จากกระทู้นี้นะคะ
https://ppantip.com/topic/39858325/comment5
หลังจากเราเปิดร้านขายของไม่ได้ตั้งแต่โควิดเข้ามา เงินเก็บก็เหลือน้อยลงทุกทีเครียดมากเลยเริ่มหางานค่ะ ปรึกษาเพื่อนที่ทำงานทั้งออฟฟิศกลางเมืองหลวง และโรงงานในนิคม เพื่อนก็โดนปัญหาเหมือนกันโควิดเหมือนกันค่ะ เช่น โดนพักงานสองเดือน โดนให้ไปทำงานแบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์ โดนให้ย้ายออฟฟิศไปอยู่สาขาใหญ่เพื่อเซฟคอร์ส เป็นต้น ไม่ใช่แค่เราที่มีปัญหาแต่ทุกคนมีปัญหาจริงๆ เราก็เลยเอาวะฮึดสู้หางานด้วยตัวเอง เราต้องมีรายได้และเราต้องได้งานเพื่อเก็บไว้เป็นประสบการณ์ด้วย มาค่ะขอเล่าวิธีหางานแบบหน้ามืดตามัวของเรานะคะ ช่วงเดือนมีนาถึงพฤษภาคมนะคะ
1. ลงประวัติให้ในเว็บหางานและกดสมัครผ่านเว็บไปเลยค่ะ เราเลือกสมัครแต่ตำแหน่งธุรการประสานงาน วุฒิตั้งแต่ ม.3 - ป.ตรี (เราจบรัฐศาสตร์) พวกนี้ไปต่ะ เพราะเราไม่มีสกิลและประสบการณ์ทำงานอะไรที่โดดเด่นเลยค่ะ เงินเดือนก็ไม่กล้าเรียกเยอะเขียนไปแค่ 10k - 13k หางานตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงพฤษภาคมก็ไม่มีที่ไหนติดต่อมาเลยค่ะ ท้อมาก
2. ส่ง resume ไปหาบริษัทโดยตรงเลยค่ะ ส่งเมลแล้วโทรถามดีกว่าว่าได้รับเมลเราไหม โชว์สกิลการเขียน resume และจัดแต่งหน้ากระดาษให้สวยงามแบบเรียบง่ายให้เค้าเห็นซะหน่อยดีกว่า ( ที่จริงก็โหลดมาจาก canva นั่นแหละค่ะ เลือกเอาแบบไม่มีแถบพลังโชว์พาวเวอร์เป็นสัญญาลักษณ์ต่างๆ เคยอ่านมาว่า hr ไม่ค่อยปลื้มเท่าไร ) ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอยู่ดี
3. ปริ้น resume ออกมาแล้วเข้านิคมเลยค่ะ นิคมจะแบ่งออกเป็นซอยๆเราเดินฝาก resume ไว้กับพี่ รปภ ที่หน้าป้อมบริษัทเลยค่ะ
วันที่หนึ่ง เดินเข้านิมคมสวยๆ เดินไปไม่ถึงครึ่งซอยร้อนจนจะเป็นลมเลยต้องกลับบ้านก่อน
วันที่สอง ขับรถไปเองค่ะ เลยได้เห็นว่าบางโรงงานสภาพแวดล้อมเราอยู่ไม่ได้แน่ๆเลยขับรถวนๆดูว่าโรงงานไหนที่พอเรามองเข้าไปแล้วเราน่าจะอยู่ได้แล้วกลับบ้านมาตั้งหลักเปิดกูเกิ้ลเอิร์ทส่องโรงงานแล้วลิสต์ชื่อออกมาว่าพรุ่งนี้จะไปแค่โรงงานที่เราเลือก
วันที่สาม ขับรถไปอีกรอบเพื่อร่อน resume ตามลิสค์ของเรา แต่ก็ยังเงียบกริบเหมือนเดิม
พอต้นๆเดือนพฤษภาคมเริ่มมีคนติดต่อเราไปสัมภาษณ์งานแล้วเย่ เราตกลงไปทุกที่ค่ะ นัดสัมภาษณ์วันเสาร์อาทิตย์เราก็ไปเพราะอยากได้งานจริงๆ
- Purchasing ทำงาน จ - ส 8.00 - 18.00 เงินเดือน < 10k ไปกลับรวม 6 กม นัดเริ่มงาน 18/05/2020
- Sale support ทำงาน จ - ศ 8.00 - 17.00 เงินเดือน = 10k ไปกลับรวม 36 กม นัดเริ่มงาน 18/05/2020
- ธุรการทั่วไป ทำงาน จ - ส 8.00 - 17.00 เงินเดือน = 10k ไปกลับรวม 30 กม นัดเริ่มงาน 18/05/2020
- ธุรการผลิต ทำงาน จ - ส 8.00 - 17.00 เงินเดือน = 10k ไปกลับรวม 30 กม นัดเริ่มงาน 25/05/2020
- DCC ทำงาน จ - ส 8.00 - 17.00 เงินเดือน > 10k ไปกลับรวม 20 กม นัดเริ่มงาน 25/05/2020 ( เล็งงานนี้ค่ะว่าเอาแน่ๆ )
เลยโทรปฎิเสธ 4 ตำแหน่งแรกไปนั่งรอตำแหน่ง DCC สวยๆ ปิดจ็อบการเดินสายสมัครงานเลยค่ะ เชิดใส่เงินเดือน <,= 10k ดีใจมากได้เงินเดือนสูงสุดตามที่เราขอไปเลย ช่วงนี้ก็มาส์กหน้ารอ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อเตรียมตัวไปโอเพนนิ่งกับที่ทำงานใหม่ ทุกคนจะต้องประทับใจเรา หึหึ แล้วก็มีโทรศัพท์เข้ามานัดสัมภาษณ์งานอีกก็เลยลองไปดูเป็นครั้งสุดท้าย ส่งท้ายซะหน่อยแบบก็ไปงั้นๆอ่ะค่ะแค่รอเวลาให้ถึงวันที่ 25/05/2020
มาถึงที่สุดท้ายที่เราไปสัมภาษณ์งานเจอเทสต์หนักมากโดยไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลย พอไปถึงเจอฝรั่งเดินเต็มโรงงานเลยเราตกใจมากเพราะคิดว่าต้องโดนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษแน่ๆ ( word excel powerpoint เราก็ได้แบบทั่วไปไม่ได้แอดว๊านซ์อะไรเลย ภาษาอังกฤษอะเหรอพูด อ่าน เขียนได้ระดับงูๆปลาๆไม่สนแกรมม่า ) พอเจอหน้าพี่ hr เราถามก่อนเลยว่าสัมภาษณ์เป็นภาษาอะไรคะ เค้าตอบว่าต้องแล้วแต่ผู้จัดการเลย แล้วก็เอาข้อสอบมาให้เทสต์เป็นภาษาอังกฤษหมดเลยช่วงกากบาทก็พอมั่วได้ พอให้เขียนนี่เหงื่อเริ่มออกมือแล้วเป็นคำถามทั่วไป เช่น วางแผนชีวิตการทำงานอย่างไร ชอบเจ้านายผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่ากันเพราะอะไร เจอความกดดันทำยังไง คุณหวังอะไรกับตำแหน่งและบริษัทนี้ เราก็เขียนไปด้วยความรู้อันน้อยนิดโทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้อยากขอตัวกลับบ้านตอนนั้นเลยเพราะใจนังก็กังวลกับการสัมภาษณ์ต่อไป พอถึงเวลาสัมภาษณ์ก็อย่างที่คิดค่ะ คนสัมภาษณ์คนไทย 2 คน ฝรั่ง 1 คน แต่เค้าไม่ได้ถามอะไรมากเค้าแค่ให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษแค่นั้น พอพูดจบเค้าก็ดูยิ้มๆแล้วบอกเราว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษเนอะแต่เขียนตอบมายาวมากเลย ดีที่ยังพยายามเขียนคำตอบออกมานะ บางคนทำไม่ได้ก็ไม่พยายามเขียนอะไรออกมาเลย เราก็ได้แต่ยิ้มแล้วบอกขอโทษค่ะ แล้วก็คุยถึงการทำงานกันนิดหน่อยก็เดินออกไปจากห้องสัมภาษณ์ทั้งสามคนแล้วบอกให้เรานั่งรอ hr นะ ตอนนั้นคือจบทุกอย่างแล้วแต่ทำไมเราเครียดกว่าตอนยังไม่สัมภาษณ์ก็ไม่รู้ พักใหญ่ๆเลยค่ะ hr เดินเข้ามาเราก็ยืนใบขอเข้าบริษัทให้เซ็นเก็บของพร้อมออกจากห้องแล้ว พี่เค้าเลยถามว่าเป็นไงบ้างสรุปว่าได้งานนะเค้าให้ผ่านทั้งสามคนเลย แก้เงินเดือนให้ด้วยเพราะทางเรามีมาตรฐานเงินเดือนให้กับตำแหน่งนี้อยู่แล้วก็อธิบายสวัสดิการต่างๆให้เราฟัง แล้วยื่นเอกสารตรวจร่างกายมาให้
- inventory control ทำงาน จ - ศ 7.00 - 16.00 เงินเดือน = 20k ไปกลับรวม 30 กม นัดเริ่มงาน 01/06/2020 ( สรุปเอางานนี้ค่ะไปโลเลแล้วจริงๆ )
สุดท้ายนี้เราไม่รู้หรอกว่างานแบบไหนเหมาะหรือไม่เหมาะกับเราเพราะเราไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อนแต่จะอดทนให้ถึงที่สุดค่ะ ตอนนี้สำหรับเราการไม่มีงานไม่มีเงินมันน่ากลัที่สุดแล้ว มันคงเป็นช่วงจังหวะและโอกาสด้วยที่เราได้งานนี้มาเราก็ต้องรับโอกาสเอาไว้ก่อน ทางข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ชั่งมันแล้วค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังหางานนะคะ สู้ๆ
22/05/2020 ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะเป็นพลังบวกให้กับเรามากๆเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจกับกระทู้ของเราขนาดนี้เลย ตอนเขียนก็เขียนไปตามความรู้สึกจริงๆตามประสาคนไม่เคยสมัครงาน เขียนแบบงงๆเหมือนเล่าให้เพื่อนฟังถ้าผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ
มีข้อความหลังไมค์มาเยอะมาก บางคนเราตอบกลับไม่ได้พอเรากดส่งข้อความมันขึ้นว่า หมายเลขสมาชิก ......... ไม่สะดวกรับข้อความจากคุณ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ
เก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ ขอแชร์เรื่องราวการหางานและได้งานตอนอายุ 31 ปีค่ะ
หลังจากเราเปิดร้านขายของไม่ได้ตั้งแต่โควิดเข้ามา เงินเก็บก็เหลือน้อยลงทุกทีเครียดมากเลยเริ่มหางานค่ะ ปรึกษาเพื่อนที่ทำงานทั้งออฟฟิศกลางเมืองหลวง และโรงงานในนิคม เพื่อนก็โดนปัญหาเหมือนกันโควิดเหมือนกันค่ะ เช่น โดนพักงานสองเดือน โดนให้ไปทำงานแบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์ โดนให้ย้ายออฟฟิศไปอยู่สาขาใหญ่เพื่อเซฟคอร์ส เป็นต้น ไม่ใช่แค่เราที่มีปัญหาแต่ทุกคนมีปัญหาจริงๆ เราก็เลยเอาวะฮึดสู้หางานด้วยตัวเอง เราต้องมีรายได้และเราต้องได้งานเพื่อเก็บไว้เป็นประสบการณ์ด้วย มาค่ะขอเล่าวิธีหางานแบบหน้ามืดตามัวของเรานะคะ ช่วงเดือนมีนาถึงพฤษภาคมนะคะ
1. ลงประวัติให้ในเว็บหางานและกดสมัครผ่านเว็บไปเลยค่ะ เราเลือกสมัครแต่ตำแหน่งธุรการประสานงาน วุฒิตั้งแต่ ม.3 - ป.ตรี (เราจบรัฐศาสตร์) พวกนี้ไปต่ะ เพราะเราไม่มีสกิลและประสบการณ์ทำงานอะไรที่โดดเด่นเลยค่ะ เงินเดือนก็ไม่กล้าเรียกเยอะเขียนไปแค่ 10k - 13k หางานตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงพฤษภาคมก็ไม่มีที่ไหนติดต่อมาเลยค่ะ ท้อมาก
2. ส่ง resume ไปหาบริษัทโดยตรงเลยค่ะ ส่งเมลแล้วโทรถามดีกว่าว่าได้รับเมลเราไหม โชว์สกิลการเขียน resume และจัดแต่งหน้ากระดาษให้สวยงามแบบเรียบง่ายให้เค้าเห็นซะหน่อยดีกว่า ( ที่จริงก็โหลดมาจาก canva นั่นแหละค่ะ เลือกเอาแบบไม่มีแถบพลังโชว์พาวเวอร์เป็นสัญญาลักษณ์ต่างๆ เคยอ่านมาว่า hr ไม่ค่อยปลื้มเท่าไร ) ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอยู่ดี
3. ปริ้น resume ออกมาแล้วเข้านิคมเลยค่ะ นิคมจะแบ่งออกเป็นซอยๆเราเดินฝาก resume ไว้กับพี่ รปภ ที่หน้าป้อมบริษัทเลยค่ะ
วันที่หนึ่ง เดินเข้านิมคมสวยๆ เดินไปไม่ถึงครึ่งซอยร้อนจนจะเป็นลมเลยต้องกลับบ้านก่อน
วันที่สอง ขับรถไปเองค่ะ เลยได้เห็นว่าบางโรงงานสภาพแวดล้อมเราอยู่ไม่ได้แน่ๆเลยขับรถวนๆดูว่าโรงงานไหนที่พอเรามองเข้าไปแล้วเราน่าจะอยู่ได้แล้วกลับบ้านมาตั้งหลักเปิดกูเกิ้ลเอิร์ทส่องโรงงานแล้วลิสต์ชื่อออกมาว่าพรุ่งนี้จะไปแค่โรงงานที่เราเลือก
วันที่สาม ขับรถไปอีกรอบเพื่อร่อน resume ตามลิสค์ของเรา แต่ก็ยังเงียบกริบเหมือนเดิม
พอต้นๆเดือนพฤษภาคมเริ่มมีคนติดต่อเราไปสัมภาษณ์งานแล้วเย่ เราตกลงไปทุกที่ค่ะ นัดสัมภาษณ์วันเสาร์อาทิตย์เราก็ไปเพราะอยากได้งานจริงๆ
- Purchasing ทำงาน จ - ส 8.00 - 18.00 เงินเดือน < 10k ไปกลับรวม 6 กม นัดเริ่มงาน 18/05/2020
- Sale support ทำงาน จ - ศ 8.00 - 17.00 เงินเดือน = 10k ไปกลับรวม 36 กม นัดเริ่มงาน 18/05/2020
- ธุรการทั่วไป ทำงาน จ - ส 8.00 - 17.00 เงินเดือน = 10k ไปกลับรวม 30 กม นัดเริ่มงาน 18/05/2020
- ธุรการผลิต ทำงาน จ - ส 8.00 - 17.00 เงินเดือน = 10k ไปกลับรวม 30 กม นัดเริ่มงาน 25/05/2020
- DCC ทำงาน จ - ส 8.00 - 17.00 เงินเดือน > 10k ไปกลับรวม 20 กม นัดเริ่มงาน 25/05/2020 ( เล็งงานนี้ค่ะว่าเอาแน่ๆ )
เลยโทรปฎิเสธ 4 ตำแหน่งแรกไปนั่งรอตำแหน่ง DCC สวยๆ ปิดจ็อบการเดินสายสมัครงานเลยค่ะ เชิดใส่เงินเดือน <,= 10k ดีใจมากได้เงินเดือนสูงสุดตามที่เราขอไปเลย ช่วงนี้ก็มาส์กหน้ารอ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ออกกำลังกายเบาๆ เพื่อเตรียมตัวไปโอเพนนิ่งกับที่ทำงานใหม่ ทุกคนจะต้องประทับใจเรา หึหึ แล้วก็มีโทรศัพท์เข้ามานัดสัมภาษณ์งานอีกก็เลยลองไปดูเป็นครั้งสุดท้าย ส่งท้ายซะหน่อยแบบก็ไปงั้นๆอ่ะค่ะแค่รอเวลาให้ถึงวันที่ 25/05/2020
มาถึงที่สุดท้ายที่เราไปสัมภาษณ์งานเจอเทสต์หนักมากโดยไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลย พอไปถึงเจอฝรั่งเดินเต็มโรงงานเลยเราตกใจมากเพราะคิดว่าต้องโดนสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษแน่ๆ ( word excel powerpoint เราก็ได้แบบทั่วไปไม่ได้แอดว๊านซ์อะไรเลย ภาษาอังกฤษอะเหรอพูด อ่าน เขียนได้ระดับงูๆปลาๆไม่สนแกรมม่า ) พอเจอหน้าพี่ hr เราถามก่อนเลยว่าสัมภาษณ์เป็นภาษาอะไรคะ เค้าตอบว่าต้องแล้วแต่ผู้จัดการเลย แล้วก็เอาข้อสอบมาให้เทสต์เป็นภาษาอังกฤษหมดเลยช่วงกากบาทก็พอมั่วได้ พอให้เขียนนี่เหงื่อเริ่มออกมือแล้วเป็นคำถามทั่วไป เช่น วางแผนชีวิตการทำงานอย่างไร ชอบเจ้านายผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่ากันเพราะอะไร เจอความกดดันทำยังไง คุณหวังอะไรกับตำแหน่งและบริษัทนี้ เราก็เขียนไปด้วยความรู้อันน้อยนิดโทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้อยากขอตัวกลับบ้านตอนนั้นเลยเพราะใจนังก็กังวลกับการสัมภาษณ์ต่อไป พอถึงเวลาสัมภาษณ์ก็อย่างที่คิดค่ะ คนสัมภาษณ์คนไทย 2 คน ฝรั่ง 1 คน แต่เค้าไม่ได้ถามอะไรมากเค้าแค่ให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษแค่นั้น พอพูดจบเค้าก็ดูยิ้มๆแล้วบอกเราว่าไม่เก่งภาษาอังกฤษเนอะแต่เขียนตอบมายาวมากเลย ดีที่ยังพยายามเขียนคำตอบออกมานะ บางคนทำไม่ได้ก็ไม่พยายามเขียนอะไรออกมาเลย เราก็ได้แต่ยิ้มแล้วบอกขอโทษค่ะ แล้วก็คุยถึงการทำงานกันนิดหน่อยก็เดินออกไปจากห้องสัมภาษณ์ทั้งสามคนแล้วบอกให้เรานั่งรอ hr นะ ตอนนั้นคือจบทุกอย่างแล้วแต่ทำไมเราเครียดกว่าตอนยังไม่สัมภาษณ์ก็ไม่รู้ พักใหญ่ๆเลยค่ะ hr เดินเข้ามาเราก็ยืนใบขอเข้าบริษัทให้เซ็นเก็บของพร้อมออกจากห้องแล้ว พี่เค้าเลยถามว่าเป็นไงบ้างสรุปว่าได้งานนะเค้าให้ผ่านทั้งสามคนเลย แก้เงินเดือนให้ด้วยเพราะทางเรามีมาตรฐานเงินเดือนให้กับตำแหน่งนี้อยู่แล้วก็อธิบายสวัสดิการต่างๆให้เราฟัง แล้วยื่นเอกสารตรวจร่างกายมาให้
- inventory control ทำงาน จ - ศ 7.00 - 16.00 เงินเดือน = 20k ไปกลับรวม 30 กม นัดเริ่มงาน 01/06/2020 ( สรุปเอางานนี้ค่ะไปโลเลแล้วจริงๆ )
สุดท้ายนี้เราไม่รู้หรอกว่างานแบบไหนเหมาะหรือไม่เหมาะกับเราเพราะเราไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อนแต่จะอดทนให้ถึงที่สุดค่ะ ตอนนี้สำหรับเราการไม่มีงานไม่มีเงินมันน่ากลัที่สุดแล้ว มันคงเป็นช่วงจังหวะและโอกาสด้วยที่เราได้งานนี้มาเราก็ต้องรับโอกาสเอาไว้ก่อน ทางข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ชั่งมันแล้วค่ะ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังหางานนะคะ สู้ๆ
22/05/2020 ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะเป็นพลังบวกให้กับเรามากๆเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนให้ความสนใจกับกระทู้ของเราขนาดนี้เลย ตอนเขียนก็เขียนไปตามความรู้สึกจริงๆตามประสาคนไม่เคยสมัครงาน เขียนแบบงงๆเหมือนเล่าให้เพื่อนฟังถ้าผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ
มีข้อความหลังไมค์มาเยอะมาก บางคนเราตอบกลับไม่ได้พอเรากดส่งข้อความมันขึ้นว่า หมายเลขสมาชิก ......... ไม่สะดวกรับข้อความจากคุณ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ