ตั้งแต่มีวิกฤกโควิดผมค้นพบข้อดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ คอนโดแต่ละโรงการมีการเอาโปรดักซ์ของตนเองออกมาจัดโปรโมชั่นกันอย่างต่อเนื่อง อย่างตัวผมเองก็เพิ่งได้ห้องจาก The Line สุขุมวิท 101 มา 2 ห้อง ในราคาโปรแค่ 3.1 ล้าน เป็นห้องบนชั้น 30 หันเข้าวิวบางกะเจ้า ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างคุ้มค่าโครงการอยู่ห่างจาก BTS ปุณณวิถี แค่ 250 เมตรมั้ง เดินได้สบาย ๆ ราคาเท่านี้ ตกแต่งอีกนิด ปล่อยเช่าได้ประมาณ 15k เพราะเทียบกับเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ข้าง ๆ ที่ห้องใหญ่กว่าเท่านึง เขาคิด 30K เราก็เล่นง่าย ๆ ห้องเราเล็กกว่าเขาครึ่งนึง ก็คิดราคาเช่าถูกกว่าเขาครึ่งนึงก็แล้วกัน 5555555
วันนี้ที่มาตั้งกระทู้เพราะตอนนี้หลายคนคงเห็นโปรฯ คอนโด แล้วอยากได้เหมือนกับเราเเหละ แต่ก็กังวลว่าในสถานการณ์แบบนี้จะกู้ผ่านไหม ผมเลยจะมาเเนะนำ 5 เทคนิคกู้ซื้อคอนโด ให้ผ่าน 100% กันครับ เพราะจริง ๆ เเล้วเรื่องการขอสินเชื่อธนาคารไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลาย ๆ คนกังวลเลย โดยทั่วไปคุณสมบัติของผู้ขอกู้ ตลอดจนเงื่อนไขบางอย่างของทุกธนาคารก็จะเหมือน ๆ กัน ฉะนั้น เราจึงสามารถเตรียมตัว และพร้อมรับมือกับทุกเกณฑ์ที่ธนาคารใช้ เพื่อไม่ให้การขอสินเชื่อนั้นมีข้อผิดพลาดและใช้เวลานานเกินไปครับ
1. ประมาณตนเองและสัดส่วนรายได้ต่อวงเงินสินเชื่อ
รายได้ของเราต่อสัดส่วนเงินที่จะขอกู้เนี่ยเหมือน รักแรกพบ เหมือน First Impresstion ระว่างเรากับธนาคารเลยแหละ เพราะธนาคารก็จะประเมินเบื้องต้นจากข้อมูลตรงนี้แหละ ซึ่งเราก็ต้องประเมินตนเองด้วยว่ายอดเงินที่เราข้อกู้ หรือราคาคอนโดที่เราจะซื้อ สัมพันธ์กันไหม ธนาคารเขาก็จะคิดว่า ไม่ปล่อยกูออกมาจากเป็นหนี้เสียหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้จะส่งผลต่อ จำนวนเงินที่ธนาคารจะปล่อยกู้ด้วย
2. เตรียมหลักฐานทางการเงิน / เดินบัญชีธนาคารให้เรียบร้อย
ตรงนี้สำคัญมากเพราะเป็นหลักฐานยืนยันกับธนาคาร เพราะมันจะเเสดงถึงความมั่นคงทางรายได้ ซึ่งแปลว่าเราจะมีศักยภาพพอดีจะเป็นหนี้ก้อนนี้หรือไม่ เราจะสามารถผ่อนได้มากน้อยแค่ไหน โดยหลักฐานทางการเงินนี้ต้องมีเงินเข้าออกอย่างเป็นปกติ มีหลักฐานที่มาของรายได้หากไม่ใช่งานประจำ
3. รักษาประวัติการชำระหนี้
คนที่จะสามารถกู้ซื้อคอนโดได้ จำเป็นต้องมีเครดิต และก่อนหน้านี้เราอาจจะใช้เครดิตในการชำระของอย่างอื่นอยู่ เราต้องรักษาประวัติการจ่ายเหล่านั้นให้ดี อย่าจ่ายช้า เพราะทางธนาคารจะมีการตรวจสอบข้อมูลการชำระหนี้ย้อนหลังของเราผ่านทางบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งขาติหรือเครดิตบูโรด้วย ซึ่งเครดิตบูโรเนี่ยหลายคนเข้าใจผิด เพราะต่อให้ตรวจเเล้วพบว่าเราติดเครดิตบูโร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกู้ไม่ผ่านนะ ธนาคารต่างหากที่เป็นคนตัดสินใจว่าจะปล่อยกู้หรือไม่ เครดิตบูโรแค่เป็นหน่วยงานที่รวบรวมข้อมูลเท่านั้น อันนี้เอามาเม้าให้ฟัง เมื่อก่อนเข้าใจผิดเหมือนกัน
4. มีเงินเย็นติดบัญชี
เงินติดบัญชีจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นหรอก ผมก็กู้ออกมาได้โดยที่เงินไม่ได้ติดบัญชีเยอะ คือเอาจริง ๆ เงินที่อยู่ในบัญชีควรมีอย่างน้อย 20% ของวงเงินกู้ จะทำให้ธนาคารพิจารณาปล่อยกู้เราง่ายขึ้นมาก และมันก็ดีต่อตัวเราหากมีเดือนไหนที่เกิดปัญหาทางรายได้ เงินตรงนี้เอามาผ่อนแทนไปก่อนได้สบาย ๆ
5. อย่าลืมดูหลักเกณฑ์เบื้องต้นของแต่ละธนาคารด้วย อันนี้ไปกอปมาไว้ให้แล้วเผื่อใครหาไม่เจอ ทุกอย่างตามนี้เลยครับ
ตัวผู้กู้ (Character)
- อายุ
- อาชีพ
- ความมั่นคงของรายได้
- ประวัติการชำระหนี้
ความสามารถในการชำระหนี้ (Capacity)
- รายได้
- ภาระใช้จ่ายต่าง ๆ
- สัดส่วนเงินงวดต่อรายได้สุทธิ ต้องไม่เกิน 33%
หลักประกัน (Collateral)
- สังหาริมทรัพย์ + อสังหาริมทรัพย์ ที่มีสภาพคล่อง
- ผู้กู้ร่วม
เงินทุน
- ทุนส่วนตัว 10 - 20% สำหรับเงินดาวน์
เงื่อนไขอื่นๆ
- นโยบายการปล่อยสินเชื่อ
- เงื่อนไขและข้อกำหนดของเงินกู้
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ :
5 เทคนิค กู้ซื้อคอนโด ผ่าน 100%
5 เทคนิค กู้ซื้อคอนโด ผ่าน 100%
วันนี้ที่มาตั้งกระทู้เพราะตอนนี้หลายคนคงเห็นโปรฯ คอนโด แล้วอยากได้เหมือนกับเราเเหละ แต่ก็กังวลว่าในสถานการณ์แบบนี้จะกู้ผ่านไหม ผมเลยจะมาเเนะนำ 5 เทคนิคกู้ซื้อคอนโด ให้ผ่าน 100% กันครับ เพราะจริง ๆ เเล้วเรื่องการขอสินเชื่อธนาคารไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลาย ๆ คนกังวลเลย โดยทั่วไปคุณสมบัติของผู้ขอกู้ ตลอดจนเงื่อนไขบางอย่างของทุกธนาคารก็จะเหมือน ๆ กัน ฉะนั้น เราจึงสามารถเตรียมตัว และพร้อมรับมือกับทุกเกณฑ์ที่ธนาคารใช้ เพื่อไม่ให้การขอสินเชื่อนั้นมีข้อผิดพลาดและใช้เวลานานเกินไปครับ
1. ประมาณตนเองและสัดส่วนรายได้ต่อวงเงินสินเชื่อ
รายได้ของเราต่อสัดส่วนเงินที่จะขอกู้เนี่ยเหมือน รักแรกพบ เหมือน First Impresstion ระว่างเรากับธนาคารเลยแหละ เพราะธนาคารก็จะประเมินเบื้องต้นจากข้อมูลตรงนี้แหละ ซึ่งเราก็ต้องประเมินตนเองด้วยว่ายอดเงินที่เราข้อกู้ หรือราคาคอนโดที่เราจะซื้อ สัมพันธ์กันไหม ธนาคารเขาก็จะคิดว่า ไม่ปล่อยกูออกมาจากเป็นหนี้เสียหรือเปล่า ซึ่งตรงนี้จะส่งผลต่อ จำนวนเงินที่ธนาคารจะปล่อยกู้ด้วย
2. เตรียมหลักฐานทางการเงิน / เดินบัญชีธนาคารให้เรียบร้อย
ตรงนี้สำคัญมากเพราะเป็นหลักฐานยืนยันกับธนาคาร เพราะมันจะเเสดงถึงความมั่นคงทางรายได้ ซึ่งแปลว่าเราจะมีศักยภาพพอดีจะเป็นหนี้ก้อนนี้หรือไม่ เราจะสามารถผ่อนได้มากน้อยแค่ไหน โดยหลักฐานทางการเงินนี้ต้องมีเงินเข้าออกอย่างเป็นปกติ มีหลักฐานที่มาของรายได้หากไม่ใช่งานประจำ
3. รักษาประวัติการชำระหนี้
คนที่จะสามารถกู้ซื้อคอนโดได้ จำเป็นต้องมีเครดิต และก่อนหน้านี้เราอาจจะใช้เครดิตในการชำระของอย่างอื่นอยู่ เราต้องรักษาประวัติการจ่ายเหล่านั้นให้ดี อย่าจ่ายช้า เพราะทางธนาคารจะมีการตรวจสอบข้อมูลการชำระหนี้ย้อนหลังของเราผ่านทางบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งขาติหรือเครดิตบูโรด้วย ซึ่งเครดิตบูโรเนี่ยหลายคนเข้าใจผิด เพราะต่อให้ตรวจเเล้วพบว่าเราติดเครดิตบูโร ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกู้ไม่ผ่านนะ ธนาคารต่างหากที่เป็นคนตัดสินใจว่าจะปล่อยกู้หรือไม่ เครดิตบูโรแค่เป็นหน่วยงานที่รวบรวมข้อมูลเท่านั้น อันนี้เอามาเม้าให้ฟัง เมื่อก่อนเข้าใจผิดเหมือนกัน
4. มีเงินเย็นติดบัญชี
เงินติดบัญชีจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นหรอก ผมก็กู้ออกมาได้โดยที่เงินไม่ได้ติดบัญชีเยอะ คือเอาจริง ๆ เงินที่อยู่ในบัญชีควรมีอย่างน้อย 20% ของวงเงินกู้ จะทำให้ธนาคารพิจารณาปล่อยกู้เราง่ายขึ้นมาก และมันก็ดีต่อตัวเราหากมีเดือนไหนที่เกิดปัญหาทางรายได้ เงินตรงนี้เอามาผ่อนแทนไปก่อนได้สบาย ๆ
5. อย่าลืมดูหลักเกณฑ์เบื้องต้นของแต่ละธนาคารด้วย อันนี้ไปกอปมาไว้ให้แล้วเผื่อใครหาไม่เจอ ทุกอย่างตามนี้เลยครับ
ตัวผู้กู้ (Character)
- อายุ
- อาชีพ
- ความมั่นคงของรายได้
- ประวัติการชำระหนี้
ความสามารถในการชำระหนี้ (Capacity)
- รายได้
- ภาระใช้จ่ายต่าง ๆ
- สัดส่วนเงินงวดต่อรายได้สุทธิ ต้องไม่เกิน 33%
หลักประกัน (Collateral)
- สังหาริมทรัพย์ + อสังหาริมทรัพย์ ที่มีสภาพคล่อง
- ผู้กู้ร่วม
เงินทุน
- ทุนส่วนตัว 10 - 20% สำหรับเงินดาวน์
เงื่อนไขอื่นๆ
- นโยบายการปล่อยสินเชื่อ
- เงื่อนไขและข้อกำหนดของเงินกู้
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : 5 เทคนิค กู้ซื้อคอนโด ผ่าน 100%