สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าเอาคำจากแอนตี้มาอ้างอิง ผมว่างั้นก็ล้มเหลวทั้งวงการแล้วละครับ อย่างExoนี่ก็ปังตั้งแต่เดบิวท์แล้วไม่ใช่หรอ เพลงmama growl ก็ดังมากๆ โซนยอก็ดังทั่วเอเชีย เค้กแดงปี2017ก็เป็นวงที่โดดเด่นสุดๆ คือถ้าคุณเอาคำพูดของคนมาตัดสิน ก็ล้มเหลวทั้งวงการจริงๆ เพราะทุกวงก็เจอคำพูดแบบนี้หมด แต่ถ้าเรามามองที่ผลงาน SMมีวงไหนล้มเหลวด้วยหรอ ไม่มี nctที่คนว่าเพลงฟังยาก ยอดบั้มขายไปตั้งเท่าไหร่ ทัวร์คอนคนดูเยอะแยะ นี้หรอที่เรียกว่าล้มเหลว ผมไม่ได้แสตนค่ายนี้นะแต่ถ้าไม่หลับตาคิดเอาเอง ค่ายนี้ก็ประสบความสำเร็จทุกวงจริงๆ ส่วนคำพูดนักข่าว บางครั้งนักข่าวนี้แหละคืออาชีพที่น่าเชื่อถือน้อยที่สุดเพราะมันมีคำว่าผลประโยชน์ มีคำว่าผู้สนับสนุนเข้ามาเกี่ยวผมไม่ได้ตามค่ายนี้ เลยขออนุญาติยกวงผมมาครับ ปีที่แล้วมีสำนักข่าวหนึ่งบอกว่าวงBPทำรายได้ไม่เยอะเท่าที่ควร แต่เมื่อมามองความจริงBPเป็นวงที่มีรายได้มากที่สุดเป็นลำดับที่2ของวงการ ผมเลยปัดตกคำพูดของนักข่าวของสำนักที่คุณว่ามา อย่าไปให้ค่าคำพูด ให้ค่าความจริงจะดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 13
มันเหมือนกับคำเจิมน่ะ แต่จะว่าไปวงใน Sm ยุคหลัง ก็ไม่มีใคร ถึงขนาดเรียกว่าความล้มเหลวได้เต็มปากนะ ถ้าเทียบกับ CSJH,MILK หรืออะไรต่างๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จักชื่อวงด้วยซ้ำ
เราว่าคำพวกนี้ก็เหมือนคำจั่วหัวเรียกเป็นหัวข้อข่าวให้คนมาสนใจเฉยๆ จากนักข่าวบางส่วน ที่เขาอาจจะคิดว่าเดบิวต์มาแล้วอาจจะต้องได้แดซังภายในปี 2 ปีอ่ะ พวกนี้ไม่ใช่แฟนคลับ อยู่แล้วเขาก็แค่ดูตัวเลขที่เห็น ตอนได้ข้อมูลดิบมาเฉยๆ แต่ไม่ใช่ฝ่ายวิเคราะห์ หรือคนที่สนใจวงนั้นจริงๆ วันหนึ่งอาจจะต้องทำข่าวหลายข่าวก็ได้
แต่ว่าสำหรับค่ายนี้แล้ว ไม่ใช่ เวลาเดบิวมาแต่ละทีเหมือนไม่ได้ตั้งโจทย์ว่าต้องดังอย่างเดียว
หรือบางทีอาจจะไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้เลยก็ได้ (น้อยนะ วงแบบนี้ ค่ายนี้น่าจะมีวงนึง แต่กลับดังตอนหลังมาก น่าจะเข้าข่ายได้ว่าเป็นเด็กฝึกถูกโละจริงๆ)
แต่ สำหรับบางวง เป้าหมายบางอย่างที่ตั้งใจไว้มันก็สูงเกินวงหน้าใหม่ไปเกิน อย่าง NCT ตั้งมาเพื่อสร้างระบบใหม่ แนวเพลงใหม่เพลงเฉพาะแนวที่ตีหัวมาฟังเพลงแนวนี้มันก็ยากอยู่แล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายบริหารต้องการอะไรพร้อมๆ กับให้วงประสบความสำเร็จ อย่างยอดขาย แดซัง ยอดดิจิทัล เหมือนที่คนนอกสนใจมอง ดูจะเป็นจุดประสงค์รองกว่าในสายตาค่าย เหมือนเอาของไม่แมส มาทำให้มันแมส นี่ไม่ง่ายแน่นอน หรือจะใช้วิธีขยายกลุ่มไม่แมส ให้มันใหญ่ขึ้น? แล้วตลาดที่เปิดตัวดันเป็นเกาหลีไง ไม่ใช่ต่างประเทศ ฟี้ดแบคก็อย่างที่เห็น คนชอบก็มีล่ะ เราก็คนนึงแต่เป็นส่วนน้อยเมื่อวงเดบิวตอนปี 2016 และตอนนั้นดูในพันทิปสิ มีกี่คนที่ชม แค่ตีกันเรื่องระบบก็หมดเวลาแล้ว ยังไม่ต้องโฟกัสเรื่องอื่นเลย 5555
แต่ถามว่า กลัวมั้ยว่าจะล้มเหลว ไม่ มั่นใจว่ายอดต้องถึงล้าน ก่อนจะเดวงใหม่มาอีกชุดแน่ เพราะ Sm เองก็มีเส้นตายของตัวเองและเด็กเหมือนกัน เมมเบอร์บางส่วนใกล้เข้ากรมแล้ว ดังนั้นลุง หมานจะมาใช้ Experiment ทุกอย่าง (สโลแกนวงพอๆ กะ neo culture) กับวงเด็กแบบไม่จำกัดระยะเวลาไม่ได้
ตราบใดที่เท้ายังเหยียบที่แผ่นดินเกาหลี และ ผู้ชายทุกคนต้องเกณฑ์ทหาร
ตอนที่เพลง KICK IT ออกใหม่ๆ ก็เห็นมีคนว่านะ เพราะบางคน แม้กระทั่งแฟนๆ ส่วนนึง ติดภาพไปแล้วว่าวงนี้ออกอะไรมาเพลงต้องยาก แต่เพราะฟี้ดแบคดีไง ความสำเร็จยอดขาย กระแสที่ตามมา มันเปลี่ยนมายด์เซ็ตทุกอย่างได้ในชั่วข้ามคืนเหมือนกัน
สำหรับ KICK IT เป็นเพลงที่ค่ายลดความติสต์แตกลงมาและหากึ่งกลางกับความเป็น Nct ได้ระดับนึงและดีที่สุด นังยอมถอย ยอมเจอกันครึ่งแทน ความจริงค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนมาสักพักล่ะ แต่ยังหาตรงกลางไม่เจอ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ไซมอนเซย์ >> Super Human
นั่นคือมายเซ็ตค่ายเปลี่ยน ผลลัพธ์ที่ตามมาเปลี่ยนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ยอดกระโดดเป็น 3-4 เท่า และก็กลับมางงๆ กับ Punch ต่อ ถ้างั้นกับ nct ก็เลยเป็นงานยากหน่อยเพราะตัวเองก็มือใหม่กับสไตล์เพลงแบบนี้เหมือนกัน
วงที่ได้กลิ่นอายที่คุ้นเคยของ SM มากที่สุดตอนนี้คือ Super M เพราะเอาเอกลักษณ์ของแต่ละวงมารวมกัน ฟังท่อนไหนก็รู้สึกคุ้นไปหมด
แต่ก่อนหน้า NCT เปิดตัวความประทับใจด้วย 7 sense , Firetruck แล้วยังจะมาคอนเซ็ปต์ Neo Culture ที่สไตลิสต์เองยังมองไม่ให้เห็นภาพเลยว่าแฟชั่นที่ควรเปิดตัวมันควรเป็นยังไง เลยได้ทั้งโสร่งกับชุดคลุมอาบน้ำมา เชื่อว่า SM เองก็ต้องคลำทางไปพร้อมๆ กันพร้อมกับแก้ปัญหาเท่าที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ในเมื่อเป้าหมายหลัก คือ อยากได้เพลงสไตล์นี้กับความใหม่แกะกล่องทุกอย่าง แล้วตะบี้ตะบันกรอกหูมาด้วยสไตล์นี้ตลอดถึง 4 ปี เป้าหมายรองคือ ยอดขายและฟี้ดแบคที่ตามมา
แต่แน่ๆ เราไม่เคยอ่านคำบรรยายที่ SM พูดถึงเพลงก่อนจะปล่อยจริงของ nct เข้าใจเลยสักครั้ง 55555
มาแค่บางท่อนก็วางใจไม่ได้ จนกว่าเพลงจะปล่อยทั้งหมดนั่นล่ะ
ส่วนวงอื่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายหลักคืออะไร SNSD ยุคสมัยของเด็กสาว จะเดบิวมาครั้งแรกด้วยการเปลี่ยนทั้งวงการเลยเหรอ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่สุดท้ายต้องเลือกที่แก้เพลงก่อนเพื่อดึงให้คนนอกหันมาสนใจ ส่งมาให้เมื่อไหร่ก็พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ขอแค่สักเพลงพอ
นอกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่แฟนคลับทำงาน แต่จะว่าไปวงใน Sm ยุคหลัง ก็ไม่มีใครเป็นแกะดำ แต่จะพอใจกับความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนนั่นอีกเรื่อง
Exo Sm ได้จีนสมความตั้งใจกับยูสองประเทศ หนึ่งระบบ กับเพลงชาติ Growl ที่ได้มาโดยไม่ปล่อยให้รอนานเกินไป กับยอดขายมหาศาลถึงปัจจุบัน แม้เพลงช่วงเดบิวอาจไม่ฉีกแนวจากรุ่นพี่มาก แต่ Exo คือการเพิ่มเติมในแง่ของการขยายตลาดพร้อมกันสองประเทศ เพราะ Sj จะตีในเกาหลีก่อนแล้วค่อยสร้างยูนิตจีนทำงานทีหลัง ส่วน Tvxq ไปจีนก่อนและส่งไปญี่ปุ่น
ส่วน nct ถ้าเป็นแผนดั้งเดิม ไม่ถูกการเมืองแทรกแซง จะไปพร้อมกันในเวลาพร้อมหรือใกล้เคียงกันมาก ในหลายประเทศ
จะเห็นได้ว่าแผนพวกนี้เป็นสิ่งสำคัญกว่า ฟี้ดแบคที่เดบิวมาแล้วล่ายอดล้านแตก หรือได้แดซังของเกาหลีด้วยซ้ำ
ดังนั้น ที่ไม่ประสบความสำเร็จในเบื้องต้น ไม่ใช่อาถรรพ์แต่เป็นมายด์เซ็ตของผู้บริหาร
( ถ้าผู้บริหารคนนั้นเป็นลีซูมาน ด้วยอายุขณะนี้เขาไม่ได้สนใจเงินเป็นที่ตั้งแล้วแหละ บริษัทตัวเองก็มั่นคงมากในระดับหนึ่ง มีใช้ชาตินี้ก็คงไม่หมดอ่ะ สิ่งที่ต้องการคือตามหาความฝันหรืออะไรที่ไม่เคยทำ ในระดับที่ท้าทายมากๆ
แต่เด็กๆ พวกนี้
อายุยังไม่ถึง 30 เนี้ยได้แค่สามเวทีหลัก ยอดขายแตะล้านก็ดีใจจะแย่แล้ว ยังไงพวกนังก็เด็กเกาหลีล่ะนะ ส่วนตัวก็เฉยๆ กับรางวัลพวกนี้เหมือนกัน เห็นมาเยอะแทบจะเป็นสเต็ปตามไอดอล แล้วลุงก็อายุเยอะขนาดเป็นพ่อเราได้ คงเห็นความสำเร็จอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ H.O.T. จนยิ่งกว่าของคำว่าเฉยย
แต่พอมองเด็กๆ ปี 2016 ก็เออ เค้าคงอยากได้อะไรที่มันเป็นรูปธรรมเหมือนที่ไอดอลเกาหลีทั่วไปเขาอยากได้กันล่ะมั้ง )
ไหนจะ วิธีการบริหาร คู่แข่งรอบด้าน ตลาดที่คุ้นเคย เป็นทางถนัดของค่ายรึเปล่า วิธีการเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายสำคัญมาก และที่สำคัญสุดคือดวง ดวงคนมันจะดัง บางทีอาจไม่ต้องทำอะไรให้ลำบากมากก็ได้ แต่ก็คงไม่มีใครจู่ๆ ดวงจะดังมาโดยไม่ใช้เพลง ในเมื่ออาชีพเขา คือนักร้องไอดอล
ความจริง การโดนใครๆ หาว่าล้มเหลวมัน ก็ไม่แย่นะ มันเป็นเหมือนสโลแกนของทุกวงในค่ายไปแล้ว เหมือนเป็นบทเรียน Introduce to........ อะไรก็ว่าไป เปลี่ยนความลำบากเป็นความสำเร็จ มีเรื่องให้คุยได้เล่าถึงต่อกันไปยาวๆ เหมือนเป็นตำนานอีกบทว่า กว่าจะดังได้ขนาดนี้ เราผ่านอะไรมากน้อยแค่ไหน ยิ่งจะทำให้แฟนด้อมสามัคคีกันด้วยซ้ำ
แต่ใดๆ ก็ตาม จะเร็วหรือช้าขึ้น ค่ายต้องช่วยด้วย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเพลงที่เอสเอ็มส่งให้ทั้งนั้น วงไหนที่ค่ายยังปรับจูนไม่ได้ ก็โดนนานหน่อย ทั้งที่ตัวเด็กทุกวงน่ะดีมาก และแฟนคลับพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว
สรุปว่า เด็กพวกนี้ไม่ได้ล้มเหลว แต่ระยะทางที่จะไปถึงความสำเร็จ มันไม่ได้ Smooth as silk เท่านั้นเอง
เราว่าคำพวกนี้ก็เหมือนคำจั่วหัวเรียกเป็นหัวข้อข่าวให้คนมาสนใจเฉยๆ จากนักข่าวบางส่วน ที่เขาอาจจะคิดว่าเดบิวต์มาแล้วอาจจะต้องได้แดซังภายในปี 2 ปีอ่ะ พวกนี้ไม่ใช่แฟนคลับ อยู่แล้วเขาก็แค่ดูตัวเลขที่เห็น ตอนได้ข้อมูลดิบมาเฉยๆ แต่ไม่ใช่ฝ่ายวิเคราะห์ หรือคนที่สนใจวงนั้นจริงๆ วันหนึ่งอาจจะต้องทำข่าวหลายข่าวก็ได้
แต่ว่าสำหรับค่ายนี้แล้ว ไม่ใช่ เวลาเดบิวมาแต่ละทีเหมือนไม่ได้ตั้งโจทย์ว่าต้องดังอย่างเดียว
หรือบางทีอาจจะไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้เลยก็ได้ (น้อยนะ วงแบบนี้ ค่ายนี้น่าจะมีวงนึง แต่กลับดังตอนหลังมาก น่าจะเข้าข่ายได้ว่าเป็นเด็กฝึกถูกโละจริงๆ)
แต่ สำหรับบางวง เป้าหมายบางอย่างที่ตั้งใจไว้มันก็สูงเกินวงหน้าใหม่ไปเกิน อย่าง NCT ตั้งมาเพื่อสร้างระบบใหม่ แนวเพลงใหม่เพลงเฉพาะแนวที่ตีหัวมาฟังเพลงแนวนี้มันก็ยากอยู่แล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายบริหารต้องการอะไรพร้อมๆ กับให้วงประสบความสำเร็จ อย่างยอดขาย แดซัง ยอดดิจิทัล เหมือนที่คนนอกสนใจมอง ดูจะเป็นจุดประสงค์รองกว่าในสายตาค่าย เหมือนเอาของไม่แมส มาทำให้มันแมส นี่ไม่ง่ายแน่นอน หรือจะใช้วิธีขยายกลุ่มไม่แมส ให้มันใหญ่ขึ้น? แล้วตลาดที่เปิดตัวดันเป็นเกาหลีไง ไม่ใช่ต่างประเทศ ฟี้ดแบคก็อย่างที่เห็น คนชอบก็มีล่ะ เราก็คนนึงแต่เป็นส่วนน้อยเมื่อวงเดบิวตอนปี 2016 และตอนนั้นดูในพันทิปสิ มีกี่คนที่ชม แค่ตีกันเรื่องระบบก็หมดเวลาแล้ว ยังไม่ต้องโฟกัสเรื่องอื่นเลย 5555
แต่ถามว่า กลัวมั้ยว่าจะล้มเหลว ไม่ มั่นใจว่ายอดต้องถึงล้าน ก่อนจะเดวงใหม่มาอีกชุดแน่ เพราะ Sm เองก็มีเส้นตายของตัวเองและเด็กเหมือนกัน เมมเบอร์บางส่วนใกล้เข้ากรมแล้ว ดังนั้นลุง หมานจะมาใช้ Experiment ทุกอย่าง (สโลแกนวงพอๆ กะ neo culture) กับวงเด็กแบบไม่จำกัดระยะเวลาไม่ได้
ตราบใดที่เท้ายังเหยียบที่แผ่นดินเกาหลี และ ผู้ชายทุกคนต้องเกณฑ์ทหาร
ตอนที่เพลง KICK IT ออกใหม่ๆ ก็เห็นมีคนว่านะ เพราะบางคน แม้กระทั่งแฟนๆ ส่วนนึง ติดภาพไปแล้วว่าวงนี้ออกอะไรมาเพลงต้องยาก แต่เพราะฟี้ดแบคดีไง ความสำเร็จยอดขาย กระแสที่ตามมา มันเปลี่ยนมายด์เซ็ตทุกอย่างได้ในชั่วข้ามคืนเหมือนกัน
สำหรับ KICK IT เป็นเพลงที่ค่ายลดความติสต์แตกลงมาและหากึ่งกลางกับความเป็น Nct ได้ระดับนึงและดีที่สุด นังยอมถอย ยอมเจอกันครึ่งแทน ความจริงค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนมาสักพักล่ะ แต่ยังหาตรงกลางไม่เจอ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ไซมอนเซย์ >> Super Human
นั่นคือมายเซ็ตค่ายเปลี่ยน ผลลัพธ์ที่ตามมาเปลี่ยนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ยอดกระโดดเป็น 3-4 เท่า และก็กลับมางงๆ กับ Punch ต่อ ถ้างั้นกับ nct ก็เลยเป็นงานยากหน่อยเพราะตัวเองก็มือใหม่กับสไตล์เพลงแบบนี้เหมือนกัน
วงที่ได้กลิ่นอายที่คุ้นเคยของ SM มากที่สุดตอนนี้คือ Super M เพราะเอาเอกลักษณ์ของแต่ละวงมารวมกัน ฟังท่อนไหนก็รู้สึกคุ้นไปหมด
แต่ก่อนหน้า NCT เปิดตัวความประทับใจด้วย 7 sense , Firetruck แล้วยังจะมาคอนเซ็ปต์ Neo Culture ที่สไตลิสต์เองยังมองไม่ให้เห็นภาพเลยว่าแฟชั่นที่ควรเปิดตัวมันควรเป็นยังไง เลยได้ทั้งโสร่งกับชุดคลุมอาบน้ำมา เชื่อว่า SM เองก็ต้องคลำทางไปพร้อมๆ กันพร้อมกับแก้ปัญหาเท่าที่ตัวเองสร้างขึ้นมา ในเมื่อเป้าหมายหลัก คือ อยากได้เพลงสไตล์นี้กับความใหม่แกะกล่องทุกอย่าง แล้วตะบี้ตะบันกรอกหูมาด้วยสไตล์นี้ตลอดถึง 4 ปี เป้าหมายรองคือ ยอดขายและฟี้ดแบคที่ตามมา
แต่แน่ๆ เราไม่เคยอ่านคำบรรยายที่ SM พูดถึงเพลงก่อนจะปล่อยจริงของ nct เข้าใจเลยสักครั้ง 55555
มาแค่บางท่อนก็วางใจไม่ได้ จนกว่าเพลงจะปล่อยทั้งหมดนั่นล่ะ
ส่วนวงอื่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายหลักคืออะไร SNSD ยุคสมัยของเด็กสาว จะเดบิวมาครั้งแรกด้วยการเปลี่ยนทั้งวงการเลยเหรอ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่สุดท้ายต้องเลือกที่แก้เพลงก่อนเพื่อดึงให้คนนอกหันมาสนใจ ส่งมาให้เมื่อไหร่ก็พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ขอแค่สักเพลงพอ
นอกนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่แฟนคลับทำงาน แต่จะว่าไปวงใน Sm ยุคหลัง ก็ไม่มีใครเป็นแกะดำ แต่จะพอใจกับความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนนั่นอีกเรื่อง
Exo Sm ได้จีนสมความตั้งใจกับยูสองประเทศ หนึ่งระบบ กับเพลงชาติ Growl ที่ได้มาโดยไม่ปล่อยให้รอนานเกินไป กับยอดขายมหาศาลถึงปัจจุบัน แม้เพลงช่วงเดบิวอาจไม่ฉีกแนวจากรุ่นพี่มาก แต่ Exo คือการเพิ่มเติมในแง่ของการขยายตลาดพร้อมกันสองประเทศ เพราะ Sj จะตีในเกาหลีก่อนแล้วค่อยสร้างยูนิตจีนทำงานทีหลัง ส่วน Tvxq ไปจีนก่อนและส่งไปญี่ปุ่น
ส่วน nct ถ้าเป็นแผนดั้งเดิม ไม่ถูกการเมืองแทรกแซง จะไปพร้อมกันในเวลาพร้อมหรือใกล้เคียงกันมาก ในหลายประเทศ
จะเห็นได้ว่าแผนพวกนี้เป็นสิ่งสำคัญกว่า ฟี้ดแบคที่เดบิวมาแล้วล่ายอดล้านแตก หรือได้แดซังของเกาหลีด้วยซ้ำ
ดังนั้น ที่ไม่ประสบความสำเร็จในเบื้องต้น ไม่ใช่อาถรรพ์แต่เป็นมายด์เซ็ตของผู้บริหาร
( ถ้าผู้บริหารคนนั้นเป็นลีซูมาน ด้วยอายุขณะนี้เขาไม่ได้สนใจเงินเป็นที่ตั้งแล้วแหละ บริษัทตัวเองก็มั่นคงมากในระดับหนึ่ง มีใช้ชาตินี้ก็คงไม่หมดอ่ะ สิ่งที่ต้องการคือตามหาความฝันหรืออะไรที่ไม่เคยทำ ในระดับที่ท้าทายมากๆ
แต่เด็กๆ พวกนี้
อายุยังไม่ถึง 30 เนี้ยได้แค่สามเวทีหลัก ยอดขายแตะล้านก็ดีใจจะแย่แล้ว ยังไงพวกนังก็เด็กเกาหลีล่ะนะ ส่วนตัวก็เฉยๆ กับรางวัลพวกนี้เหมือนกัน เห็นมาเยอะแทบจะเป็นสเต็ปตามไอดอล แล้วลุงก็อายุเยอะขนาดเป็นพ่อเราได้ คงเห็นความสำเร็จอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ H.O.T. จนยิ่งกว่าของคำว่าเฉยย
แต่พอมองเด็กๆ ปี 2016 ก็เออ เค้าคงอยากได้อะไรที่มันเป็นรูปธรรมเหมือนที่ไอดอลเกาหลีทั่วไปเขาอยากได้กันล่ะมั้ง )
ไหนจะ วิธีการบริหาร คู่แข่งรอบด้าน ตลาดที่คุ้นเคย เป็นทางถนัดของค่ายรึเปล่า วิธีการเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายสำคัญมาก และที่สำคัญสุดคือดวง ดวงคนมันจะดัง บางทีอาจไม่ต้องทำอะไรให้ลำบากมากก็ได้ แต่ก็คงไม่มีใครจู่ๆ ดวงจะดังมาโดยไม่ใช้เพลง ในเมื่ออาชีพเขา คือนักร้องไอดอล
ความจริง การโดนใครๆ หาว่าล้มเหลวมัน ก็ไม่แย่นะ มันเป็นเหมือนสโลแกนของทุกวงในค่ายไปแล้ว เหมือนเป็นบทเรียน Introduce to........ อะไรก็ว่าไป เปลี่ยนความลำบากเป็นความสำเร็จ มีเรื่องให้คุยได้เล่าถึงต่อกันไปยาวๆ เหมือนเป็นตำนานอีกบทว่า กว่าจะดังได้ขนาดนี้ เราผ่านอะไรมากน้อยแค่ไหน ยิ่งจะทำให้แฟนด้อมสามัคคีกันด้วยซ้ำ
แต่ใดๆ ก็ตาม จะเร็วหรือช้าขึ้น ค่ายต้องช่วยด้วย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเพลงที่เอสเอ็มส่งให้ทั้งนั้น วงไหนที่ค่ายยังปรับจูนไม่ได้ ก็โดนนานหน่อย ทั้งที่ตัวเด็กทุกวงน่ะดีมาก และแฟนคลับพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว
สรุปว่า เด็กพวกนี้ไม่ได้ล้มเหลว แต่ระยะทางที่จะไปถึงความสำเร็จ มันไม่ได้ Smooth as silk เท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกเหมือนกันมั้ยว่าวงจากSMมีอาถรรพ์อะไรสักอย่าง
red velvet เมื่อปีสองปีก่อนก็มีนักข่าวบอกว่าไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้psychoปังไม่หยุดแล้ว
ส่วนnct น่าจะหนักสุด เดมาพร้อมแรงต้านแทบทุกทิศ อยู่กับคำว่านูกูมาหลายปี จน2019ที่ใครๆก็คิดว่าเข็นไม่ขึ้นแล้ว แต่พอ2020ก็มาแรงซะงั้น
ทั้งๆที่ก็เห็นแสตนด่าค่ายกันอยู่ทุกวัน คิดว่ามีปัจจัย/เพราะอะไรมั้ยที่ทำให้เป็นแบบนี้