บางครั้งความเป็นคนขี้สงสารก็ไม่ดี กลายเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางหากิน เราอยู่ในสถานะที่ไม่ลำบาก ช่วยได้ก็ช่วย เงิน 10 บาท 100 บาท หรือแม้กระทั่งหลักพัน ถ้าพอจะช่วยต่อลมหายใจให้คนบางคน ก็อยากจะทำ แต่พอหลายๆ ครั้งที่เป็นข่าว ก็อดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่ทำๆ กันอยู่นี่มันดีจริงๆ ใช่ไหม??

ลุงคนขับแท็กซี่คนนึง ลำบาก น่าสงสาร ทุกคนอยากช่วยเหลือ เพียงข้ามคืน รับเงินบริจาคไป 8 ล้านบาท ...
น้องคนส่งของ ร้องไห้เพราะโดนลูกค้าปฏิเสธ ...คนไทยขี้สงสาร โอนให้อีก แค่ไม่กี่ชั่วโมง รับเงินบริจาคไปหลักล้าน  สุดท้ายคดีพลิก

ล่าสุด แม่ลูกหนึ่งผู้ใจบุญ รับเด็กมาดูแลเพิ่ม แถมรับภาระหนัก เพราะเด็กเป็นโรคประหลาด รักษาไม่หาย หาสาเหตุไม่เจอ ไม่ได้มาขอรับบริจาคโต้งๆ แต่ขอความช่วยเหลือด้วยการทำของขาย แต่ด้วยความใจดีของคนไทย บ้างก็โอนให้ เกิดราคาของ บางคนโอนให้ 5,000 หมื่นนึง โดยไม่รับของ ถือว่าช่วยกันไป สุดท้ายโป๊ะแตก ไม่ใช่โรคประหลาดอะไร แต่เพราะแม่คนนี้ ผสมน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อนลงในอาหารให้ลูกกินทีละน้อย จนป่วยเรื้อรัง สุดท้ายน้องเสียชีวิต แต่ความโลภของคนเราไม่สิ้นสุด ยังอยากได้เงินบริจาคอีก ทำไงดี รอบนี้ทำกับลูกแท้ๆ ของตัว โชคดีของเด็กน้อย ที่ทีมแพทย์ตั้งข้อสงสัยและสุดท้ายก็แจ้งความ คนไทยผู้ขี้สงสารจึงได้รู้เรื่องราวที่แท้จริง แม่คนนี้ ได้เงินบริจาคร่วม 20ล้านบาท แลกกับชีวิตของเด็กคนนึง และใช้เวลาเพียงปีกว่า

การบริจาคโดยตรงแบบนี้ เอื้อให้คนไม่ดีหาเงินแบบง่ายๆ ตรวจสอบก็ไม่ได้ รับเงินสบายๆ เงินมันหอมยวนยั่ว แม้จะได้เงินไปเยอะก็ไม่อยากหยุด อยากได้ต่ออีกนิดๆๆ ถ้าเรื่องไม่แดง ถ้าไม่โดนแฉ ถ้าไม่มีคนตาย จะมีการตรวจสอบไหม ยังมีอีกกี่เคส ที่เปิดรับบริจาคง่ายๆ แบบนี้ เรื่องจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่ได้เงินจริงๆ 

นี่เป็นวิธีการหารายได้ที่เยอะกว่า คนที่ต้องเสียเวลาเรียนจบสูงๆ ซะอีกนะ อย่าเป็นคนขี้สงสาร และโอนไว หากอยากบริจาคจริงๆ มีมูลนิธิอีกหลายแห่งที่ต้องการเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือได้หลายๆ เคส เช่นโรงพยาบาล มูลนิธิต่างๆ