พูดในฐานะที่ไม่ใช่สาวก creed
ได้ลองมาทั้งสองกลิ่นแล้ว เลือกซื้อ Virgin Island Water มาเก็บ เป็นขวดที่สองของแบรนด์
สองขวดนี้ virgin island water เป็นกลิ่นมะพร้าวที่ดูเบาสบาย นุ่มนวล อย่างหาที่สุดมิได้
ส่วน erolfa กลิ่นเขียว และแข็งกว่า ก็จะดูแมนกว่าหน่อย แต่ว่าไม่ค่อยชอบเลย

สิ่งที่พบระหว่างก่อนซื้อและหลัง คือ ขวดที่วางไว้ให้เทส กับขวดที่ซื้อมา กลิ่นไม่เหมือนกัน
แต่แนวทางโดยรวม ยังคงเป็นกลิ่นเดียวกัน ความต่างที่ว่านั้นเกี่ยวกับความรู้สึกสดชื่นในช่วงแรก
น้ำหอม creed มักจะเป็นเช่นนี้ เขาอ้างว่า ส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก
ซึ่งความเป็นธรรมชาติ ก็เป็นจุดขายของแบรนด์เขาเหมือนกัน

กลิ่นนี้เป็นกลิ่นประเภทที่ ฉีดครั้งเดียวรักเลย รู้ตัวทันทีว่าต้องมีต้องเก็บ
ในวันที่อากาศร้อน แดดจ้า เคยฉีดไปเยี่ยมเพื่อน ใส่ชุดขาวเข้ากันมาก
กลิ่นดูเป็นคนดี ดูรวย และมีความสุขกับชีวิตแบบสบายๆ ไม่พิธีรีตอง
เป็นกลิ่นที่ใช้ฉีดแล้วมีความสุขมาก เหมือนอยู่ในภาวะไร้ความกังวล
ช่วงเปิดมีกลิ่นมะนาวอ่อนบาง สะอาดๆอารมณ์คล้าย chanel blanche
เคล้ากลิ่นมะพร้าว แต่มันเป็นแบบที่ดูโปร่ง ฟู สะอาด กลิ่นหวาน คล้ายว่าจะอ่อน
ค่อนข้างใส ไม่ข้นกะทิ บางคนกล่าวว่าได้กลิ่นแล้วนึกถึงน้ำมะพร้าว
แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า น้ำมะพร้าวกลิ่นยังไม่ชัดขนาดนี้
แม้บุคลิกกลิ่นจะดูอ่อนๆโปร่ง แต่มันอยู่ทนมาก
ฉีด 3-4 ที กลับมาตอนเย็น ถอดผ้าใส่ตะกร้าเดินผ่านแล้วยังได้กลิ่นอยู่เลย
เวลาเอาผ้าไปแช่ ซักตาก แล้วกลิ่นยังโชยเวลาเดินไปแถวราวตากผ้า
มันเป็นกลิ่นที่สวยงามมาก และดูหรูมาก ลักษณะแบบนี้คือ dna แบบ creed จริงๆ
คะแนนนิยมของ VIW ค่อนข้างท่วมท้นมากกว่า ERF พอสมมควร ดังนั้นน่าจะบอกอะไรบางอย่าง

ข้อเสียของ VIW จากที่ใช้มาคือ มันมีกลิ่นเหล้ารัมและกระดังงาด้วย ก็จะมึนๆหน่อย ยังอยู่ในระดับที่พอรับไหว
กระดังงาอยู่ในระดับที่พอให้เกิดความนุ่มนวล ไม่บอกไม่รู้ ไม่ได้หวานชัดเป็นดอกๆ เหมือนมุดเข้าพุ่มดอกไม้
และคนส่วนใหญ่จะคิดว่ามันอ่อนไป ดูไม่คุ้มกับการลงทุน ข้อนี้ต้องขึ้นอยู่กับรสนิยมแล้วล่ะ
ถ้าซื้อมาใช้เพื่อให้มีความสุขกับกลิ่น พูดเลยว่าไม่ควรพลาด