พร้อม Heat pipe 4 เส้นวางตำแหน่งเดิม รวมถึง ช่องใส่ M.2 ให้มา 2 ช่อง ว่าง 1 และ RAM 2 Slot ใส่มาเต็ม 16GB และพื้นที่ว่างสำหรับใส่ SATA SSD ได้ด้วยครับถือว่ารองรับการอัพเกรดอะไรได้สบาย
ในส่วนของขาพับอะไรต่างๆนั้นดูแข็งแรงขึ้นและวัสดุอะไรนั้นแอบคล้ายๆเดิมครับ มีการเล่นลวดลายของตัวเครื่องที่แตกต่างกันเหมือนเดิมไม่ใช่วัสดุแบบเรียบๆสีดำครับ ก็ทำให้ดูมีอะไรมากขึ้นส่วนวัสดุความรู้สึกยังคงเป็นพลาสติกเยอะหน่อยในรุ่นนี้ครับ ส่วนการระบายตรงกลางนั้นยังมีมาให้เหมือนกันครับ สำหรับดูดอากาศเข้าเครื่อง และมีบอกไฟสถานะรวมถึงเขียนชื่อรุ่นมาให้ และตรงหน้าจอก็เว้าสำหรับการระบายอากาศได้เหมือนรุ่นอื่นๆของค่ายนี้เลยครับ
ในส่วนของช่องระบายอากาศนั้นจะเห็นว่าตัวช่องระบายอากาศนั้นเปลี่ยนงานออกแบบใหม่ทั้งหมดเล่นลวดลายอะไรสวยงามขึ้นดูดีขึ้นเยอะมาก และแน่นอนว่ามีทั้ง 2 ฝั่งเช่นเดิมและมีเพิ่มฝั่งขวาตัวเครื่องมาด้วย ระบาย 3 ทิศทางครับ แต่แอบชอบการออกแบบตรงนี้มากๆเลยดูดีกว่าเดิมเยอะครับ ส่วนตรงกลางก็ดูดีถือว่าทีมออกแบบครั้งนี้ทำได้ดีครับ
SPEC
- AMD® Ryzen™ 7 4800H Processor
- ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home
- DDR4 3200MHz SDRAM, 2 x SO-DIMM socket 16 GB SDRAM, Dual-channel
- การแสดงผล 15.6″ (16:9) LED-backlit FHD (1920×1080) 144Hz Anti-Glare IPS-level Panel with 45% NTSC With Adaptive Sync
- กราฟิก NVIDIA® GeForce® RTX 2060 , with 6GB GDDR6 VRAM
- สตอเรจ Solid state drive: 1TB PCIe® Gen3 SSD
- คีย์บอร์ด Chiclet keyboard with isolated numpad key + RGB
- WebCam HD 720p CMOS module
- เน็ตเวิร์คกิ้ง Wi-Fi Integrated Wi-Fi 5 (802.11 ac (2×2))
- Bluetooth Bluetooth® 5.0
- อินเตอร์เฟส
1 x COMBO audio jack
2 x Type-A USB 3.2 (Gen 1)
1 x Type-C USB 3.2 (Gen 2) with display supportDP1.4
1 x Type-A USB2.0
1 x RJ45 LAN jack for LAN insert
1 x HDMI, HDMI support 2.0b
1 x AC adapter plug
- ออดิโอ DTS:X® Ultra
- แบตเตอรี่ 48 Wh lithium-polymer battery Battery
- ขนาด NB: 35.9 x 25.6 x 2.49 ~2.47 cm (WxDxH) น้ำหนัก NB:2.3 kg
PERFORMANCE
ประสิทธิภาพในรุ่นนี้เด่นๆเลยคือเจ้า CPU ตัวใหม่ที่ได้ใช้งาน AMD Ryzen 4000 Series มากับเจ้า AMD Ryzen 7 4800H ขนาด 7nm 2.9-4.2 GHz 8 Core/16 Thread L3 Cache 12MB แน่นอนว่าด้วยเทคโนโลยีการผลิตอะไรทั้งหลายทำให้มันทำได้ดีมากๆในส่วนนี้ และ ส่วนการ์ดจอ นั้นยังคงใช้งานของ NVIDIA GeForce RTX 2060 มาพร้อมกับ 6GB GDDR6 และทางด้าน Ram ให้มา 16GB DDR4 bus 3200 2 ช่องใส่มาเต็มครับ รองรับได้ 32GB สูงสุดนั้นเองครับ ส่วน SSD 1TB PCIe® Gen3 SSD M.2 ให้มาเรียบร้อยและ มีช่องว่างโล่งๆ 1 ช่องสำหรับใส่เพิ่มได้เลย และมาพร้อมกับ Windows 10 เรียบร้อยพร้อมใช้
PCMARK
นั้นทำคะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว Ryzen 7 4800H นั้นทำออกมารอบรับพวกนี้อยู่แล้วครับทำ ไปได้ 5395 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบครับ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง และ รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆและดีกว่าตัว i7 9750H อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ครับ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ 5,500 คะแนนครับ
3DMARK
นั้น ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 4 แบบนะครับ ตัว FIRESTRIKE EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 7327 ถือว่าดี และในคะแนน FIRESTRIKE นั้นทำไปได้ 14628 และ ทดสอบตัวเทพสุด FIRESTRIKE ULTRA 3721 คะแนนในแบบที่โหดๆขึ้นมานั้นเอง ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 4 แบบ และในส่วนของ PORT ROYAL ในการทดสอบ RAY TRACING นั้น ได้คะแนน 3399 คะแนนครับ
ความร้อน CPU 89 GPU 76
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้