คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) วันที่ 5 มิ.ย. 2563
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 5 มิถุนายน 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,102 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ (ติดต่อกันเป็นวันที่ 11)
-มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,971 ราย (95.78%) (เพิ่มขึ้น 3 ราย)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศคูเวต อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ วช. ได้ปรับรูปแบบการรายงาน โดยจะรายงานรวมทั้งในส่วนประเทศไทย อาเซียน และต่างประะเทศ ในรอบรายงานเดียวกัน และยกเลิกการรายงานในรอบเย็น
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2831348916990662
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2563
เงินเยียวยาฯ ถึงมือเกษตรกรแล้วกว่า 7 ล้านราย
#ไทยคู่ฟ้า ยินดีกับพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศด้วยครับ ที่ล่าสุด โครงการเงินเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเวลา 3 เดือน เดือนละ 5,000 บ. ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรกลุ่มที่ 1 (ผู้ที่อยู่ในระบบอยู่แล้ว) และกลุ่มที่ 2 (ผู้ที่ขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 พ.ค. 63) แล้วกว่า 7,103,721 ราย รวมเป็นเงิน 35,518 ล้านบาท
.
ส่วนเกษตรกรกลุ่มที่ 3 (ผู้ที่ยังอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียน) จะได้รับเงินครั้งเดียว 15,000 บาท ภายในวันที่ 15 ส.ค. 63
.
หากเกษตรกรกลุ่มที่ 1 และ 2 รายใดยังไม่ได้รับเงินเยียวยา สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ด้วยตนเองภายในวันที่ 5 มิ.ย. 63 ได้ที่
1. สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง
2. สำนักงานประมงจังหวัด/อำเภอทุกแห่ง
3. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด/อำเภอทุกแห่ง
4. กรมหม่อนไหม และศูนย์หม่อนไหม 21 แห่ง
5. สำนักงานการยางแห่งประเทศไทยประจำจังหวัด และสาขาทุกแห่ง
6. ยาสูบแห่งประเทศไทยในส่วนภูมิภาคทุกแห่ง
7. สำนักงานอ้อยและน้ำตาลทรายในส่วนภูมิภาคทุกแห่ง
8. สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด
.
และสามารถตรวจสอบข้อมูลของตนเองได้อย่างเบ็ดเสร็จในที่เดียวได้ที่ www.moac.go.th ทั้งผลการขึ้นทะเบียน ตรวจสอบสิทธิ์เงินเยียวยา ตรวจสอบผลการโอนเงิน แจ้งช่องทางการรับเงินโอน และตรวจสอบสถานะอุทธรณ์เงินเยียวยา
Cr : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/930512914081182
ดึง 2 ยักษ์ค้าออนไลน์...ช่วยเหลือเกษตกรไทย
#ไทยคู่ฟ้า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ทุกอาชีพต้องปรับตัวก้าวเข้าสู่สังคม “ซื้อ - ขายออนไลน์” รวมทั้งภาคการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดออนไลน์ (online marketing) จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย (GRAB Thailand) และ บริษัทอาลีบาบา (Alibaba) สนับสนุนการขายสินค้าเกษตรไทยบนแพลตฟอร์มออนไลน์
.
สำหรับ “แกร็บ ประเทศไทย” จะดำเนินการจัดส่งผลไม้โดยตรงจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภค ผ่านบริการ GrabMart ภายใต้ชื่อ “Farmer Mart (ตลาดเกษตรกร)” ในแอปพลิเคชันแกร็บ ขณะนี้ได้เปิดให้บริการแล้ว ซึ่งผลไม้ที่จัดส่งในช่วงนี้ได้แก่
- มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง จ.พะเยา
- ลิ้นจี่ฮงฮวย และลิ้นจี่จักรพรรดิ์ จ.พะเยา
- มังคุดและทุเรียน จ.ระยอง
- กล้วยหอมทอง จ.เพชรบุรี
.
ส่วนความร่วมมือกับ อาลีบาบา (Alibaba) นั้น จะดำเนินการภายใต้โครงการ “เกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกด้วย Alibaba.com” เป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ และผู้ที่สนใจมาสมัครเข้าร่วมโครงการ และผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุกองค์ความรู้ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์โอกาสขายสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก การใช้แพลตฟอร์มอาลีบาบา เป็นต้น ทั้งนี้จะทำการสอนผ่านสื่อออนไลน์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในโอกาสต่อไป
.
ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการไทยหลายรายที่ประสบความสำเร็จในการขายสินค้าไทยไปยังตลาดโลกผ่านแพลตฟอร์มของอาลีบาบาและสินค้าเกษตรที่ถูกส่งออกไปขายตลาดโลก เช่น มันสำปะหลัง ข้าว กระเทียมดำ สับปะรด ข้าวโพด รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูป เช่น กระเทียมดำ น้ำตาล เป็นต้น คาดว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะเกษตรกรไทยมีความเข้มแข็งและมีความพร้อม เพื่อก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/929895874142886
#ไทยคู่ฟ้า ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Rapid Test สำหรับตรวจโรคโควิด – 19
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/924354418030365
นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงประชาชนที่เดินทางออกมาท่องเที่ยวชายหาดบางแสนเป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ขอให้ช่วยตักเตือนกันไม่ให้เกิดขึ้นเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด - 19
การผ่อนปรนในกิจกรรม/กิจการ ในระยะที่ 4 อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ต้องนำเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อื่นๆ มาประกอบการพิจารณา เช่นกรณีชายหาดบางแสน เป็นต้น หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะคลายล็อกระยะที่ 4 ให้ แต่หากยังมีความเสี่ยงอยู่อาจจะชะลอไว้ก่อน และถ้าจำเป็นก็ต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก
เราต้องเตรียมความพร้อมไว้ด้วย มีแผนสำรองเสมอ การทำงานต้องมีแผนปฏิบัติการ แผนเผชิญเหตุ และสมมติฐานที่เกิดขึ้น ทั้งหมดคือการทำงานของรัฐบาล และผมเคยนำมาใช้ขณะที่เป็นทหาร จึงได้นำวิธีการเหล่านี้มาบริหารด้วย เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่จับต้องได้
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/286785866040076
สธ.วาง 5 แนวทาง ใช้เงินกู้ 4.5 หมื่นล้าน กระจายทุกภาคส่วน
--------------------
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับจัดสรรงบประมาณตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (1 ล้านล้านบาท) จากรัฐบาลจำนวน 45,000 ล้านบาท ซึ่งใช้ในภาพรวมระบบสาธารณสุขทั้งประเทศ ไม่ใช่กระทรวงสาธารณสุขหน่วยงานเดียว จะกระจายไปกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลทุกระดับ สปสช. และหน่วยงานภายนอก เช่น โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลสังกัดอื่น ๆ ในเรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายว่าการใช้จ่ายงบประมาณ ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า กระจายทุกภาคส่วน มีความโปร่งใส มีส่วนร่วม และคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก มีเป้าหมายเพื่อลดการติดเชื้อของประชากรในประเทศให้อยู่ระดับที่ควบคุมได้ ป้องกันความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคระลอกใหม่เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสามารถดำเนินการได้ ภายใต้บริบทความไม่แน่นอนจากโรคอุบัติใหม่ และประชาชนได้รับการบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ทันสมัย มีศักยภาพ
กำหนดการใช้งบประมาณใน 5 แผนงาน ประกอบด้วย 1.แผนงานหรือโครงการเพื่อรองรับค่าใช้จ่าย ค่าเยียวยา ค่าชดเชย และค่าเสี่ยงภัย สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง และค่าใช้จ่ายในการจัดหาผู้ชำนาญการทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2.แผนงานหรือโครงการเพื่อจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ยารักษาโรค วัคซีนป้องกันโรค และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ 3. แผนงานหรือโครงการเพื่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการบำบัดรักษา ป้องกันควบคุมโรค การวิจัยพัฒนาทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อการฟื้นฟูด้านสาธารณสุข 4.แผนงานหรือโครงการเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสถานพยาบาลและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการกักตัวผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และ 5. แผนงานหรือโครงการเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว จะมีคณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ เน้นให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ลดผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หากไม่เพียงพอจะนำเรียนท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประสานของบเพิ่มเติม เน้นนโยบายเร่งด่วน เช่น ค่าใช้จ่ายการกักตัวในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) การวิจัยพัฒนา และจัดซื้อจัดหาวัคซีนในอนาคต เป็นต้น
https://www.facebook.com/realnewsthailand/posts/696050417894358
วันนี้ (5 มิ.ย. 63) ... ติดเชื้อในประเทศ เป็น 0 ติดต่อกัน 11 วัน
ทุกคนเป็นฮีโร่ ที่จะช่วยดูแลสังคมของเรา
อยู่ห่างไว้
ใส่แมสค์กัน
หมั่นล้างมือ
ถือหลักรักสะอาด
ปราศจากแออัด
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/149717653313234
การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19)
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 5 มิถุนายน 2563
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ณ วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน 2563
ประเทศไทย
ผู้ติดเชื้อสะสม 3,102 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย)
-ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ (ติดต่อกันเป็นวันที่ 11)
-มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย
เสียชีวิตรวม 58 ราย (ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในวันนี้)
รักษาหายป่วยแล้ว 2,971 ราย (95.78%) (เพิ่มขึ้น 3 ราย)
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากประเทศคูเวต อยู่ใน State quarantineโดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ วช. ได้ปรับรูปแบบการรายงาน โดยจะรายงานรวมทั้งในส่วนประเทศไทย อาเซียน และต่างประะเทศ ในรอบรายงานเดียวกัน และยกเลิกการรายงานในรอบเย็น
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/2831348916990662
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2563
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2563
เงินเยียวยาฯ ถึงมือเกษตรกรแล้วกว่า 7 ล้านราย
#ไทยคู่ฟ้า ยินดีกับพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศด้วยครับ ที่ล่าสุด โครงการเงินเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเวลา 3 เดือน เดือนละ 5,000 บ. ได้โอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรกลุ่มที่ 1 (ผู้ที่อยู่ในระบบอยู่แล้ว) และกลุ่มที่ 2 (ผู้ที่ขึ้นทะเบียนภายในวันที่ 15 พ.ค. 63) แล้วกว่า 7,103,721 ราย รวมเป็นเงิน 35,518 ล้านบาท
.
ส่วนเกษตรกรกลุ่มที่ 3 (ผู้ที่ยังอยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียน) จะได้รับเงินครั้งเดียว 15,000 บาท ภายในวันที่ 15 ส.ค. 63
.
หากเกษตรกรกลุ่มที่ 1 และ 2 รายใดยังไม่ได้รับเงินเยียวยา สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ด้วยตนเองภายในวันที่ 5 มิ.ย. 63 ได้ที่
1. สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง
2. สำนักงานประมงจังหวัด/อำเภอทุกแห่ง
3. สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด/อำเภอทุกแห่ง
4. กรมหม่อนไหม และศูนย์หม่อนไหม 21 แห่ง
5. สำนักงานการยางแห่งประเทศไทยประจำจังหวัด และสาขาทุกแห่ง
6. ยาสูบแห่งประเทศไทยในส่วนภูมิภาคทุกแห่ง
7. สำนักงานอ้อยและน้ำตาลทรายในส่วนภูมิภาคทุกแห่ง
8. สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด
.
และสามารถตรวจสอบข้อมูลของตนเองได้อย่างเบ็ดเสร็จในที่เดียวได้ที่ www.moac.go.th ทั้งผลการขึ้นทะเบียน ตรวจสอบสิทธิ์เงินเยียวยา ตรวจสอบผลการโอนเงิน แจ้งช่องทางการรับเงินโอน และตรวจสอบสถานะอุทธรณ์เงินเยียวยา
Cr : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/930512914081182
ดึง 2 ยักษ์ค้าออนไลน์...ช่วยเหลือเกษตกรไทย
#ไทยคู่ฟ้า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ทุกอาชีพต้องปรับตัวก้าวเข้าสู่สังคม “ซื้อ - ขายออนไลน์” รวมทั้งภาคการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของตลาดออนไลน์ (online marketing) จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย (GRAB Thailand) และ บริษัทอาลีบาบา (Alibaba) สนับสนุนการขายสินค้าเกษตรไทยบนแพลตฟอร์มออนไลน์
.
สำหรับ “แกร็บ ประเทศไทย” จะดำเนินการจัดส่งผลไม้โดยตรงจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภค ผ่านบริการ GrabMart ภายใต้ชื่อ “Farmer Mart (ตลาดเกษตรกร)” ในแอปพลิเคชันแกร็บ ขณะนี้ได้เปิดให้บริการแล้ว ซึ่งผลไม้ที่จัดส่งในช่วงนี้ได้แก่
- มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง จ.พะเยา
- ลิ้นจี่ฮงฮวย และลิ้นจี่จักรพรรดิ์ จ.พะเยา
- มังคุดและทุเรียน จ.ระยอง
- กล้วยหอมทอง จ.เพชรบุรี
.
ส่วนความร่วมมือกับ อาลีบาบา (Alibaba) นั้น จะดำเนินการภายใต้โครงการ “เกษตรไทยก้าวไกลสู่ตลาดโลกด้วย Alibaba.com” เป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ และผู้ที่สนใจมาสมัครเข้าร่วมโครงการ และผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุกองค์ความรู้ต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์โอกาสขายสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก การใช้แพลตฟอร์มอาลีบาบา เป็นต้น ทั้งนี้จะทำการสอนผ่านสื่อออนไลน์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในโอกาสต่อไป
.
ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการไทยหลายรายที่ประสบความสำเร็จในการขายสินค้าไทยไปยังตลาดโลกผ่านแพลตฟอร์มของอาลีบาบาและสินค้าเกษตรที่ถูกส่งออกไปขายตลาดโลก เช่น มันสำปะหลัง ข้าว กระเทียมดำ สับปะรด ข้าวโพด รวมทั้งสินค้าเกษตรแปรรูป เช่น กระเทียมดำ น้ำตาล เป็นต้น คาดว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะเกษตรกรไทยมีความเข้มแข็งและมีความพร้อม เพื่อก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/929895874142886
#ไทยคู่ฟ้า ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Rapid Test สำหรับตรวจโรคโควิด – 19
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/924354418030365
นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงประชาชนที่เดินทางออกมาท่องเที่ยวชายหาดบางแสนเป็นจำนวนมากในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ขอให้ช่วยตักเตือนกันไม่ให้เกิดขึ้นเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก หลีกเลี่ยงพื้นที่แออัด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด - 19
การผ่อนปรนในกิจกรรม/กิจการ ในระยะที่ 4 อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ต้องนำเหตุการณ์ หรือสถานการณ์อื่นๆ มาประกอบการพิจารณา เช่นกรณีชายหาดบางแสน เป็นต้น หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะคลายล็อกระยะที่ 4 ให้ แต่หากยังมีความเสี่ยงอยู่อาจจะชะลอไว้ก่อน และถ้าจำเป็นก็ต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก
เราต้องเตรียมความพร้อมไว้ด้วย มีแผนสำรองเสมอ การทำงานต้องมีแผนปฏิบัติการ แผนเผชิญเหตุ และสมมติฐานที่เกิดขึ้น ทั้งหมดคือการทำงานของรัฐบาล และผมเคยนำมาใช้ขณะที่เป็นทหาร จึงได้นำวิธีการเหล่านี้มาบริหารด้วย เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่จับต้องได้
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/286785866040076
สธ.วาง 5 แนวทาง ใช้เงินกู้ 4.5 หมื่นล้าน กระจายทุกภาคส่วน
--------------------
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รับจัดสรรงบประมาณตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 (1 ล้านล้านบาท) จากรัฐบาลจำนวน 45,000 ล้านบาท ซึ่งใช้ในภาพรวมระบบสาธารณสุขทั้งประเทศ ไม่ใช่กระทรวงสาธารณสุขหน่วยงานเดียว จะกระจายไปกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลทุกระดับ สปสช. และหน่วยงานภายนอก เช่น โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลสังกัดอื่น ๆ ในเรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายว่าการใช้จ่ายงบประมาณ ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า กระจายทุกภาคส่วน มีความโปร่งใส มีส่วนร่วม และคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก มีเป้าหมายเพื่อลดการติดเชื้อของประชากรในประเทศให้อยู่ระดับที่ควบคุมได้ ป้องกันความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคระลอกใหม่เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสามารถดำเนินการได้ ภายใต้บริบทความไม่แน่นอนจากโรคอุบัติใหม่ และประชาชนได้รับการบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ทันสมัย มีศักยภาพ
กำหนดการใช้งบประมาณใน 5 แผนงาน ประกอบด้วย 1.แผนงานหรือโครงการเพื่อรองรับค่าใช้จ่าย ค่าเยียวยา ค่าชดเชย และค่าเสี่ยงภัย สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง และค่าใช้จ่ายในการจัดหาผู้ชำนาญการทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2.แผนงานหรือโครงการเพื่อจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และสาธารณสุข ยารักษาโรค วัคซีนป้องกันโรค และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ 3. แผนงานหรือโครงการเพื่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการบำบัดรักษา ป้องกันควบคุมโรค การวิจัยพัฒนาทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อการฟื้นฟูด้านสาธารณสุข 4.แผนงานหรือโครงการเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสถานพยาบาลและค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการกักตัวผู้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และ 5. แผนงานหรือโครงการเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว จะมีคณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณ เน้นให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ลดผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หากไม่เพียงพอจะนำเรียนท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประสานของบเพิ่มเติม เน้นนโยบายเร่งด่วน เช่น ค่าใช้จ่ายการกักตัวในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) การวิจัยพัฒนา และจัดซื้อจัดหาวัคซีนในอนาคต เป็นต้น
https://www.facebook.com/realnewsthailand/posts/696050417894358
วันนี้ (5 มิ.ย. 63) ... ติดเชื้อในประเทศ เป็น 0 ติดต่อกัน 11 วัน
ทุกคนเป็นฮีโร่ ที่จะช่วยดูแลสังคมของเรา
อยู่ห่างไว้
ใส่แมสค์กัน
หมั่นล้างมือ
ถือหลักรักสะอาด
ปราศจากแออัด
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/149717653313234
แสดงความคิดเห็น
⛅/มาลาริน/ติดเชื้อโควิดวันนี้ 1ราย มาจากต่างประเทศ จีนวิจัยพบคนอายุน้อยป่วยไม่มีอาการ ทั่วโลกป่วยเสียชีวิตเป็นใบไม้ร่วง
ศบค.แถลงพบผู้ป่วย‘โควิด’ใหม่ 1 ราย ไม่มียอดผู้เสียชีวิต ยอดติดเชื้อสะสม 3,102 ราย
วันศุกร์ ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.32 น.
วันที่ 5 มิถุนายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย มีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,102 ราย อยู่ในสถานที่กักกัน 165 ราย หายป่วยสะสม 2,971 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 58 ราย อยู่ระหว่างรักษา 73 ราย
โดยผู้ป่วยรายใหม่ เป็นชายไทย อายุ 45 ปี อาชีพรับจ้างทำงานที่แคมป์ของโรงงาน กลับถึงไทยเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม และเข้าพัก Stata Quarantine ที่กรุงเทพมหานคร ตรวจครั้งที่ 1 วันที่ 26 พฤษภาคม ไม่พบเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 3 พฤษภาคม พบเชื้อ(ไม่มีอาการ) รักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร
https://www.naewna.com/local/497265
'บราซิล'เสียชีวิตพุ่งเป็นอันดับ3ของโลก 'เม็กซิโก'ชาติที่14ติดโควิดทะลุแสน
วันศุกร์ ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 09.21 น.
5 มิถุนายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ในประเทศบราซิล พบผู้ป่วยใหม่ในรอบ 24 ชั่วดมงที่ผ่านมาจำนวน 30,925 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 614,941 คน มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมมีจำนวน 34,021 คน แซงอิตาลีขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของโลก
ในอีกด้านประเทศเม็กซิโกกลายเป็นประเทศที่ 14 ของโลก ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทะลุเกินแสนคน หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา 3,912 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 101,729 คน
https://www.naewna.com/inter/497246
งานวิจัยจีนเผยคนอายุน้อยเสี่ยงป่วยโควิดไม่แสดงอาการ พบแพร่เชื้อนานถึง12วัน
วันศุกร์ ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 11.54 น.
วันที่ 5 มิถุนายน 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน ของงานวิจัยพบผู้ที่อายุน้อยเสี่ยงป่วยโดยไม่แสดงอาการแพร่เชื้อได้นานถึง 12 วัน
งานวิจัยล่าสุดจากประเทศจีน ซึ่งศึกษาจากผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 78 ราย จากการระบาดในเมืองอู่ฮั่น เปรียบเทียบผู้ป่วย 2 กลุ่มคือ กลุ่มผู้ป่วยที่แสดงอาการ 45 ราย และผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ 33 ราย พบว่า กลุ่มผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการจะเป็นอายุเฉลี่ย 37 ปี ส่วนผู้ป่วยที่แสดงอาการอายุเฉลี่ย 56 ปี โดยพบว่า ผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ แม้ภายนอกจะดูเหมือนปกติ แต่สามารถแพร่เชื้อได้นานถึง 12 วัน (เฉลี่ย 8 วัน) ส่วนผู้ป่วยที่แสดงอาการ มีระยะการแพร่เชื้อสูงสุด 24 สัน (เฉลี่ย 19 วัน)
อย่างไรก็ตามในจำนวนผู้ป่วยไม่แสดงอาการ 33 รายนี้ ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต ส่วนผู้ป่วยที่แสดงอาการ 45 ราย เสียชีวิต 2 ราย
โดยการวิจัยนี้ยังสอกคล้องกับงานวิจัยอื่นๆที่พบว่าผู้ป่วยไม่แสดงอาการจะมีจำนวนประมาณ 40 % ของผู้ป่วยทั้งหมด
https://www.naewna.com/local/497270
ดีดี้ดีค่ะ...ไม่น่ากลัวเช่นวันวานที่ติดเชื้อเยอะมาก
แต่น่ากลัวที่งานวิจัยจากจีนบอกว่าคนอายุน้อยติดเชื้อไม่มีอาการ
อาจแพร่เชื้อได้ไม่รู้ตัว
ทั่วโลกยังคงมีผู้เสียชีวิตอย่างใบไม้ร่วง
ไทยจึงต้องระมัดระวังคนที่มาจากต่างประเทศอาจแพร่เชื้อ
การกักกันคนที่เข้ามาจึงต้องทำต่อไป อย่างเดิมนะคะ
ขอให้ทุกคนสู้ๆค่ะ รักษามาตรการ 5 อย่างที่หมอทวีศิลป์บอกไว้
เอาใจช่วยให้ผ่านวิกฤตไปค่ะ สู้ๆนะคะ...👍💓🌹