☻ สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราที่จะเขียนรีวิวอย่างจริงจังเลยค่ะ 555555 ใครที่สนใจอยากทำศัลยกรรมตาสองชั้น แต่ยังกลัว อยากให้ลองอ่านกระทู้นี้เป็นส่วนหนึ่งประกอบการตัดสินใจทำศัลยกรรมดวงตา โดยของเราเป็นเคสที่ต้องเปิดหัวตาค่ะ

     ขอเกริ่นก่อนว่า เราเป็นคนที่อยากทำตาสองชั้นมานานแล้ว แต่ก็แอบกลัวการทำศัลยกรรม กลัวเจ็บและกลัวหมอทำผิดพลาดทำให้ออกมาไม่เป็นรูปแบบตามที่เราต้องการ เพราะเคยเห็นเคสที่ผิดพลาดจากในอินเทอร์เน็ต เลยพยายามศึกษาดูเคสที่เป็นศัลยกรรมตาสองชั้นจากหลาย ๆ ที่ เนื่องจากเราเป็นคนที่มีตาสองชั้นแบบหลบใน และเวลาถ่ายรูปจะเห็นได้ว่าตาสองข้างของเราไม่เท่ากันอีกด้วย อีกอย่างคือเราไม่ชอบติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นเพราะมันทำให้คัน เวลาเห็นรูปตัวเองก็เฟลไปเลย เราเลยมีความตั้งใจว่าอยากจะทำตาสองชั้นก่อนวันรับปริญญา เพื่อจะได้ถ่ายรูปออกมาดูดี 55555 อะ พอวันรับปริญญายังไม่ประกาศเราก็จัดเลยจ้า ศึกษาการทำศัลยกรรมตาสองชั้นทั้งที่ประเทศไทยและเกาหลี แต่เนื่องจากราคาการศัลยกรรมดวงตาที่เกาหลีลดแล้วแต่ยังแพงมาก (เราถามบ่อยจนคิดว่าแอดมินน่าจะเบื่อเราแล้วแน่ ๆ 55555) เราจึงหันมาศึกษาคลินิกศัลยกรรมไทยจากหลายสถาบันในเพจ Facebook ไปเรื่อย ๆ สุดท้ายเลยเลือกมาทำที่คลินิกแห่งหนึ่งในกรุงเทพ สาเหตุที่เลือกที่นี่ เพราะ 

     1. คุณหมอและทีมแพทย์ที่คลินิกนี้มีบริการให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะทีมแพทย์ทุกท่านได้เทรนกับคุณหมอโดยตรงทุกขั้นตอน ทำให้เรากับคุณพ่อรู้สึกไว้วางใจได้ว่า เราจะได้รับการบริการที่ดีและได้ดวงตาสองชั้นตามแบบที่เราต้องการ เรากับคุณพ่อจึงได้นัดแนะเข้ามาพูดคุยกับคุณหมอก่อน คุณหมอได้เอาไม้จิ้มฟันมากะบริเวณเปลือกตาของเรา และบอกว่าเคสของเราเป็นเคสที่ต้องเปิดหัวตา เนื่องจากเอ็นบริเวณหัวตาเรารั้งไว้เยอะมาก ทำให้ตาของเรากลายเป็นสองชั้นหลบในไปเลย แต่การผ่าตัดเปิดหัวตาก่อนผ่ากรีดจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นรอยแผลเป็นหรือเป็นคีรอยด์ แต่คุณหมอบอกว่าสามารถทำเลเซอร์ลดรอยแผลเป็นได้

       ขออธิบายส่วนนี้ โดยปกติตรงหัวตาของคนเราจะต้องเห็นเนื้อสีแดง ๆ ข้างในด้วยใช่ไหมคะ แต่ของเราโดนเอ็นตรงหัวตาดึงรั้งไว้จนมองไม่เห็นเนื้อตาสีแดง ๆ เลย จริง ๆ คุณหมอมีให้เลือกด้วยว่าไม่ต้องเปิดหัวตาก็ได้ แต่มันจะทำให้ตาเราดูไม่เป็นธรรมชาติ เราจึงตัดสินใจเลือกเปิดหัวตาด้วยค่ะ

      2. การเดินทางไปคลินิกค่อนข้างสะดวก สามารถเดินทางด้วย BTS หรือคนที่มาผ่าตัดตาสองชั้นสามารถขับรถมาทำแล้วกลับเองได้เลย อันนี้เราอยากให้เป็นเกณฑ์สำคัญในการเลือกคลินิกด้วยนะ เพราะต่อไปหลังจากที่เราผ่าตัดเสร็จแล้ว เรายังต้องนัดพบกับคุณหมอเพื่อดูความเปลี่ยนแปลงหลังผ่าตัด (ตั้งแต่ตัดไหม จนถึงการทำเลเซอร์ เพื่อลดรอยแผลผ่าตัด) คือยังต้องเข้า ๆ ออก ๆ อีกซักพักเลย ไม่ใช่ผ่าตัดแล้วจบเลย การเดินทางก็เป็นปัจจัยสำคัญ เราจึงตัดสินใจที่จะทำที่นี่เลย

            เราทำครั้งแรกวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ก่อนผ่าตัดก็มีพี่เจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำหลังผ่าตัดโดยละเอียดพร้อมยาชุดใหญ่เลย มีทั้งยาแก้คัน ยาลดบวม ยาหยอดตาก่อนนอน เจลประคบ (สามารถประคบได้ทั้งเย็นและอุ่น) ที่ปิดตาตอนนอนป้องกันเราเผลอเอามือไปจับ พร้อมกับให้รับประทานยาลดความเครียด (ใช่ค่ะ ตอนนั้นเราตื่นเต้นมากก) และเปลี่ยนชุดรอคิวผ่าตัด เวลาผ่านไปซักพักก็ถึงช่วงผ่าตัด ขอบอกเลยตอนที่เจ็บที่สุดคือตอนที่ฉีดยาชาค่ะ ฉีดที่รอบตาหลายจุดเลย ทำให้เรารู้สึกตัวตอนช่วงคุณหมอกำลังกรีดที่ตาตลอดเวลา และก็มีเกร็ง ๆ บ้าง ไม่อ่ะ เราเกร็งตลอดเลย 5555555 แต่มีพี่ ๆ ผู้ช่วยคอยลูบมือปลอบบอกไม่เกร็งนะคะ ที่สำคัญคือ คุณหมอมือเบาม้ากกกก ทำเสร็จเรารู้สึกมึน ๆ เล็กน้อย กลับบ้านพร้อมยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามให้ดวงตาโดนน้ำ แต่เราสามารถทำความสะอาดดวงตาได้ด้วยการเอา cotton bud ชุบน้ำเกลือแล้วค่อย ๆ เช็ดบริเวณรอบดวงตาและหัวตา ต่อมาขอบอกเลยจุดนี้ทรมานเป็นจุดที่สอง สำหรับคนชอบกิน เพราะเราต้องห้ามกินนู่นกินนี่เต็มไปหมดดดด ทรมานมากและยิ่งโดยเฉพาะเราทำช่วงก่อนปีใหม่ด้วย พอเวลาไปเที่ยวก็คือต้องเตือนตัวเองไว้เลยว่าห้ามกินอะไรบ้าง 55555 ใบ้ว่ามีไก่ ไข่ และอาหารทะเลด้วย ก็คือส่วนหนึ่งของชีวิตอะ ต้องขับรถตามล่าแต่หมูอย่างเดียว มีอะไรบ้าง ? หมูกระทะ หมูย่าง หมูอบ หมูสามชั้น หมู ๆ ๆ วนไปจ้า 

อยากสนับสนุนให้ทุกคนกล้าและมั่นใจที่จะเอาชนะทุกอุปสรรคความสวยค่ะ ☺