คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
บางทีมันเลือกไม่ได้ครับว่าจะกระจายความเสี่ยงยังไง เพราะว่าบางคนทุนน้อย แต่กระแสเงินสดเยอะ อยากขยายกิจการก็ต้องไปกู้ และที่เห็นกู้ได้ก็ต้องมีสินทรัพย์ ส่วนมากก็จะเอาเงินไปซื้อที่ดิน จากนั้นก็เอาที่ดินไปกู้กับธนาคารอีกที ถ้าธุรกิจมีปัญหาก็จะโดนยึดที่ไปด้วย แต่ถ้าโชคดี ราคาที่ดินขึ้นมามาก อาจจะขาย เอาเงินสดไว้ขยายกิจการต่อ หรือเก็บไว้ขายหรือให้เช่าตอนเกษียณ
คนที่สามารถกระจายความเสี่ยงแบบเงินเย็นโดยทำธุรกิจไปด้วยคงมี แต่ค้าขายมาหลายสิบปี เห็นไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้ เพราะส่วนมากจะขยายไปเรื่อยๆ ตามกำลัง การเอาเงินที่ได้ไปไว้กับอสังหาที่ขาดสภาพคล่องโดยไม่เอาออกมาใช้เลยนั้นทำให้ขาดกำไรที่พึงได้ส่วนหนึ่งครับ เพราะอสังหาไม่ใช่ขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องถือยาวพอสมควร และจะขายได้ราคาถ้ามีคนอยากซื้อ แต่ถ้าเราอยากขายแบบด่วนๆ จะไม่ค่อยได้ราคา ส่วนกำไรจากการทำธุรกิจมันเยอะกว่าการเอาไปฝากในที่ดินมาก ถ้าไม่เจอวิกฤต
คนที่สามารถกระจายความเสี่ยงแบบเงินเย็นโดยทำธุรกิจไปด้วยคงมี แต่ค้าขายมาหลายสิบปี เห็นไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้ เพราะส่วนมากจะขยายไปเรื่อยๆ ตามกำลัง การเอาเงินที่ได้ไปไว้กับอสังหาที่ขาดสภาพคล่องโดยไม่เอาออกมาใช้เลยนั้นทำให้ขาดกำไรที่พึงได้ส่วนหนึ่งครับ เพราะอสังหาไม่ใช่ขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องถือยาวพอสมควร และจะขายได้ราคาถ้ามีคนอยากซื้อ แต่ถ้าเราอยากขายแบบด่วนๆ จะไม่ค่อยได้ราคา ส่วนกำไรจากการทำธุรกิจมันเยอะกว่าการเอาไปฝากในที่ดินมาก ถ้าไม่เจอวิกฤต
แสดงความคิดเห็น
คนทำธุกิจส่วนตัว ทำอย่างไรถึงรู้สึกมั่นคงกับชีวิตครับ
ทำอย่างไรถึงรู้สึกมั่นคงกับชีวิตครับ
ต้องสร้างความมั่นคงทางการเงินอย่าเดียวหรือป่าวครับ สร้างเงินเก็บเยอะในระดับที่อยู่ได้ยันตายหากต้องเลิก หรือกระจายความเสี่ยง
ธุรกิจปีนี้ดีปีหน้าอาจไม่ดี ปีนี้คู่แข่งน้อย ปีหน้าอาจคู่แข่งมากเลียนแบบ ตัดราคาเพิ่มมาก