สุนัขของฮิตเลอร์



 บลอนดีไม่ใช่สุนัขตัวแรกของฮิตเลอร์  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่  1 เขาเคยรับเลี้ยงสุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลเทอร์เรียเพศผู้ตัวหนึ่งในสนามเพลาะ ขณะกำลังเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่  1 โดยทำหน้าที่เป็นพลทหารส่งสาร เขาตั้งชื่อว่า Fuchsl ซึ่งแปลว่า สุนัขจิ้งจอกตัวน้อย ครั้งหนึ่งเคยมีคนเสนอซื้อเจ้าหมาน้อยในราคา 200 มาร์คเยอรมันแต่ฮิตเลอร์ก็ไม่ขาย แต่โชคร้ายหลังจากกองทัพมีการเคลื่อนพล เขาเกิดพลัดหลงกับเจ้าสุนัขตัวนี้ เขารู้สึกเศร้าใจมากที่สุนัขอันเป็นที่รักหายไป เขาคิดว่ามันอาจถูกคนไม่หวังดีลักพาตัวไป

ต่อมาในปี ค.ศ. 1921 ฮิตเลอร์ได้รับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดตัวหนึ่งมาเลี้ยงชื่อว่า Prinz หลังจากที่เลี้ยงไปได้ไม่นาน เขาจำใจต้องยกสุนัขตัวนี้ให้กับบ้านพักพิงสุนัขดูแล เนื่องจากฐานะทางการเงินของเขาไม่สู้ดีนัก แต่สุนัขตัวนั้นก็แอบหนีกลับมาหาเขา มันจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เขาหลงรักสุนัขพันธุ์นี้ และชื่นชมในความซื่อสัตย์ของสุนัขยิ่งกว่าเดิม

หลาย ๆ เหตุการณ์ในชีวิตทำให้ฮิตเลอร์ไม่ใว้ใจใคร และคิดว่าคงมีแต่สุนัขเท่านั้นที่ซื่อสัตย์ที่สุด เขาเคยถูกลอบสังหารและเชื่อว่าคนใกล้ตัวของเขาอาจมีส่วน ในช่วงที่ฮิตเลอร์เรืองอำนาจ เยอรมันเป็นชาติแรก ๆ ในยุโรปที่มีกฎหมายคุ้มครองสัตว์ 


 Fuchsl 



ภาพที่เชื่อกันว่าน่าจะเป็น Rolf 
(Cr.ภาพ  Daily Mail / Cr.ข้อมูล  https://www.readhowl.com/2017/06/28/rolf-the-dog/ )



 Muckl

กองทัพนาซีเคยก่อตั้งศูนย์วิจัยเกี่ยวกับสุนัขขึ้น เป้าหมายคือ ต้องการฝึกสุนัขให้สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้ พัฒนาสุนัขให้มีความฉลาด สามารถช่วยเหลือมนุษย์ได้ โดยฮิตเลอร์สั่งให้สร้าง โรงเรียนที่ฝึกสอนสุนัขให้พูดได้ ชื่อว่า Tier-Sprechschule และได้สุนัขตัวหนึ่งชื่อว่า Rolf เป็นสุนัขตัวแรกที่สามารถฝึกให้สื่อสารกับมนุษย์ได้สำเร็จ มันมีความสามารถถึงขั้นใช้เท้าพิมพ์ตัวอักษรเพื่อสื่อสารเป็นข้อความได้  

 ด้วยความเป็นชาตินิยมที่ฝังลึกในใจเขา ทำให้ฮิตเลอร์หลงไหลในสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดค่อนข้างมาก เขาต้องการให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมในเยอรมัน รวมถึงทั่วโลกด้วย ในปี ค.ศ. 1926 เขาเลี้ยงสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดชื่อว่า Muckl ต่อมาในปี ค.ศ. 1930 เขาก็เลี้ยงสุนัขพันธุ์เยอรมันเชฟเพิร์ดชื่อว่า Blonda และจนมาถึงในปี ค.ศ. 1941 ฮิตเลอร์ได้รับสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดเพศเมียตัวหนึ่งเป็นของขวัญ จากหนึ่งในคณะทำงานของเขาที่ชื่อว่า มาร์ติน บอร์มันน์ (Martin Bormann)  สุนัขตัวนี้เกิดเมื่อไรและมาจากไหนไม่มีใครทราบ ฮิตเลอร์ตั้งชื่อให้เจ้าหมาน้อยตัวนี้ว่า "บลอนดี (Blondi)"

 นอกจากบลอนดีจะเป็นสุนัขตัวโปรดของฮิตเลอร์แล้ว มันยังถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการโฆษณาภาพลักษณ์ความเป็นคนรักสัตว์ของฮิตเลอร์ด้วย บลอนดีปรากฎตัวในภาพยนต์ส่วนตัวของฮิตเลอร์บ่อยครั้ง มันมักจะอยู่ข้าง ๆ เขาตลอด ทั้งยังทำหน้าที่เป็นผู้อารักขาส่วนตัวด้วย
ต่อมาในปี ค.ศ. 1945 บลอนดีให้กำเนิดลูกหมา ฮิตเลอร์ตั้งชื่อให้หนึ่งในบรรดาลูก ๆ ของบลอนดีว่า "Wulf" ซึ่งมีความหมายพ้องกับชื่อของเขา Adolf ซึ่งแปลว่า Noble wolf ช่วงนั้นสถานการณ์ของสงครามไม่สู้ดีนัก และฮิตเลอร์ก็ต้องย้ายลงไปอยู่ในบังเกอร์ใต้ดิน เพราะกองทัพแดงเริ่มบุกมาประชิดกรุงเบอร์ลินเต็มที  มีคนเล่าว่า ช่วงนี้ฮิตเลอร์มีสุขภาพทรุดโทรมไปมาก คงจะมีแต่เพียงเจ้าบลอนดีที่ช่วยให้ฮิตเลอร์รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง


 Blondi กับลูกสุนัข


สุนัขพันธุ์สก็อตติชเทอร์เรียของอีวา เบราส์


จนกระทั่งมาถึงวันที่  28 เมษายน ค.ศ. 1945 เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างไม่อาจฟื้นกลับมาได้แล้ว ฮิตเลอร์ตัดสินใจว่าเขาจะฆ่าตัวตาย เขาจะไม่ยอมถูกศัตรูจับได้ให้เป็นที่น่าอับอายเด็ดขาด เขาจึงเริ่มต้นเขียนพินัยกรรมของตัวเอง เขาแต่งตั้งมาร์ติน บอร์มันน์ คนที่นำเจ้าบลอนดีมามอบให้ เป็นผู้จัดการมรดกและรับอำนาจในการตัดสินใจหลังจากเขาและภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว

 บ่ายของวันนั้นเอง เขาปรึกษากับแพทย์คนหนึ่งซึ่งถูกเรียกตัวเข้ามาหาในบังเกอร์ใต้ดินเป็นการส่วนตัว ถึงวิธีการตายฆ่าตัวตาย แพทย์แนะนำเรื่องการใช้ยาพิษไซยาไนต์ แต่เขาเองกลับไม่มั่นใจถึงประสิทธิภาพของยาพิษนี้ จึงตัดสินใจที่จะทดลองกับเจ้าบลอนดีสุนัขตัวโปรด 

บลอนดีก็คงไม่รู้ถึงชะตากรรมของตัวเอง ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า มันและลูกสุนัขรวมถึงเพื่อนสุนัขตัวอื่น ๆ ทั้งสุนัขพันธุ์ดัชชุนที่ฮิตเลอร์เลี้ยงไว้ รวมถึงสุนัขพันธุ์สก็อตติชเทอร์เรียของอีวา เบราส์กำลังจะต้องตาย
เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก ฮิตเลอร์เรียกเจ้าบลอนดีเข้ามาหา มันเดินเข้ามาหาอย่างเช่นเคย  ทันใดนั้นบลอนดีถูกจับกรอกยาพิษไซยาไนต์โดยที่ไม่อาจขัดขืนได้ ไม่ช้ามันก็แน่นิ่งลงไปไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว หัวใจแทบจะหยุดเต้นในทันที ลมหายใจสุดท้ายของบลอนดี มันตอบแทนเจ้านายอันเป็นที่รัก ด้วยการเป็นสัตว์ทดลองยาให้กับเขา และจากลาโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ 

หลังจากนั้นอีก 2 วัน ฮิตเลอร์และอีวาก็ทำบัตวินิบาตกรรมในห้องส่วนตัว ฮิตเลอร์ยิงตัวเองตาย โซฟาชุ่มไปด้วยเลือดของเขา ส่วนอีวาก็นอนสิ้นลมหายใจอยู่ข้าง ๆ จากพิษของไซยาไนต์ที่เธอกลืนลงไป ร่างของพวกเขาได้ถูกทหารนำขึ้นมาเผาทำลายด้วยน้ำมันนอกบังเกอร์

ภายหลังจากทหารโซเวียตบุกมาถึง เขาพบศพมากมายในบังเกอร์และบริเวณโดยรอบ แต่ไม่ใครสามารถยืนยันได้ว่าศพไหนเป็นร่างของฮิตเลอร์ การตายของฮิตเลอร์ยังคงเป็นปริศนามาจนถึงปัจจุบัน 


บทความโดย : Dogilike.com
www.dogilike.com
เนื้อหาอ้างอิงบางส่วนจาก :
https://www.mcsweeneys.net/articles/heel-hitler
Cr.https://www.dogilike.com/content/tip/8267/ โดย: Tonvet

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่