ข่าวดี้ดี 4.0 “เจ้าสัวสหพัฒน์” แนะรัฐบาลอย่าเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ เชื่อบาทอ่อนธุรกิจฟื้น

กระทู้ข่าว
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ระบุว่า”รุนแรงมากกว่าวิกฤตยุคต้มยำกุ้งในอดีตและสร้างความเสียหายกว่า 10 เท่า เนื่องจากยุคต้มยำกุ้งจะกระทบเฉพาะภาคธุรกิจ และบริษัทของเอกชน ขณะที่โควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก หากควบคุมไม่ดีจะพังไปกันหมด”


ขณะเดียวกัน แม้ไวรัสโควิด-19 จะสร้างความเสียหาย แต่มองในมุมโอกาส ที่เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็วหรือช้านั้น ขึ้นอยู่กับค่าเงินบาท ถ้าหากค่าเงินบาทอยู่ที่ 35-36 ต่อเหรียญดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวภายใน 1 ปี แต่หากค่าเงินบาทยังเท่ากับปัจจุบัน (ประมาณ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) ก็อาจจะใช้เวลาฟื้นฟูไปนานกว่า 3 ปี และนักลงทุนมองว่าหลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง สิ่งที่จะสร้างมูลค่าได้จะไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ แต่จะเป็นทองคำ
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตจะเห็นว่าที่ผ่านมา ประเทศจีนเป็นที่สนใจสำหรับนักลงทุน แต่ปัจจุบันสถานการณ์เริ่มเปลี่ยน นักลงทุนหลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุนในจีน จึงถือเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความมั่นใจ และเพื่อดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกระตุ้นการจับจ่ายในประเทศให้มากขึ้น
 
รวมถึงการเมืองก็เป็นตัวแปรสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงอยากแนะนำว่า อย่าเพิ่งให้รัฐบาลเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ เพราะทิศทางของการทำงานมาถูกทางแล้ว จากนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ตลอดจนการนำบิ๊กดาต้าเข้ามาปรับใช้ในการแจกเงินเยียวยาประชาชนคนละ 5,000 บาท ให้ถึงมือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
และสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ คือ นำเงินลงไปเยียวยากลุ่มรากหญ้าให้เร็วที่สุด ควบคู่กับการเพิ่มศักยภาพด้านไอที และระบบการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ให้แข็งแกร่งมากขึ้น และตัวแปรหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตลอดจนดีจีพี (GDP) ก็คือ นโยบายของรัฐบาล
นอกจากนี้ โดยส่วนตัวเชื่อว่า จากประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 และจะสิ้นสุดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 และจะมีการต่อไปถึง 30 มิถุนายน 2563  จะทำให้ภาครัฐและเอกชนช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น แต่ประชาชนก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย ทั้งการเว้นระยะห่าง และใส่หน้ากาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่