เราเชื่อว่าทั้งสองฝั่ง  คือทั้งฝั่งนักประวัติศาสตร์และนักจิตวิญาณศาสตร์ต่างมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่อนุมานเอาเอง
ผีเองก็ไม่ได้รู้ไปซะทุกเรื่อง คงรู้แค่ตอนที่ตัวเองมีชีวิตอยู่และหลังจากที่ตัวเองตายไปแล้ว
ส่วนประวัติก่อนหน้านั้น ผีหารู้ได้ไม่ หรืออาจจะถามผีผิดตัวก็ได้ เค้าไม่ได้ถามผีที่มีอายุพันปีนี่

จริงๆ เมื่อโดนแย้ง ต้องรับฟัง ไม่ใช่หาว่าเค้าโจมตี ไม่ใช่คิดว่ามีมารมาผจญ มาขัดขวางการสร้างความดี
อย่างกรณีวัดล่าสุดที่บอกว่าพระเจ้าเอกทัศน์เป็นผู้สร้าง อันนี้ผีบอก
จะบอกว่าผีโกหกก็ไม่ได้ เพราะผีอาจจะเรียกสิ่งที่ท่านมาต่อเติมบางส่วนนั้นว่าท่านสร้างก็ได้
เมื่อถามสั้นๆ ผีก็ตอบสั้นๆ
คนฟังตีความเอาเอง

แต่…
เมื่อรู้ตัวว่าผิด ก็ยอมรับแล้วก็ยอมแก้ไข จะกลับไปถามผีอีกที หรือกล่าวขอโทษที่ให้ข้อมูลผิดในเทปถัดไป ก็ย่อมทำได้
เรื่องมันจบง่ายๆ ไม่ต้องมาดราม่า ไม่ต้องคิดว่าใครมาเกาะกระแส ป้องกันไม่ให้คนอื่นมีอคติกับตัวเอง
ดีกว่าป่าวประกาศว่า การพูดจาให้ร้ายจะต้องตกนรก จะต้องรับกรรมยังไงเป็นไหนๆ
ดีกว่าคิดเข้าข้างตัวเองว่า ใครด่าคุณเท่ากับยกบุญให้คุณ
เมื่อคุณคิดว่า คุณมาให้ความรู้ ให้ประวัติศาสตร์นอกตำรา
แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือว่า ถ้าสิ่งที่คุณรู้มันไม่จริงทั้งหมด จะเป็นการสร้างเวรกรรมให้ใครอีก

อย่างกรณีวัดบ้านแกนั่นก็เหมือนกัน
บอกว่าผีร้ายงั้นงี้ พอปราบผีลงหม้อ แล้วเจอผีชาวบ้านพูดอีกอย่าง … เป็นไงล่ะ
คงต้องย้อนพิจารณาสักหน่อย ว่าทำไมทีมอื่นเค้าไม่โดนโจมตีขนาดนี้ แต่ทีมนี้โดนบ่อย
ส่วนตัวแยกไม่ออก ว่าคำแนะนำที่เค้าให้ เป็นที่เซ้นส์ของเค้าเอง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดดลใจ หรือธรรมะข้อใดให้มา
หลายคำตอบ ฟังแล้วไม่สามารถเชื่อได้สนิทใจ แต่ไม่คิดและไม่เชื่ออะไรมาก เพราะเค้าบอกอยู่แล้วว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

ส่วนคนจะแย้งเค้า ก็แย้งด้วยคำพูดดีๆ ไม่ใช่ไปดูถูกเขาว่าเขางมงาย มั่วประวัติศาสตร์
ถกกันอย่างอย่างวิญญูชนทั้งสองฝ่าย มันก็เกิดการพัฒนาไปในทางที่ดี
เราเองก็ไม่ได้เชื่อเค้าทั้งหมด เพราะหลายอย่างขัดๆ กันในความรู้สึก ดูเป็นรายการบันเทิงรูปแบบหนึ่ง