ASUS ในตระกูล VIVOBOOK นั้นต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาค่อนข้างคุ้มค่า คุ้มราคาพอสมควรครับทั้งเรื่องสเปคและวัสดุสีสันที่พัฒนาขึ้นเยอะ ถ้าใครจำกันได้ในรุ่นก่อนหน้าก็ถือว่าเปิดตัวมาได้ดี สเปคเทียบราคาดีมากๆพร้อมกับสีสันที่สวยและหลากหลายอย่างมาก มาในปีนี้เปิดตัวมาด้วยดีไซน์ใหม่อีกครั้ง พร้อม CPU AMD Ryzen 4000 Series รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งหมดครับทั้ง 5 และ 7 ถือว่าเป็น CPU ที่น่าจับตามองมากๆในปีนี้และมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ทั้งตัดขอบเครื่องแบบสวยๆคมๆ และ สีสันใหม่ รูปทรงอะไรใหม่ทั้งหมดเลยครับในรอบนี้ ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ทำได้น่าสนใจ ส่วนหน้าจอมีมาให้เลือกทั้ง 14-15 นิ้วใสเปคเดียวกัน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น New Vivobook Series แล้วเรียกตัวเดียวชื่อเดียว แต่รุ่นย่อยมีทั้ง 2 ขนาด และ 3 รุ่นย่อยปกติครับ New VivoBook series (D433/D533/D413) ทั้ง 3 ขนาด และ มีสเปคแตกต่างกัน ด้วยเช่นกันครับ
ASUS NEW VIVOBOOK SERIES ในรุ่นที่เรารีวิวนั้นจะเป็น D413 ครับเป็นซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมกับ ขนาด 14 นิ้ว จะมาพร้อม CPU AMD Ryzen 5 4500U วางจำหน่าย 3 สี (Hearty Gold/ Transparent Silver/ Indie Black) และมี CPU AMD Ryzen 7 4700U ในสี Indie Black วัสดุทำจากพลาสติกเคลือบเมทัล ซึ่งของเราจะเป็นตัว AMD Ryzen 7 4700U นะครับ แน่นอนว่าจัดเต็มเอาเรื่องเลยแหละสำหรับตัวนี้ พร้อมกับ การ์ดจอ Onboard RADEON และให้ RAM 8 GB DDR4 พร้อมกับ SSD PCle NVMe 512GB และ มาพร้อมหน้าจอ 14 นิ้ว FHD IPS ด้วยเช่นกันเป็นหน้าจอแบบด้านครับ และด้านลำโพงยังคงใช้งาน จากค่ายดัง HARMAN/KARDON และ มาพร้อมกับ USB-C และการเชื่อมต่อนั้นรองรับ WIFI 6 – Bluetooth 5 ด้วยครับ ส่วนการอัพเกรด RAM นั้นไม่รองรับนะครับในรุ่นนี้จะไม่เหมือนรุ่นก่อนหน้านั้น รวมถึงไม่มี Ergo Lift ด้วยครับ
ทางด้านราคาของทาง ASUS VIVOBOOK NEW SERIES นั้นมาพร้อมกับ สเปค หลักๆ 3 รุ่นย่อยครับ
- D433 ขนาด 14 นิ้ว CPU AMD Ryzen 5 4500U (มีวางขายเฉพาะสี Indie Black) วัสดุโลหะ
- D533 ขนาด 15 นิ้ว CPU AMD Ryzen 7 4700U และ Ryzen 5 4500U (มีวางขายเฉพาะสี Indie Black)
- D533 อีก 3 สี (Dreamy White/ Resolute Red/ Gaia Green) จะมาพร้อม Ryzen 5 4500U
- D413 ขนาด 14 นิ้ว CPU AMD Ryzen 5 4500U วางจำหน่าย 3 สี (Hearty Gold/ Transparent Silver/ Indie Black) และ CPU AMD Ryzen 7 4700U ในสี Indie Black ตัวที่รีวิว
- ตัวที่ รีวิวจะเป็น D433 ขนาด 14 นิ้ว CPU AMD Ryzen 7 4700U ในสี Indie Black ซึ่งเอาประสิทธิภาพไปอิงในตัว D413 RYZEN 7 ได้ และ วัสดุงานออกแบบ จะเป็นโลหะ แทนพลาสติก
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVOBOOK NEW SERIES
- สายชาร์จและ ADAPTOR
- สติกเกอร์สำหรับตกแต่งตัวเครื่อง
- คู่มือ ใบรับประกัน
DESIGN
ในเรื่องของการออกแบ ดีไซน์ในรุ่นนี้จริงๆมันอาจจะไม่ได้ใหม่อะไรมากครับเพราะมันจะเป็นเหมือนกับรุ่น S433 ก่อนหน้าที่ออกมาเป็นสเปค intel นั้นเองทั้งเรื่องงานออกแบบอะไรหลายๆอย่างมันเหมือนกันเลยนั้นเองครับ ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหลากหลายสีสันแบบเดิม และมาพร้อมทั้ง 14 15 นิ้ว และมีทั้งแบบวัสดุ โลหะ และ พลาสติกให้เลือกซื้อ ซึ่งในรีวิวจะเป็นแบบโลหะครับ D433 เลยทำออกมาได้ดีในเรื่องการสัมผัส วัสดุความแข็งแรงเลยครับ ขนาดอยู่ในกำลังดี พกพาได้ง่ายและ โทนสีอะไรยังคงโดดเด่นและยังมีการออกแบบตัดขอบเงินๆสวยงามมาให้ด้วยครับตัวนี้
ครั้งนี้เราเอามาให้ชมกัน 2 สีครับ คือ indie Black โทนสีดำ และ สีเขียว Gaia Green มีความแตกต่างกันพอสมควรทั้งโทนสีข้างนอก และ ข้างในรวมถึงพวกแป้นพิมพ์ครับ แน่นอนว่านอกจากนี้ยังมีสี Hearty Gold/ Transparent Silver มาให้เลือกด้วยครับ แน่นอนว่ารองรับได้หลากหลายความต้องการ ฝาหลังนั้นเรียบๆมีการออกแบบเส้นสายขอบบน พร้อมกับโลโก้แบบ Diamond Cut สีเงินมาให้ด้วยรวมถึงขอบเครื่องของก็ตัดขอบเช่นกัน ส่วนฝาข้างในก็มีการเล่นสีตรงปุ่ม Enter ต่างๆให้สวยงามครับ และขอบหน้าจออะไรทำได้บางมากๆเลยครับ
3 ภาพด้านบนนั้นเป็นจุดเด่นของงานออกแบบหลักๆในรุ่นนี้ทั้งเรื่องของโลโก้ และการออกแบบแถบข้างบนรวมถึงการใช้งานโลโก้ที่ตัดคมสวยแบบ Diamond Cut ทำให้มันมีมิติและเด่นขึ้นมา และยังมีการออกแบบปุ่ม Enter ที่มีการเล่นสีเขียวเด่นสวยงามใส่มาให้ในหลายๆรุ่นของตระกูลนี้โดดเด่นกว่าตัวอื่นเอาเรื่องครับ และ ยังมีตรงขอบเครื่องรอบๆทั้งเครื่องนั้นจะเป็นการตัดขอบแบบ Diamond Cut ทำให้มันเป็นสีเงินเงาทำมุมเฉียงทั้งเครื่อง ทำให้สะท้อนกับแสงและเงาได้สวยงามและดูดีมากขึ้นและในรุ่นนี้ใช้งานวัสดุ โลหะเลยทำให้มันดูพรีเมี่ยมมากกว่าเดิมครับ
ข้อพับ ข้อต่อในรุ่นนี้ถือว่ามีความแข็งแรงและมีน้ำหนักกำลังดีครับ แต่จะยกจอขึ้นมาแบบมือเดียวไม่ได้นะครับเครื่องมันเบาบางพอสมควรเลยทำให้ยกทั้งเครื่องขึ้นมาเลยส่วนในรุ่นนี้หน้าจอมันจะไม่ได้มีระบบ Ergo Lift แล้วครับเลยทำให้ตัวเครื่องไม่ได้ยกขึ้นมาสูงแบบรุ่นก่อนๆ ส่วนตัวช่องระบายอากาศในส่วนข้างหลังนั้นจะเห็นว่ามีช่องเรียงแนวยาวครับแต่ช่องที่สามารถระบายได้จริงๆนั้นจะเป็นในด้านซ้ายของภาพที่มีช่องระบายใหญ่ๆครับ เลยทำให้มีช่องระบายเดียวเป็นหลักเป็นพัดลมเดียวแน่นอนว่าเป็นปกติของ Ultrabook หลายๆรุ่นครับเนื่องจากไม่มีการ์ดจอแยกเลยไม่ได้ต้องใส่พัดลมคู่มาแบบพวกคอมพิวเตอร์สายเกมมิ่งอะไรแนวนั้นครับ
ขอบหน้าจอในรุ่นนี้มีความบางพอสมควร แต่ก็ยังใส่กล้องหน้ามาให้ครับแม้จะไม่ได้มีการใส่สแกนใบหน้ามาให้ก็ตาม มีไมค์อะไรใส่มาให้เรียบร้อยครับ ส่วนขอบหน้าจอข้างๆนั้นมีความบางอยู่ระดับนึงเลย ขอบหน้าจอทั้งหมดจะเป็นสีดำครับไม่ว่าสีตัวเครื่องนั้นจะเป็นแบบไหนแต่ส่วนขอบหน้าจอนั้นจะเป็นสีดำเหมือนกันทุกรุ่นย่อย แต่จะไม่มียางรองมาให้
ส่วนบริเวณแป้นพิมพ์และที่รองมือนั้นเป็นวัสดุโลหะเช่นกันครับ ไม่ได้มีลวดลายอะไรแต่มีเว้าลงไปนิดหน่อย โทนสีแป้นพิมพ์เป็นสีดำ ตัวหนังสือขาวพร้อมไฟขาว และ ปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนครับ ส่วนด้านข้างนั้นเราจะเห็นว่ามันมีการยกตัวเครื่องสูงขึ้นในด้านหลังแต่จะเป็นตัวยางรองใต้เครื่องที่ยกแทน ไม่ใช่ระบบ Ergo lift แบบรุ่นก่อนๆที่เปิดหน้าจอแล้วจะยกขึ้นไปครับเลย ทำให้องศาอะไรพวกนี้มันจะสูงไม่เท่ารุ่นก่อนๆแต่ก็ยังมีความง่ายต่อการใช้งานอยู่เช่นกัน
SPEC
- Windows 10 Home
- AMD RYZEN 7 4700U 7nm (8 Core 8 Threads 2.0GHz-4.1GHz) TDP15W
- AMD Radeon™ Graphics
- หน้าจอขนาด 14” LED-backlit Full HD (1920 x 1080) 16:9 NanoEdge display with 88% screen-to-body ratio รองรับมุมมองกว้าง 178° wide-view technology
- RAM 8GB 2400 MHz DDR4
- STORAGE PCIe SSD 512GB
- พอร์ตเชื่อมต่อ 1 x USB 3.1 Gen 1 Type-C™ 1 x USB 3.1 Gen 1 Type-A 2 x USB 2.0 1 x Standard HDMI 1 x Audio combo jack 1 x MicroSD card reader 1 x DC-in
- Keyboard Full-size พร้อมไฟ backlit, with 1.4mm key travel
- ASUS Sonic Master ระบบเสียง stereo พร้อมรองรับ surround-sound; และ smart amplifier Certified by Harman Kardon
- Array microphone with Cortana voice-recognition support
- 3.5mm headphone jack
- กล้องหน้า HD Camera
- Wi-Fi Intel Wi-Fi 6 with Gig+ performance (802.11ax)
- Bluetooth® Bluetooth V5.0
- รองรับ Fast charging: 60% in 49 minutes 42wh 3-cell lithium-prismatic battery 90W power adapter (Output: 19V DC, 4.74A, 90W) Plug Type: ø4 (mm) (Input: 100-240V AC, 50/60Hz universal)
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพ รุ่นนี้อัพเกรดมาใช้งาน ตัว CPU AMD RYZEN 7 4700U เทคโนโลยี 7nm ตัวล่าสุดครับ ความเร็ว 2.00 GHz Boost ถึง 4.10 GHz แบบ 8 คอร์ 8 เทรด ที่ 7nm ส่วนทางด้านการ์ดจอ นั้นมาพร้อมกับการ์ดจอในตัวคือ AMD RADEON VEGA ที่ก็ใช้งานได้ระดับนึงเลยและแรงไม่แพ้ MX250 เลยก็ตามครับ และ ให้ RAM 8GB ไม่สามารถอัพเกรดได้ และในเรื่องของความจุนั้นมาพร้อมกับ SSD 512GB ครบๆเลยแหละ ครับสำหรับรุ่นนี้แน่นอนว่าในส่วนของคะแนนก็พอใช้งานได้พอสมควรครับ และเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อม Pre-installed Microsoft office Home & Student พร้อมใช้งานเลยครับไม่ได้ต้องซื้ออะไรต่างหาก
PCMARK คะแนนทำได้ 4545 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะครับ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ทางด้านความร้อนนั้น CPU 78 และ GPU 79 ครับสำหรับการทดสอบนี้ให้สภาพอากาศปกติ
3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Sky driver / Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 1541 คะแนนดีกว่ารุ่นเดิมอีกนะ การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วยด้วยแต่ทำคะแนนได้เท่ากับพวก MX เลยครับ และ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน Sky Driver นั้นแตะ 9227 ได้เลยครับ ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 70 และ GPU 72 ครับสำหรับตัวนี้ สภาพอากาศปกติครับ ถือว่าเป็นการ์ดจอติด CPU ที่ทำได้ดีมากๆ และคะแนนก็แสดงให้เห็นว่าดีมาก
[SR] รีวิว ASUS NEW VIVOBOOK SERIES พร้อม AMD 4000 SERIES จัดเต็ม สีสันสวยงาม !
ASUS ในตระกูล VIVOBOOK นั้นต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ทำออกมาค่อนข้างคุ้มค่า คุ้มราคาพอสมควรครับทั้งเรื่องสเปคและวัสดุสีสันที่พัฒนาขึ้นเยอะ ถ้าใครจำกันได้ในรุ่นก่อนหน้าก็ถือว่าเปิดตัวมาได้ดี สเปคเทียบราคาดีมากๆพร้อมกับสีสันที่สวยและหลากหลายอย่างมาก มาในปีนี้เปิดตัวมาด้วยดีไซน์ใหม่อีกครั้ง พร้อม CPU AMD Ryzen 4000 Series รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งหมดครับทั้ง 5 และ 7 ถือว่าเป็น CPU ที่น่าจับตามองมากๆในปีนี้และมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ทั้งตัดขอบเครื่องแบบสวยๆคมๆ และ สีสันใหม่ รูปทรงอะไรใหม่ทั้งหมดเลยครับในรอบนี้ ถือว่าเป็นอีกครั้งที่ทำได้น่าสนใจ ส่วนหน้าจอมีมาให้เลือกทั้ง 14-15 นิ้วใสเปคเดียวกัน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น New Vivobook Series แล้วเรียกตัวเดียวชื่อเดียว แต่รุ่นย่อยมีทั้ง 2 ขนาด และ 3 รุ่นย่อยปกติครับ New VivoBook series (D433/D533/D413) ทั้ง 3 ขนาด และ มีสเปคแตกต่างกัน ด้วยเช่นกันครับ
ASUS NEW VIVOBOOK SERIES ในรุ่นที่เรารีวิวนั้นจะเป็น D413 ครับเป็นซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมกับ ขนาด 14 นิ้ว จะมาพร้อม CPU AMD Ryzen 5 4500U วางจำหน่าย 3 สี (Hearty Gold/ Transparent Silver/ Indie Black) และมี CPU AMD Ryzen 7 4700U ในสี Indie Black วัสดุทำจากพลาสติกเคลือบเมทัล ซึ่งของเราจะเป็นตัว AMD Ryzen 7 4700U นะครับ แน่นอนว่าจัดเต็มเอาเรื่องเลยแหละสำหรับตัวนี้ พร้อมกับ การ์ดจอ Onboard RADEON และให้ RAM 8 GB DDR4 พร้อมกับ SSD PCle NVMe 512GB และ มาพร้อมหน้าจอ 14 นิ้ว FHD IPS ด้วยเช่นกันเป็นหน้าจอแบบด้านครับ และด้านลำโพงยังคงใช้งาน จากค่ายดัง HARMAN/KARDON และ มาพร้อมกับ USB-C และการเชื่อมต่อนั้นรองรับ WIFI 6 – Bluetooth 5 ด้วยครับ ส่วนการอัพเกรด RAM นั้นไม่รองรับนะครับในรุ่นนี้จะไม่เหมือนรุ่นก่อนหน้านั้น รวมถึงไม่มี Ergo Lift ด้วยครับ
ทางด้านราคาของทาง ASUS VIVOBOOK NEW SERIES นั้นมาพร้อมกับ สเปค หลักๆ 3 รุ่นย่อยครับ
- D433 ขนาด 14 นิ้ว CPU AMD Ryzen 5 4500U (มีวางขายเฉพาะสี Indie Black) วัสดุโลหะ
- D533 ขนาด 15 นิ้ว CPU AMD Ryzen 7 4700U และ Ryzen 5 4500U (มีวางขายเฉพาะสี Indie Black)
- D533 อีก 3 สี (Dreamy White/ Resolute Red/ Gaia Green) จะมาพร้อม Ryzen 5 4500U
- D413 ขนาด 14 นิ้ว CPU AMD Ryzen 5 4500U วางจำหน่าย 3 สี (Hearty Gold/ Transparent Silver/ Indie Black) และ CPU AMD Ryzen 7 4700U ในสี Indie Black ตัวที่รีวิว
- ตัวที่ รีวิวจะเป็น D433 ขนาด 14 นิ้ว CPU AMD Ryzen 7 4700U ในสี Indie Black ซึ่งเอาประสิทธิภาพไปอิงในตัว D413 RYZEN 7 ได้ และ วัสดุงานออกแบบ จะเป็นโลหะ แทนพลาสติก
UNBOX
- ตัวเครื่อง VIVOBOOK NEW SERIES
- สายชาร์จและ ADAPTOR
- สติกเกอร์สำหรับตกแต่งตัวเครื่อง
- คู่มือ ใบรับประกัน
DESIGN
ในเรื่องของการออกแบ ดีไซน์ในรุ่นนี้จริงๆมันอาจจะไม่ได้ใหม่อะไรมากครับเพราะมันจะเป็นเหมือนกับรุ่น S433 ก่อนหน้าที่ออกมาเป็นสเปค intel นั้นเองทั้งเรื่องงานออกแบบอะไรหลายๆอย่างมันเหมือนกันเลยนั้นเองครับ ในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับหลากหลายสีสันแบบเดิม และมาพร้อมทั้ง 14 15 นิ้ว และมีทั้งแบบวัสดุ โลหะ และ พลาสติกให้เลือกซื้อ ซึ่งในรีวิวจะเป็นแบบโลหะครับ D433 เลยทำออกมาได้ดีในเรื่องการสัมผัส วัสดุความแข็งแรงเลยครับ ขนาดอยู่ในกำลังดี พกพาได้ง่ายและ โทนสีอะไรยังคงโดดเด่นและยังมีการออกแบบตัดขอบเงินๆสวยงามมาให้ด้วยครับตัวนี้
ครั้งนี้เราเอามาให้ชมกัน 2 สีครับ คือ indie Black โทนสีดำ และ สีเขียว Gaia Green มีความแตกต่างกันพอสมควรทั้งโทนสีข้างนอก และ ข้างในรวมถึงพวกแป้นพิมพ์ครับ แน่นอนว่านอกจากนี้ยังมีสี Hearty Gold/ Transparent Silver มาให้เลือกด้วยครับ แน่นอนว่ารองรับได้หลากหลายความต้องการ ฝาหลังนั้นเรียบๆมีการออกแบบเส้นสายขอบบน พร้อมกับโลโก้แบบ Diamond Cut สีเงินมาให้ด้วยรวมถึงขอบเครื่องของก็ตัดขอบเช่นกัน ส่วนฝาข้างในก็มีการเล่นสีตรงปุ่ม Enter ต่างๆให้สวยงามครับ และขอบหน้าจออะไรทำได้บางมากๆเลยครับ
3 ภาพด้านบนนั้นเป็นจุดเด่นของงานออกแบบหลักๆในรุ่นนี้ทั้งเรื่องของโลโก้ และการออกแบบแถบข้างบนรวมถึงการใช้งานโลโก้ที่ตัดคมสวยแบบ Diamond Cut ทำให้มันมีมิติและเด่นขึ้นมา และยังมีการออกแบบปุ่ม Enter ที่มีการเล่นสีเขียวเด่นสวยงามใส่มาให้ในหลายๆรุ่นของตระกูลนี้โดดเด่นกว่าตัวอื่นเอาเรื่องครับ และ ยังมีตรงขอบเครื่องรอบๆทั้งเครื่องนั้นจะเป็นการตัดขอบแบบ Diamond Cut ทำให้มันเป็นสีเงินเงาทำมุมเฉียงทั้งเครื่อง ทำให้สะท้อนกับแสงและเงาได้สวยงามและดูดีมากขึ้นและในรุ่นนี้ใช้งานวัสดุ โลหะเลยทำให้มันดูพรีเมี่ยมมากกว่าเดิมครับ
ข้อพับ ข้อต่อในรุ่นนี้ถือว่ามีความแข็งแรงและมีน้ำหนักกำลังดีครับ แต่จะยกจอขึ้นมาแบบมือเดียวไม่ได้นะครับเครื่องมันเบาบางพอสมควรเลยทำให้ยกทั้งเครื่องขึ้นมาเลยส่วนในรุ่นนี้หน้าจอมันจะไม่ได้มีระบบ Ergo Lift แล้วครับเลยทำให้ตัวเครื่องไม่ได้ยกขึ้นมาสูงแบบรุ่นก่อนๆ ส่วนตัวช่องระบายอากาศในส่วนข้างหลังนั้นจะเห็นว่ามีช่องเรียงแนวยาวครับแต่ช่องที่สามารถระบายได้จริงๆนั้นจะเป็นในด้านซ้ายของภาพที่มีช่องระบายใหญ่ๆครับ เลยทำให้มีช่องระบายเดียวเป็นหลักเป็นพัดลมเดียวแน่นอนว่าเป็นปกติของ Ultrabook หลายๆรุ่นครับเนื่องจากไม่มีการ์ดจอแยกเลยไม่ได้ต้องใส่พัดลมคู่มาแบบพวกคอมพิวเตอร์สายเกมมิ่งอะไรแนวนั้นครับ
ขอบหน้าจอในรุ่นนี้มีความบางพอสมควร แต่ก็ยังใส่กล้องหน้ามาให้ครับแม้จะไม่ได้มีการใส่สแกนใบหน้ามาให้ก็ตาม มีไมค์อะไรใส่มาให้เรียบร้อยครับ ส่วนขอบหน้าจอข้างๆนั้นมีความบางอยู่ระดับนึงเลย ขอบหน้าจอทั้งหมดจะเป็นสีดำครับไม่ว่าสีตัวเครื่องนั้นจะเป็นแบบไหนแต่ส่วนขอบหน้าจอนั้นจะเป็นสีดำเหมือนกันทุกรุ่นย่อย แต่จะไม่มียางรองมาให้
ส่วนบริเวณแป้นพิมพ์และที่รองมือนั้นเป็นวัสดุโลหะเช่นกันครับ ไม่ได้มีลวดลายอะไรแต่มีเว้าลงไปนิดหน่อย โทนสีแป้นพิมพ์เป็นสีดำ ตัวหนังสือขาวพร้อมไฟขาว และ ปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนครับ ส่วนด้านข้างนั้นเราจะเห็นว่ามันมีการยกตัวเครื่องสูงขึ้นในด้านหลังแต่จะเป็นตัวยางรองใต้เครื่องที่ยกแทน ไม่ใช่ระบบ Ergo lift แบบรุ่นก่อนๆที่เปิดหน้าจอแล้วจะยกขึ้นไปครับเลย ทำให้องศาอะไรพวกนี้มันจะสูงไม่เท่ารุ่นก่อนๆแต่ก็ยังมีความง่ายต่อการใช้งานอยู่เช่นกัน
SPEC
- Windows 10 Home
- AMD RYZEN 7 4700U 7nm (8 Core 8 Threads 2.0GHz-4.1GHz) TDP15W
- AMD Radeon™ Graphics
- หน้าจอขนาด 14” LED-backlit Full HD (1920 x 1080) 16:9 NanoEdge display with 88% screen-to-body ratio รองรับมุมมองกว้าง 178° wide-view technology
- RAM 8GB 2400 MHz DDR4
- STORAGE PCIe SSD 512GB
- พอร์ตเชื่อมต่อ 1 x USB 3.1 Gen 1 Type-C™ 1 x USB 3.1 Gen 1 Type-A 2 x USB 2.0 1 x Standard HDMI 1 x Audio combo jack 1 x MicroSD card reader 1 x DC-in
- Keyboard Full-size พร้อมไฟ backlit, with 1.4mm key travel
- ASUS Sonic Master ระบบเสียง stereo พร้อมรองรับ surround-sound; และ smart amplifier Certified by Harman Kardon
- Array microphone with Cortana voice-recognition support
- 3.5mm headphone jack
- กล้องหน้า HD Camera
- Wi-Fi Intel Wi-Fi 6 with Gig+ performance (802.11ax)
- Bluetooth® Bluetooth V5.0
- รองรับ Fast charging: 60% in 49 minutes 42wh 3-cell lithium-prismatic battery 90W power adapter (Output: 19V DC, 4.74A, 90W) Plug Type: ø4 (mm) (Input: 100-240V AC, 50/60Hz universal)
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพ รุ่นนี้อัพเกรดมาใช้งาน ตัว CPU AMD RYZEN 7 4700U เทคโนโลยี 7nm ตัวล่าสุดครับ ความเร็ว 2.00 GHz Boost ถึง 4.10 GHz แบบ 8 คอร์ 8 เทรด ที่ 7nm ส่วนทางด้านการ์ดจอ นั้นมาพร้อมกับการ์ดจอในตัวคือ AMD RADEON VEGA ที่ก็ใช้งานได้ระดับนึงเลยและแรงไม่แพ้ MX250 เลยก็ตามครับ และ ให้ RAM 8GB ไม่สามารถอัพเกรดได้ และในเรื่องของความจุนั้นมาพร้อมกับ SSD 512GB ครบๆเลยแหละ ครับสำหรับรุ่นนี้แน่นอนว่าในส่วนของคะแนนก็พอใช้งานได้พอสมควรครับ และเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อม Pre-installed Microsoft office Home & Student พร้อมใช้งานเลยครับไม่ได้ต้องซื้ออะไรต่างหาก
PCMARK คะแนนทำได้ 4545 ถือว่าตามระดับของ CPU เป็นการเรนเดอร์ในหลายๆอย่างที่เสมือนกับทำงานจริงๆในแง่ของการใช้งานทั้งหมดเวลาใช้งานคอมพิวเตอร์คะแนนเอาจริงๆถือว่าไม่แย่เลยนะถ้าเรามองในราคาแค่นี้ และทำคะแนนออกมาได้ประมาณนี้แน่นอนว่าดีกว่า CPU รุ่นก่อนเยอะครับ ทำให้ตัวนี้ถือว่าน่าพอใจครับทำงานทั่วไปสบายๆไม่ต้องกังวลอะไร และทำคะแนนรวมๆนั้นถือว่ารองรับการทำงานทั้งหมดได้หลากหลายและเต็มประสิทธิภาพกว่าแบบชัดเจนครับ ทางด้านความร้อนนั้น CPU 78 และ GPU 79 ครับสำหรับการทดสอบนี้ให้สภาพอากาศปกติ
3D MARK เราทดสอบแบบพื้นฐานกันในส่วนของ Sky driver / Night Raid ถือว่าทำคะแนนได้ดีเอาเรื่องเลยคะแนนในส่วนของ Night Raid ตัวนี้ทำได้ 1541 คะแนนดีกว่ารุ่นเดิมอีกนะ การประมวลผลของรุ่นนี้ในแบบ 3 มิติ ทำได้ดีมากๆแม้จะไม่มีการ์ดจอแยกเข้ามาช่วยด้วยแต่ทำคะแนนได้เท่ากับพวก MX เลยครับ และ ใช้งานได้ในแง่ของการเรนเดอร์พวก 3 มิติทั้งหลายครับ ถือว่าสบายๆไม่ต้องกังวลทำให้การทำงานต่างเรนเดอร์เริ่มต้นอะไรสบาย ส่วนเรื่องคะแนน Sky Driver นั้นแตะ 9227 ได้เลยครับ ความร้อนที่ทดสอบนั้น CPU 70 และ GPU 72 ครับสำหรับตัวนี้ สภาพอากาศปกติครับ ถือว่าเป็นการ์ดจอติด CPU ที่ทำได้ดีมากๆ และคะแนนก็แสดงให้เห็นว่าดีมาก
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้