สวัสดีค่ะ🙏🏻😊
วันนี้ฝนขอแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตของฝนในประเทศเยอรมนีนะคะ
ก่อนอื่นฝนขอเล่าย้อนกลับไปถึงช่วงก่อนที่ฝนจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศเยอรมันค่ะ
ฝนเรียนจบสายศิลป์-ภาษาเยอรมัน และเรียนจบในระดับปริญญาตรีจากคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์เอกวิชาภาษาเยอรมันค่ะ ในระหว่างที่เรียนระดับปริญญาตรี ฝนเคยได้รับทุนการศึกษาจากมาหาวิทยาลัย Freie Universität Berlin เพื่อที่จะไปเรียนภาษาเยอรมันที่ประเทศเยอรมนี เป็นเวลา 1 เดือน
หลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้วก็ออกตามหาประสบการณ์เหมือนนักศึกษาจบใหม่ทั่วไป
ฝนมีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการ Work&Travel ที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากจบโครงการก็ได้กลับมาสมัครงานในประเทศไทย และฝนก็ได้รับโอกาสให้เข้าทำงานในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น งานในโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่ใช้ในการออกกำลังกายแบรนด์ดังระดับโลกแห่งหนึ่ง การทำงานในบริษัททัวร์แห่งหนึ่งที่ร่วมงานกับบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ในประเทศเยอรมนี และงานสุดท้ายคืองานสอนภาษาเยอรมัน ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งครูอัตราจ้างค่ะ
และจากการสอนภาษาเยอรมันนี่เอง ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของการเริ่มต้นชีวิตในประเทศเยอรมนีของฝน หลังจากที่สอนไปได้ 1 ปี ฝนมีความคิดอยากที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาโทด้านภาษาเยอรมัน เพื่อที่จะกลับมาสอนหนังสือต่อเมื่อเรียนจบ แต่การเรียนต่อปริญญาโทในครั้งนี้ จุดมุ่งหมายคือประเทศเยอรมนีค่ะ
แต่ด้วยความที่ครอบครัวของฝนเป็นครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่ง ที่พ่อแม่เป็นข้าราชการและไม่ได้มีเงินทองมากมายที่จะสามารถส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศได้ ฝนก็เลยมีความคิดว่าเราจะทำยังไงที่จะได้ไปเรียนต่อโดยที่ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ค่ะ สิ่งที่คิดได้ตอนนั้นคือเรามีพื้นฐานภาษาเยอรมันอยู่แล้ว เราต้องหาทางเริ่มต้นเพื่อที่จะไปให้ถึงจุดหมายค่ะ ฝนเลยได้ตัดสินใจค้นหาข้อมูลต่างๆ และสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับฝนมากที่สุดในตอนนั้นคือ การทำ Aupair ค่ะ เพราะเราจะได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศเยอรมนีจาก host family มีโอกาสได้เรียนภาษา และได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่งค่ะ
ฝนเดินทางสู่ประเทศเยอรมนีในปี 2011 ด้วยวีซ่า Aupair ค่ะ ก่อนที่จะออกเดินทางนั้น ฝนก็ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการสมัครเรียนและได้เตรียมเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการสมัครเรียนต่อในระดับอุดมศึกษารวมถึงประกาศนียบัตรการทดสอบภาษาเยอรมันระดับ B1 ที่เคยสอบไว้ จากสถาบัน Goethe Institut และTranscript ต่างๆ ทั้งฉบับภาษาไทยและอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยที่เรียนจบในไทย เตรียมพร้อมมาด้วยสำหรับใช้ในการสมัครเรียนค่ะ
เมื่อมาถึงก็ได้เริ่มทำงาน Aupair กับ host family บ้านแรกค่ะ และในระหว่างที่ทำ Aupair นั้นก็ได้รู้จักกับหนุ่มเยอรมัน ที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะมาเป็นสามีหรือคุณพ่อของลูกในอนาคตค่ะ 😊 และเนื่องจากปัญหาส่วนตัวและอะไรที่ไม่ลงตัวกันหลายๆอย่าง ฝนไม่ขอลงรายละเอียดนะคะ
ก็มีเหตุให้ฝนต้องเปลี่ยน host family ใหม่ค่ะ ก็เป็น Aupair ต่อไป เรียนภาษาไป คบกับหนุ่มคนนี้ต่อไป จนกระทั่งใกล้ๆจะหมดโครงการ Aupair ซึ่งตอนนั้นคบกับหนุ่มได้ประมาณ 8 เดือนนิดๆ หนุ่มคนนี้ก็ขอฝนแต่งงานค่ะ และเราก็แต่งงานกันใน 3 เดือนต่อมา
หลังจากที่แต่งงานแล้ว ความคิดที่จะเรียนต่อก็ยังไม่ได้หายไปไหน ฝนเลยไปสอบวัดระดับภาษาในระดับที่ใช้ในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เมื่อสอบผ่านแล้วก็เริ่มต้นทำเรื่องสมัครเรียนต่อเลยค่ะ และฝนเลือกเรียนต่อด้านภาษาศาสตร์และวรรณกรรมค่ะ แต่น่าเสียดายมากที่พอเริ่มเรียนไปได้ 1 เทอม ก็รู้สึกตัวว่าฝนไม่ได้ชอบในวิชาและสาขาที่ฝนเลือกเรียนแม้แต่น้อย ทำให้ฝนตัดสินใจหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น ทำเรื่องขอพ้นสภาพนักศึกษาและออกมาตั้งหลักใหม่ค่ะ
หลังจากที่ไม่ได้เรียนต่อแล้วก็ออกมาทบทวนว่าตัวเองอยากทำอะไร ก็เลยลองเอาวุฒิปริญญาตรีที่จบมาจากไทย ไปลองสมัครงานที่บริษัททัวร์ใกล้ๆบ้านที่ฝนอยู่ และฝนก็ได้งานค่ะ แต่ด้วยความที่บริษัททัวร์แห่งนี้จ่ายค่าตอบแทนค่อนข้างน้อย ทำให้ฝนทำงานอยู่บริษัทนี้แค่ 4 เดือน และก่อนที่ฝนจะลาออกนั้น ฝนได้หางานใหม่ไว้แล้วค่ะ หลังจากที่ลาออกจากบริษัททัวร์ฝนก็ได้งานใหม่ที่สนามบิน ตำแหน่ง ground staff ค่ะ ทำหน้าที่ Check in และ Boarding ผู้โดยสาร ของสายการบิน Air Berlin ในตอนนั้น รายได้ในตอนนั้นถือว่าดีเลยทีเดียวสำหรับฝน ทำงานเป็นกะ ตั้งแต่ตีสาม ถึง ห้าทุ่ม ตามตารางเที่ยวบินของแต่ละวันค่ะ
ทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปได้พักใหญ่ ความคิดที่อยากจะเรียนต่อเริ่มกลับเข้ามาในหัวอีกแล้วค่ะ แต่ต่างกันที่เราไม่ได้อยากเรียนในระดับอุดมศึกษาแล้ว แต่อยากเรียนในสายอาชีพมากกว่า เพราะอยู่ประเทศเยอรมนีมาได้สักพักนึงเริ่มจะเห็นสัจธรรมที่ว่า คนเยอรมันหลายๆ คนไม่ได้เรียนจบปริญญา แต่ก็มีการงานและอาชีพที่มั่นคงได้ เพราะการเรียนการสอนในสายอาชีพของประเทศเยอรมนี มีประสิทธิภาพที่ดีมากๆ ค่ะ และอยากทำงานอะไรก็ต้องเรียนในสายวิชาชีพนั้นๆ
เอาล่ะ ก่อนที่จะเลือกเรียนอะไรก็ต้องมาค้นหาตัวเองก่อนว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไรเมื่อเรียนจบ ตำแหน่งงานเพียงพอหรือไม่ ค่าตอบแทนเท่าไร เลี้ยงดูตัวเองได้หรือไม่ บลา บลา บลา...
ความคิดเหล่านี้เข้ามาในหัวเต็มไปหมด เปิดหาข้อมูลไปมา เจอประกาศรับสมัครนักเรียนพยาบาล เลยลองกดเข้าไปอ่านดูค่ะ ว่าเค้าต้องการอะไรบ้าง อ่านดูแล้วก็คิดว่า เฮ้ย คุณสมบัติของเราก็ตรงตามที่เค้าต้องการนะจ๊ะขาดอยู่อย่างเดียวคือประสบการณ์ในสายอาชีพนี้ค่ะ
แน่นอนว่าฝนไม่รอช้า เขียนใบสมัครงานไปที่บ้านพักคนชราทันที ด้วยความที่พยาบาลในประเทศเยอรมนีขาดแคลนเป็นอย่างมาก ฝนก็ได้รับโทรศัพท์จากบ้านพักคนชราที่ฝนสมัครงานไปในวันถัดมาให้ไปสัมภาษณ์งาน พอไปแล้วคุยรายละเอียดเสร็จแล้ว เราบอกเค้าด้วยนะว่าเราไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน แต่อยากลองทำงานในด้านนี้ เค้าก็ตอบตกลงค่ะ และถามว่าเราเริ่มงานได้วันไหน และฝนก็ได้เริ่มงานหนึ่งเดือนหลังจากวันที่โดนสัมภาษณ์ไปค่ะ
ทำงานบ้านพักคนชรา 4 เดือน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไป ลองใจตัวเองไปว่างานนี้ใช่สำหรับเราหรือไม่ แต่ผลที่ได้คือเกินความคาดหมายไปมากค่ะ งานนี้เป็นงานที่สนุกมากสำหรับฝน และฝนรู้สึกว่าอยากมาทำงานทุกวันเลยได้คำตอบให้กับตัวเองว่าอยากทำงานนี้ ฝนจึงได้ขอใบรับรองการทำงานจากบ้านพักคนชราและเขียนใบสมัครเรียนพยาบาลกับโรงพยาบาลใกล้บ้านค่ะ
หลังจากเขียนใบสมัครไป ฝนก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางโรงพยาบาล ให้ไปสอบสัมภาษณ์และสอบข้อเขียน สรุปว่าสอบผ่านได้สิทธิ์เรียนพยาบาล ในเดือนเมษายน ปี 2014 ค่ะเรียนพยาบาล 3 ปี มีทั้งโหด มันส์ ฮา และคราบน้ำตา กว่าจะจบมาได้ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่มันก็ไม่อยากเกินความสามารถค่ะ ตอนนี้ฝนทำมันได้แล้วค่ะ ฝนเรียนจบและสอบใบประกอบวิชาชีพพยาบาลได้ในเดือนมีนาคมปี 2017 ตอนนี้ฝนเรียนจบมา 3 ปีแล้วค่ะ
เป็นพยาบาลที่แผนก Cardio IMC มา 2 ปี และผันตัวเองมาเป็นพยาบาลวิชาชีพอิสระในช่วงต้นปี 2019 ค่ะ และตอนนี้ฝนกำลังจะเรียนต่อด้านการบริหารงานในสายอาชีพพยาบาลในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ค่ะ
สำหรับเด็กสายศิลป์-ภาษา สู่การเป็นพยาบาลวิชาชีพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความตั้งใจของฝน ทำให้ฝนผ่านมันมาได้ค่ะ
ฝนอยากเป็นกำลังใจให้แก่ทุกๆ คนที่ มีความท้อแท้จากการเรียน การทำงาน หรือเรื่องใดๆก็แล้วแต่นะคะ หากคุณมีความพยายามและความมุ่งมั่น ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ
ฝนขอเป็นกำลังใจให้แก่บุคลาการทางการแพทย์ทุกๆ ท่าน นะคะ
และตอนนี้ฝนได้ทำช่องยูทูป แชร์ประสบการณ์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนพยาบาลวิชาชีพ และการเรียนสายอาชีพในประเทศเยอรมนี แก่ผู้ที่สนใจ ยังไงฝนฝากช่อง Fonn Patcharin ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่รับชมและติดตามค่ะ🙏🏻❤️ #FonnPatcharinGermany
ชื่อช่อง: Fonn Patcharin
YouTube:
https://www.youtube.com/channel/UC3GSGawHg-WfXzFkwlgDycw
จากเด็กสายศิลป์-ภาษา สู่พยาบาลวิชาชีพในประเทศเยอรมนี
วันนี้ฝนขอแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตของฝนในประเทศเยอรมนีนะคะ
ก่อนอื่นฝนขอเล่าย้อนกลับไปถึงช่วงก่อนที่ฝนจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศเยอรมันค่ะ
ฝนเรียนจบสายศิลป์-ภาษาเยอรมัน และเรียนจบในระดับปริญญาตรีจากคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์เอกวิชาภาษาเยอรมันค่ะ ในระหว่างที่เรียนระดับปริญญาตรี ฝนเคยได้รับทุนการศึกษาจากมาหาวิทยาลัย Freie Universität Berlin เพื่อที่จะไปเรียนภาษาเยอรมันที่ประเทศเยอรมนี เป็นเวลา 1 เดือน
หลังจากเรียนจบปริญญาตรีแล้วก็ออกตามหาประสบการณ์เหมือนนักศึกษาจบใหม่ทั่วไป
ฝนมีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการ Work&Travel ที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากจบโครงการก็ได้กลับมาสมัครงานในประเทศไทย และฝนก็ได้รับโอกาสให้เข้าทำงานในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น งานในโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่ใช้ในการออกกำลังกายแบรนด์ดังระดับโลกแห่งหนึ่ง การทำงานในบริษัททัวร์แห่งหนึ่งที่ร่วมงานกับบริษัททัวร์ยักษ์ใหญ่ในประเทศเยอรมนี และงานสุดท้ายคืองานสอนภาษาเยอรมัน ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งครูอัตราจ้างค่ะ
และจากการสอนภาษาเยอรมันนี่เอง ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนของการเริ่มต้นชีวิตในประเทศเยอรมนีของฝน หลังจากที่สอนไปได้ 1 ปี ฝนมีความคิดอยากที่จะเรียนต่อในระดับปริญญาโทด้านภาษาเยอรมัน เพื่อที่จะกลับมาสอนหนังสือต่อเมื่อเรียนจบ แต่การเรียนต่อปริญญาโทในครั้งนี้ จุดมุ่งหมายคือประเทศเยอรมนีค่ะ
แต่ด้วยความที่ครอบครัวของฝนเป็นครอบครัวธรรมดาครอบครัวหนึ่ง ที่พ่อแม่เป็นข้าราชการและไม่ได้มีเงินทองมากมายที่จะสามารถส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศได้ ฝนก็เลยมีความคิดว่าเราจะทำยังไงที่จะได้ไปเรียนต่อโดยที่ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่ค่ะ สิ่งที่คิดได้ตอนนั้นคือเรามีพื้นฐานภาษาเยอรมันอยู่แล้ว เราต้องหาทางเริ่มต้นเพื่อที่จะไปให้ถึงจุดหมายค่ะ ฝนเลยได้ตัดสินใจค้นหาข้อมูลต่างๆ และสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับฝนมากที่สุดในตอนนั้นคือ การทำ Aupair ค่ะ เพราะเราจะได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศเยอรมนีจาก host family มีโอกาสได้เรียนภาษา และได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนหนึ่งค่ะ
ฝนเดินทางสู่ประเทศเยอรมนีในปี 2011 ด้วยวีซ่า Aupair ค่ะ ก่อนที่จะออกเดินทางนั้น ฝนก็ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการสมัครเรียนและได้เตรียมเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการสมัครเรียนต่อในระดับอุดมศึกษารวมถึงประกาศนียบัตรการทดสอบภาษาเยอรมันระดับ B1 ที่เคยสอบไว้ จากสถาบัน Goethe Institut และTranscript ต่างๆ ทั้งฉบับภาษาไทยและอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยที่เรียนจบในไทย เตรียมพร้อมมาด้วยสำหรับใช้ในการสมัครเรียนค่ะ
เมื่อมาถึงก็ได้เริ่มทำงาน Aupair กับ host family บ้านแรกค่ะ และในระหว่างที่ทำ Aupair นั้นก็ได้รู้จักกับหนุ่มเยอรมัน ที่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะมาเป็นสามีหรือคุณพ่อของลูกในอนาคตค่ะ 😊 และเนื่องจากปัญหาส่วนตัวและอะไรที่ไม่ลงตัวกันหลายๆอย่าง ฝนไม่ขอลงรายละเอียดนะคะ
ก็มีเหตุให้ฝนต้องเปลี่ยน host family ใหม่ค่ะ ก็เป็น Aupair ต่อไป เรียนภาษาไป คบกับหนุ่มคนนี้ต่อไป จนกระทั่งใกล้ๆจะหมดโครงการ Aupair ซึ่งตอนนั้นคบกับหนุ่มได้ประมาณ 8 เดือนนิดๆ หนุ่มคนนี้ก็ขอฝนแต่งงานค่ะ และเราก็แต่งงานกันใน 3 เดือนต่อมา
หลังจากที่แต่งงานแล้ว ความคิดที่จะเรียนต่อก็ยังไม่ได้หายไปไหน ฝนเลยไปสอบวัดระดับภาษาในระดับที่ใช้ในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เมื่อสอบผ่านแล้วก็เริ่มต้นทำเรื่องสมัครเรียนต่อเลยค่ะ และฝนเลือกเรียนต่อด้านภาษาศาสตร์และวรรณกรรมค่ะ แต่น่าเสียดายมากที่พอเริ่มเรียนไปได้ 1 เทอม ก็รู้สึกตัวว่าฝนไม่ได้ชอบในวิชาและสาขาที่ฝนเลือกเรียนแม้แต่น้อย ทำให้ฝนตัดสินใจหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น ทำเรื่องขอพ้นสภาพนักศึกษาและออกมาตั้งหลักใหม่ค่ะ
หลังจากที่ไม่ได้เรียนต่อแล้วก็ออกมาทบทวนว่าตัวเองอยากทำอะไร ก็เลยลองเอาวุฒิปริญญาตรีที่จบมาจากไทย ไปลองสมัครงานที่บริษัททัวร์ใกล้ๆบ้านที่ฝนอยู่ และฝนก็ได้งานค่ะ แต่ด้วยความที่บริษัททัวร์แห่งนี้จ่ายค่าตอบแทนค่อนข้างน้อย ทำให้ฝนทำงานอยู่บริษัทนี้แค่ 4 เดือน และก่อนที่ฝนจะลาออกนั้น ฝนได้หางานใหม่ไว้แล้วค่ะ หลังจากที่ลาออกจากบริษัททัวร์ฝนก็ได้งานใหม่ที่สนามบิน ตำแหน่ง ground staff ค่ะ ทำหน้าที่ Check in และ Boarding ผู้โดยสาร ของสายการบิน Air Berlin ในตอนนั้น รายได้ในตอนนั้นถือว่าดีเลยทีเดียวสำหรับฝน ทำงานเป็นกะ ตั้งแต่ตีสาม ถึง ห้าทุ่ม ตามตารางเที่ยวบินของแต่ละวันค่ะ
ทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปได้พักใหญ่ ความคิดที่อยากจะเรียนต่อเริ่มกลับเข้ามาในหัวอีกแล้วค่ะ แต่ต่างกันที่เราไม่ได้อยากเรียนในระดับอุดมศึกษาแล้ว แต่อยากเรียนในสายอาชีพมากกว่า เพราะอยู่ประเทศเยอรมนีมาได้สักพักนึงเริ่มจะเห็นสัจธรรมที่ว่า คนเยอรมันหลายๆ คนไม่ได้เรียนจบปริญญา แต่ก็มีการงานและอาชีพที่มั่นคงได้ เพราะการเรียนการสอนในสายอาชีพของประเทศเยอรมนี มีประสิทธิภาพที่ดีมากๆ ค่ะ และอยากทำงานอะไรก็ต้องเรียนในสายวิชาชีพนั้นๆ
เอาล่ะ ก่อนที่จะเลือกเรียนอะไรก็ต้องมาค้นหาตัวเองก่อนว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไรเมื่อเรียนจบ ตำแหน่งงานเพียงพอหรือไม่ ค่าตอบแทนเท่าไร เลี้ยงดูตัวเองได้หรือไม่ บลา บลา บลา...
ความคิดเหล่านี้เข้ามาในหัวเต็มไปหมด เปิดหาข้อมูลไปมา เจอประกาศรับสมัครนักเรียนพยาบาล เลยลองกดเข้าไปอ่านดูค่ะ ว่าเค้าต้องการอะไรบ้าง อ่านดูแล้วก็คิดว่า เฮ้ย คุณสมบัติของเราก็ตรงตามที่เค้าต้องการนะจ๊ะขาดอยู่อย่างเดียวคือประสบการณ์ในสายอาชีพนี้ค่ะ
แน่นอนว่าฝนไม่รอช้า เขียนใบสมัครงานไปที่บ้านพักคนชราทันที ด้วยความที่พยาบาลในประเทศเยอรมนีขาดแคลนเป็นอย่างมาก ฝนก็ได้รับโทรศัพท์จากบ้านพักคนชราที่ฝนสมัครงานไปในวันถัดมาให้ไปสัมภาษณ์งาน พอไปแล้วคุยรายละเอียดเสร็จแล้ว เราบอกเค้าด้วยนะว่าเราไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน แต่อยากลองทำงานในด้านนี้ เค้าก็ตอบตกลงค่ะ และถามว่าเราเริ่มงานได้วันไหน และฝนก็ได้เริ่มงานหนึ่งเดือนหลังจากวันที่โดนสัมภาษณ์ไปค่ะ
ทำงานบ้านพักคนชรา 4 เดือน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไป ลองใจตัวเองไปว่างานนี้ใช่สำหรับเราหรือไม่ แต่ผลที่ได้คือเกินความคาดหมายไปมากค่ะ งานนี้เป็นงานที่สนุกมากสำหรับฝน และฝนรู้สึกว่าอยากมาทำงานทุกวันเลยได้คำตอบให้กับตัวเองว่าอยากทำงานนี้ ฝนจึงได้ขอใบรับรองการทำงานจากบ้านพักคนชราและเขียนใบสมัครเรียนพยาบาลกับโรงพยาบาลใกล้บ้านค่ะ
หลังจากเขียนใบสมัครไป ฝนก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางโรงพยาบาล ให้ไปสอบสัมภาษณ์และสอบข้อเขียน สรุปว่าสอบผ่านได้สิทธิ์เรียนพยาบาล ในเดือนเมษายน ปี 2014 ค่ะเรียนพยาบาล 3 ปี มีทั้งโหด มันส์ ฮา และคราบน้ำตา กว่าจะจบมาได้ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่มันก็ไม่อยากเกินความสามารถค่ะ ตอนนี้ฝนทำมันได้แล้วค่ะ ฝนเรียนจบและสอบใบประกอบวิชาชีพพยาบาลได้ในเดือนมีนาคมปี 2017 ตอนนี้ฝนเรียนจบมา 3 ปีแล้วค่ะ
เป็นพยาบาลที่แผนก Cardio IMC มา 2 ปี และผันตัวเองมาเป็นพยาบาลวิชาชีพอิสระในช่วงต้นปี 2019 ค่ะ และตอนนี้ฝนกำลังจะเรียนต่อด้านการบริหารงานในสายอาชีพพยาบาลในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ค่ะ
สำหรับเด็กสายศิลป์-ภาษา สู่การเป็นพยาบาลวิชาชีพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความตั้งใจของฝน ทำให้ฝนผ่านมันมาได้ค่ะ
ฝนอยากเป็นกำลังใจให้แก่ทุกๆ คนที่ มีความท้อแท้จากการเรียน การทำงาน หรือเรื่องใดๆก็แล้วแต่นะคะ หากคุณมีความพยายามและความมุ่งมั่น ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ
ฝนขอเป็นกำลังใจให้แก่บุคลาการทางการแพทย์ทุกๆ ท่าน นะคะ
และตอนนี้ฝนได้ทำช่องยูทูป แชร์ประสบการณ์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนพยาบาลวิชาชีพ และการเรียนสายอาชีพในประเทศเยอรมนี แก่ผู้ที่สนใจ ยังไงฝนฝากช่อง Fonn Patcharin ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่รับชมและติดตามค่ะ🙏🏻❤️ #FonnPatcharinGermany
ชื่อช่อง: Fonn Patcharin
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UC3GSGawHg-WfXzFkwlgDycw