ก่อนอื่นต้องขอเล่าก่อนว่า ก่อนที่เราจะตกลงคบกับแฟนคนนี้ เราเคยเลิกกับเขาไปเมื่อ 14 ปีก่อน จนเมื่อซัก 2 ปีกว่าที่แล้ว เขากลับมาและบอกเราว่าอยากกลับมาคบกันใหม่ ตอนนั้นเราเองก็ไม่ได้มีใคร และเห็นว่าเขามีความรักที่มั่นคง ก็เลยตกลงคบกัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีเรื่องที่ทะเลาะไม่เข้าใจกันบ้างตามปกติเหมือนคู่อื่นทั่วไป อาจจะมีบ้างที่เรา 2 คนอารมณ์ร้อนแต่ก็พยายามปรับตัวเข้าหากันตลอดช่วงเวลาที่คบกัน
จนเรา 2 คนตกลงกันว่าจะช่วยกันซื้อบ้าน และได้คุยกันว่าจะใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกัน และแฟนก็ไปเล่าให้แม่ของแฟนฟัง พาพ่อกับแม่แฟนไปดูบ้านที่เราจะซื้อ จนกระทั่งแม่แฟนเสนอความคิดมาว่าจะให้แฟนเราซื้อบ้านโดยที่ให้กรรมสิทธิ์เป็นชื่อแฟนคนเดียว ซึ่งเราก็งงเพราะความตั้งใจแรกของเราคือต้องการจะสร้างอะไรร่วมกันกับแฟนเรา เราก็บอกแฟนเราว่าขอเป็นถือกรรมสิทธิ์ทั้ง 2 คนโดยกู้แบงค์ร่วมกันดีกว่า จะได้มีอะไรร่วมกัน
และสุดท้ายพอเกิดเรื่องทะเลาะกันครั้งล่าสุดซึ่งเราสองคนก็ยอมรับว่าฟิวส์ขาด โดยที่คืนวันที่ทะเลาะกันแฟนบอกให้เรากลับบ้านเรา เขาบอกขออยู่เงียบๆ คนเดียวไม่ให้เราติดต่อไปอาทิตย์นึง แล้วเขาก็ขอคีย์การ์ดกับกุญแจห้องเขาคืน
ลืมบอกว่าก่อนหน้าเขาเคยขนข้าวของเรามาวางที่หน้าคอนโดเรามาแล้ว ทั้งที่สัญญากันไว้ว่าไม่ว่าจะทะเลาะกันยังไงจะอยู่ด้วยกันจะไม่ออกนอกบ้าน ไม่ขับไล่กันอีก 
จนสุดท้ายเราก็ยังไปง้อเขาเพราะเราไม่อยากให้เป็นเหมือน 14 ปีที่แล้ว แต่เขาบอกว่าขออยู่เงียบๆ เดือนนึงแล้วจะให้คำตอบ แต่ในระหว่างที่คุยกันเขาก็หลุดพูดออกมาว่าแม่เขาไม่ชอบเรา ซึ่งเขาเองก็ดูเหมือนจะเชื่ิอแม่
ตอนนี้เราอึดอัดใจมาก มันรู้สึกเหมือนเดินไปต่อก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะเขาไม่รับฟังอะไรเลย ทั้งที่ตอนที่เขากลับมาคบกับเรานั้นเขาก็ทำทุกอย่างให้เราปักใจเชื่อว่าเขาเป็นคนที่รักมั่นคงถึงกลับมา ขอคำปรึกษาเพื่อนๆ ในพันทิพว่าเราควรจะไปยังไงต่อดีค