ผมชมการวิเคราะห์เกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย 2 รายการแล้ว พอสรุปได้ ดังนี้
1) GDP ไตรมาส 1(Q1) ติดลบ 1.8 %
2) GDP ไตรมาส 2(Q2 วันที่ 30 มิถุนายน 2563) จะติดลบ 14%เศษ ซึ่งมากกว่า Q2 ของวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งอยู่ที่ 12% เศษ
3) เฉลี่ยทั้งปี GDP จะติดลบ 6%
หลายสถาบันวิเคราะห์ใกล้เคียงกัน
ถ้าการวิเคราะห์ GDP ในข้อ 2) ถูกต้อง หมายความว่าในQ2 นี้บริษัทต่างๆ จะกำไรน้อยมาก บางบริษัทจะขาดทุนขนาดหนัก จนอาจจะอยู่ไม่ได้
ราคาหุ้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลกำไร ถ้าบริษัทกำไรมากราคาหุ้นจะสูง ถ้าบริษัทกำไรน้อยราคาหุ้นจะลดลง ถ้าบ.ขาดทุนราคาหุ้นจะลดต่ำลงอีกมาก
หลักการแบบนี้เป็นพื้นฐาน ดูได้จากงบการเงิน ได้แก่ งบดุล(Balance Sheet) งบกำไรขาดทุน(Profit and loss Statement) งบกระแสเงินสด(Cash Flow Statement) หมายเหตุประกอบงบการเงิน) การตลาด นอกจากนี้จะต้องรู้เศรษฐศาตร์ FOREX เพราะจะมีผลกระทบมาถึงราคาหุ้น หลายคนคงไม่เข้าใจ เพราะตอนเรียนอจ.ไม่ได้สอนอย่างนี้ ผมเข้าใจเพราะศึกษามาตลอด
คนที่จบสายวิทยาศาสตร์ เช่น วิศวกรหลายคนสนใจซื้อขายหุ้น เห็นเขาศึกษางบการเงินอย่างจริงจัง จำนวนมากจะเรียนต่อ MBA ได้ดีร่ำรวยไปก็มาก เหมือน US จบป.ตรีวิศวกรรม จะเรียนต่อ MBA มากกว่า
Warren Buffet เซียนหุ้นรวยอันดับที่ 1 ของโลก และเทียบกับทุกธุรกิจแล้ว เขารวยเป็นอันดับที่ 2 ของโลก คนไทยอยากรวยหุ้นแบบ Buffet
เขากล่าวว่า "คุณต้องเข้าใจบัญชี........
Peter Linch ผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า
"อย่าลงทุนในบริษัทใดๆ โดยที่ยังไม่ เข้าใจงบการเงิน..........
ทั้งสองคนเป็นชาวอเมริกัน ใช้การวิเคราะห์งบการเงินเป็น Fundamental Analysis(FA) จะเกี่ยวกับ บัญชี การเงิน เศรษฐศาสตร์ ใครเรียนทางนี้น่าจะวิเคราะห์งบการเงินเป็น แต่ความเป็นจริงส่วนมากก็ไม่รู้เรื่อง แต่มันละเอียดและซับซ้อนพอสมควร ต้องใช้เวลาแกะนาน แต่อยากรวยก็ต้องทำให้ได้
ผมดูจากพันทิปคนไทยพูดแต่ Technical Analysis(TA) และ Inside Information ซึ่งมักจะเป็น Fake News
เซียนหุ้นชาวไทยคนหนึ่งซึ่งคนไทยรู้จักดีกล่าวว่า เมื่อ Port ของเขาใหญ่ขึ้น เขาใช้ Fundamental Analysis แทน เพราะ Technical Analysis ใช้ไม่ได้แล้ว
แต่ใครถนัดทางไหนก็แล้วแต่ คนใช้ TA ก็อาจจะกำไรมากก็ได้ ลองเล่าสู่กันฟังบ้าง หลังวันที่ 30 มิ.ย. ดูว่าตลาดหุ้นมันจะออกหมู่หรือจ่า
ไวรัสโควิดนี้ผมว่ามันเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 3 เศรษฐกิจเสียหายกันแทบทุกประเทศ วัคซีนก็แค่ราคาคุย ยังอีกนาน อย่างเร็วก็กลางปีหน้า 2021 ใครผลิตวัคซีนได้ก่อนก็รวยเละ ไม่มีบริษัทไหนกั๊กเรื่องนี้หรอก เหมือนไวรัสบี(กว่า 30 ปีแล้ว) ตอนยาออกใหม่เข็มละ 1,000-2,000 บาท ต้องฉีด 3 ครั้ง คนจำนวนมากไม่ยอมฉีดเพราะแพง คนที่ผมรู้จักป่วย 6 คนรอดคนเดียว คนไทยส่วนมากไม่รู้เรื่องนี้
ไทยพึ่งการส่งออกและการท่องเที่ยวจาก จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปกว่าร้อยละ 60 ของ GDP ซึ่งเจ๊งหมดทุกประเทศ นักลงทุนควรใช้ FA และข้อมูลข่าวสารช่วยการวิเคราะห์ เช่น
1) อเมริกาห้ามขายสินค้าให้บริบัทจีน 33 แห่งตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน เป็นต้นไป
2) อเมริกาห้ามสายการบินโดยสารจีน บินเข้า US ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามแล้ว
ซึ่งเป็นสงครามการค้า จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้น US อย่างไร และจะกระทบถึงตลาดหุ้นไทยหรือไม่ ผู้ซื้อขายหุ้นต้องวิเคราะห์เป็น
เทพเจ้าโควิด 2
1) GDP ไตรมาส 1(Q1) ติดลบ 1.8 %
2) GDP ไตรมาส 2(Q2 วันที่ 30 มิถุนายน 2563) จะติดลบ 14%เศษ ซึ่งมากกว่า Q2 ของวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งอยู่ที่ 12% เศษ
3) เฉลี่ยทั้งปี GDP จะติดลบ 6%
หลายสถาบันวิเคราะห์ใกล้เคียงกัน
ถ้าการวิเคราะห์ GDP ในข้อ 2) ถูกต้อง หมายความว่าในQ2 นี้บริษัทต่างๆ จะกำไรน้อยมาก บางบริษัทจะขาดทุนขนาดหนัก จนอาจจะอยู่ไม่ได้
ราคาหุ้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลกำไร ถ้าบริษัทกำไรมากราคาหุ้นจะสูง ถ้าบริษัทกำไรน้อยราคาหุ้นจะลดลง ถ้าบ.ขาดทุนราคาหุ้นจะลดต่ำลงอีกมาก
หลักการแบบนี้เป็นพื้นฐาน ดูได้จากงบการเงิน ได้แก่ งบดุล(Balance Sheet) งบกำไรขาดทุน(Profit and loss Statement) งบกระแสเงินสด(Cash Flow Statement) หมายเหตุประกอบงบการเงิน) การตลาด นอกจากนี้จะต้องรู้เศรษฐศาตร์ FOREX เพราะจะมีผลกระทบมาถึงราคาหุ้น หลายคนคงไม่เข้าใจ เพราะตอนเรียนอจ.ไม่ได้สอนอย่างนี้ ผมเข้าใจเพราะศึกษามาตลอด
คนที่จบสายวิทยาศาสตร์ เช่น วิศวกรหลายคนสนใจซื้อขายหุ้น เห็นเขาศึกษางบการเงินอย่างจริงจัง จำนวนมากจะเรียนต่อ MBA ได้ดีร่ำรวยไปก็มาก เหมือน US จบป.ตรีวิศวกรรม จะเรียนต่อ MBA มากกว่า
Warren Buffet เซียนหุ้นรวยอันดับที่ 1 ของโลก และเทียบกับทุกธุรกิจแล้ว เขารวยเป็นอันดับที่ 2 ของโลก คนไทยอยากรวยหุ้นแบบ Buffet
เขากล่าวว่า "คุณต้องเข้าใจบัญชี........
Peter Linch ผู้จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า
"อย่าลงทุนในบริษัทใดๆ โดยที่ยังไม่ เข้าใจงบการเงิน..........
ทั้งสองคนเป็นชาวอเมริกัน ใช้การวิเคราะห์งบการเงินเป็น Fundamental Analysis(FA) จะเกี่ยวกับ บัญชี การเงิน เศรษฐศาสตร์ ใครเรียนทางนี้น่าจะวิเคราะห์งบการเงินเป็น แต่ความเป็นจริงส่วนมากก็ไม่รู้เรื่อง แต่มันละเอียดและซับซ้อนพอสมควร ต้องใช้เวลาแกะนาน แต่อยากรวยก็ต้องทำให้ได้
ผมดูจากพันทิปคนไทยพูดแต่ Technical Analysis(TA) และ Inside Information ซึ่งมักจะเป็น Fake News
เซียนหุ้นชาวไทยคนหนึ่งซึ่งคนไทยรู้จักดีกล่าวว่า เมื่อ Port ของเขาใหญ่ขึ้น เขาใช้ Fundamental Analysis แทน เพราะ Technical Analysis ใช้ไม่ได้แล้ว
แต่ใครถนัดทางไหนก็แล้วแต่ คนใช้ TA ก็อาจจะกำไรมากก็ได้ ลองเล่าสู่กันฟังบ้าง หลังวันที่ 30 มิ.ย. ดูว่าตลาดหุ้นมันจะออกหมู่หรือจ่า
ไวรัสโควิดนี้ผมว่ามันเหมือนสงครามโลกครั้งที่ 3 เศรษฐกิจเสียหายกันแทบทุกประเทศ วัคซีนก็แค่ราคาคุย ยังอีกนาน อย่างเร็วก็กลางปีหน้า 2021 ใครผลิตวัคซีนได้ก่อนก็รวยเละ ไม่มีบริษัทไหนกั๊กเรื่องนี้หรอก เหมือนไวรัสบี(กว่า 30 ปีแล้ว) ตอนยาออกใหม่เข็มละ 1,000-2,000 บาท ต้องฉีด 3 ครั้ง คนจำนวนมากไม่ยอมฉีดเพราะแพง คนที่ผมรู้จักป่วย 6 คนรอดคนเดียว คนไทยส่วนมากไม่รู้เรื่องนี้
ไทยพึ่งการส่งออกและการท่องเที่ยวจาก จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรปกว่าร้อยละ 60 ของ GDP ซึ่งเจ๊งหมดทุกประเทศ นักลงทุนควรใช้ FA และข้อมูลข่าวสารช่วยการวิเคราะห์ เช่น
1) อเมริกาห้ามขายสินค้าให้บริบัทจีน 33 แห่งตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน เป็นต้นไป
2) อเมริกาห้ามสายการบินโดยสารจีน บินเข้า US ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนนี้ ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามแล้ว
ซึ่งเป็นสงครามการค้า จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้น US อย่างไร และจะกระทบถึงตลาดหุ้นไทยหรือไม่ ผู้ซื้อขายหุ้นต้องวิเคราะห์เป็น