นี่เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกเพื่อแชร์ประสบการณ์เรื่องการเลเซอร์สิวอุดตันนะคะ

ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าปกติตั้งแต่เด็กๆเราเป็นคนไม่ค่อยมีสิวขึ้น แต่ด้วยความที่ชอบย้อมผมบ่อยมากๆจนผมเสีย ทำให้ต้องบำรุงผมด้วยครีมหมักผมสารพัดมากๆ ซึ่งปกติเราเป็นคนแพ้พวกแชมพูแปลกๆอยู่แล้ว จะมีอาการคันหนังศรีษะบ่อยมากหลังสระ จนทำให้ต้องเปลี่ยนยาสระผมบ่อยๆ แต่ด้วยความที่เราผมเสียมากๆๆๆ ทำให้เรายอมที่จะลองบำรุงสารพัดแทบทุกอย่างในคราวเดียวกัน อะไรว่าดีเอาหมด ซึ่งตอนแรกหน้าเรากลายเป็นสิวอักเสบ เฉพาะช่วงหน้าผากและไรผม จึงไปหาคุณหมอที่คลินิกแห่งนึง ชื่อพคน. ซึ่งเราดูแลหน้าที่นี่ประจำตั้งแต่ม.ต้น คุณหมอบอกว่า ให้เราชะโลมครีมนวดเฉพาะปลายพอเพราะจากสิวเหมือนซิลิโคนอุดตัน หลังจากนั้นเราก็ทำตามที่หมอสั่ง แต่อาการกลับไม่ดีขึ้น สาเหตุหลักๆอีกอย่างคือเป็นช่วงสอบในมหาลัย และต้องอ่านหนังสือ ทำงานมีเวลานอนน้อยมากๆด้วย บวกกับเป็นคนชอบแต่งหน้าประจำ จึงมีสิวเริ่มขึ้นเรื่อยๆและลามไปที่แก้ม และคาง จึงไปกดออกที่คลินิกแทบทุกอาทิตย์โดยแพทย์กดให้ เสียเงินไปเยอะมากๆ ช่วงนั้นหน้าเราจากที่แข็งแรงไม่เคยแพ้อะไร กลายเป็นว่าใช้อะไรก็แพ้ไปหมด ไม่ถูกกับอะไรสักอย่าง ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาสำหรับคนเป็นสิวเราก็แพ้ สิวยิ่งลุกลามไปที่ใหม่ๆมากขึ้นจนเราท้อใจ จึงตัดสินใจลองมาเลเซอร์ Co2 ตอนแรกที่ดูรีวิวคือกลัวมากเพราะเห็นรูปหลังทำเสร็จแล้วคือสยอง คิดว่าตัวเองจะรับได้มั้ย แต่ตอนนั้นคือถึงจุดที่เราไม่ไหวแล้ว อยากกลับไปผิวหน้าดีๆแบบแต่ก่อน เราจึงค่อยๆเก็บเงินเป็นค่าเลเซอร์ ด้วยความที่งบน้อยเลยอยากเลือกที่ไม่แพงหน่อยจึงตัองเลือกแบบเหมา เท่าที่จำได้ตอนนั้นเราทำที่รชพ คลินิกเป็นแบบราคาเหมา ค่าเลเซอร์ประมาณ2000 ทำได้ทั้งหน้า คือเขาจะให้เราทำยาชาทิ้งไว้ประมาณ40นาที คือหน้าชาไปเลย ไม่รู้สึกอะไรตอนโดนเลเซอร์จี้ ตอนทำหมอจะใช้เลเซอร์จี้สิวเพื่อเปิดหัวสิว เพื่อทำการกดออกต่อไป ให้ทั่วหน้ากระทั่งเม็ดเล็กๆก็เก็บเรียบบบ ตอนเลเซอร์จะได้กลิ่นไหม้ๆหน่อย เสียงดังแป้กๆเหมือนไม้ช็อตยุงเล็กน้อย โดยพี่ๆพนักงานจะมากดสิวออกให้เรา พอหลังจากออกจากห้องก็ไปรอรับยาจ่ายเงินกลับบ้าน ยาทั้งหมดที่ได้ไม่เกิน1000บาท ซึ่งก่อนกลับคุณหมอบอกว่าให้เราใช้แชมพูจอห์นสันของเด็ก และอย่าโดยน้ำ1วัน ที่สำคัญห้ามแกะแผลที่ตกสะเก็ดจากการเลเซอร์ และห้ามโดนแดดเด็ดขาด ยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นหน้าตัวเองในกระจกตกใจมากกก เพราะไม่เคยเห็นหน้าเป็นจุดดำๆแดงๆเยอะขยาดนี้มาก่อน ตอนเป็นสิวเม็ดเล็กๆเราไม่ค่อยเห็น แต่หมอจะเห็นเค้าก็เอาออกให้เราให้หมด ในกรณีเราหมอบอกว่าประมาณ200กว่าเม็ด ซึ่งตอนพี่ๆพนักงานกด มีบางเม็ดที่กดไม่ออกบ้าง เราก็ปล่อยให้มันอักเสบสักพักจนยุบไปเพราะไม่กล้ายุ่งกับหน้ามาก หลังจากนั้นเราก็พยายามถ่ายรูปเก็บไว้ดูเรื่อยๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงหลังมหาลัยสอบเสร็จพอดี พอสอบเสร็จจึงอยู่ในหอพักได้ ไม่ต้องเจอผู้คนมากนัก จึงไม่ได้หนักใจเรื่องที่เป็นสะเก็ดบนหน้า อีกอย่างคือรู้สึกมีความหวังว่าหน้าจะดีขึ้นมาบ้าง ซึ่งผลที่ได้คือเรื่องสิวบนหน้าดีขึ้นมากจริงๆคือลูบไปไม่ค่อยมีสิวเหมือนแต่ก่อน ไม่สาก และไม่แพ้อะไรแล้ว ช่วงนั้นเรางดใช้ทุกอย่าง ไม่สรรหาอะไรมาทาแล้ว พักหน้าให้มากที่สุด ใช้แค่ตามที่หมอสั่ง หลังจากนั้นประมาณ4วัน สะเก็ดเล็กๆเริ่มหลุด และสะเก็ดหลุดหมดประมาณ7-9วัน เราพยายามรักษาสะเก็ดให้หลุดช้าที่สุดจะได้เกิดรอยน้อยที่สุด ซึ่งพอสะเก็ดหลุดก็ยังเป็นรอยดำอยู่ ต้องหมั่น ทายารักษารอยตามหมอสั่ง ซึ่งปัญหาเรื่องรอยดำนี้ ทำใจแล้วว่าต้องใช้เวลา ซึ่งรอยจะเริ่มจางจริงๆประมาณ1เดือนที่เห็นผล และค่อยๆจางลงเรื่อยๆ โดยต้องใช้เวลานะคะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเราไปเลเซอร์แค่ครั้งเดียวก็จริง แต่ด้วยความที่พี่พนักงานกดไม่หมด เราเลยต้องมีการไปกดสิวที่นั่นซ้ำ และไปเอายา รวมทั้งหมดประมาณ4ครั้งค่ะ ถึงจะโอเคขึ้นจริงๆ

ส่วนตัวเจ้าของกระทู้อยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังเป็นสิวอยู่นะคะ ไว้เผื่อเป็นทางเลือกค่ะ ขอให้สิวหายไวๆ และกลับมามีความมั่นใจในการใช้ชีวิตนะคะ ปรึกษาได้หลังไมค์ค่ะ ยินดีค่ะ

ปล.ตอนนี้เราไม่ได้รักษาที่รชพ คลินิกต่อเนื่องแล้วนะคะ มีไปกดสิวหลังจากเลเซอร์สิวอุดตัน ประมาณ4ครั้ง และทานยาหมอต่อเนื่องประมาณ 2 เดือน ตอนนั้นนัดหมอทุก2อาทิตย์ค่ะ

ปล.2 ตอนนี้เรารักษากับคลินิกแถวบางประกอกนะคะ แต่ไปประมาณ2เดือนครั้งค่ะ ใกล้บ้าน และราคาไม่แพง เผื่อเป็นตัวเลือกคนที่สนใจ ลองศึกษาข้อมูลดูนะคะ 

ปล.3 วิธีการรักษาสิวอย่างนึงที่ยั่งยืนเลยคือการออกกำลังกาย ดื่มน้ำเยอะๆ ลดของมัน ของทอด น้ำตาล ตอนแรกเป็นคนกลัวเหงื่อออกแล้วจะเป็นสิวมากๆ แต่เคยไปปรึกษาหมอ หมอบอกเราเข้าใจผิด ยิ่งออกกำลังกายจะยิ่งปรับฮอร์โมนจะยิ่งดี เลยลองทำมาจะเกือบปีแล้วค่ะ มันช่วยได้จริงๆ ไว้ว่างๆจะมาแชร์กระทู้กันนะคะ