อยากจะขอเล่าประสบการณ์การไปห้างเมกะ ในวันที่คลายล็อกโควิค 19 (17/5/63) เนื่องจากยาหมอสิวหมดและร้านปิดเป็นเดือน เมกะเปิด 17 เราก็เลยตั้งใจกันว่าจะรีบออกจากบ้านแต่เช้าไปหาหมอสิวกันรีบๆๆๆๆๆเดินแล้วก็กลับ แต่ไหนๆเราก็มาเมกะแล้วเลยตั้งใจว่าจะเดิน
-ไปร้านหมอสิว
-B2s
-และอีเกีย
เรานัดกับแฟนเดี๋ยวเราออกกันแต่10.30 น.เลยเนอะได้รีบเดินตอนคนยังไม่เยอะมาก เพราะคิดว่าคนต้องเยอะแต่ๆ ต่อให้มีบ้างส่วนที่คิดว่ามาวันหลังบ้างก็ตาม
เราเลยออกจากบ้านกันแต่เช้าค่ะ ตามเวลาที่ตั้งใว้ ถึงเมกะประมาณ 11โมงกว่าๆได้ค่ะ รถยังไม่เยอะมากแต่ก็เริ่มชะลอตรงทางเข้ารับบัตรค่ะ เราไปจอดรถกันในตึกโซนน้ำพุ ก็ถือว่าหาที่จอดได้ไม่อยาก แต่ก็มีรถมาจอดแล้วเหมือนกันค่ะ พอถึงเราก็ตามแผนเลย ไปหาหมอเราตั้งไว้ท้ายสุดเพราะคิดว่าร้านหมอน่าจะไม่คิวเยอะมาก เราเลยกะว่าจะไป b2s แล้วก็อีเกียก่อน และเราก็แวะ b2s ก่อนเพราะผ่านก่อนถึงอีเกีย (แต่อันนี้ก็ทำให้เราพลาดอดเข้าอีเกียไว้เล่าต่อไปค่ะ)
ออลืมบอกค่ะ บริเวณภายนอกยังไม่มีการตรวจคัดกรองอะไร แต่พอจะเข้าตัวห้างจะมีจุดคัดกรองสแกนอุณหภูมิก่อนเข้าแบบนี้ค่ะ
ซึ่งก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจอีกขึ้นนึงค่ะ และการเข้าในร้านแต่ละร้านก็มีการจำกัดจำนวนคนเข้าค่ะ ประมาณ6-15คนได้ หรือแล้วแต่ขนาดร้านค่ะ สำหรับb2s ก่อนเข้าก็ต้องรอคิวสแกนเช็คอินในการเข้าร้าน ตรวจอุณหภูมิ ซึ่งการรอคิวสแกนในแต่ละจุดต้องใช้เวลา ซึ่งการเดินห้างในยุคนี้ต้องเผื่อเวลาเยอะๆๆๆๆๆๆ และใจเย็นมากๆๆๆๆๆ เลยค่ะ พอเช็คอินเข้าร้านแล้วก็เดินๆๆๆๆ การจ่ายเงินก็มีคิวค่ะ และทุกการยืนก็ต้องเว้นระยะห่าง ดังนั้น ถ้าใครปวด_ึ หนักๆช่วงนั้นแนะนำให้โยนของทิ้ง และรีบออกไปเข้าห้องน้ำก่อนเลยค่ะ เพราะการออกนอกร้านก็ต้องต่อคิวสแกนเช็คเอ้าท์อีกครั้งนึงค่ะ (เสียดายลืมถ่ายรูปทางเข้าออกb2sไว้)
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องห้องน้ำ งดใช้ห้องน้ำหลายจุดอยู่นะคะ
หากใครปวดหนักก็ต้องเผื่อเวลาในการวิ่งหาห้องน้ำด้วยค่ะ นอกจากเผื่อเวลาในการรอคิวสแกนแล้ว55555 ไม่แน่ใจว่าห้องน้ำเปิดกี่จุดค่ะ แต่เดินผ่าน2จุดแถวทางเดินจากb2sไปอีเกียไม่เปิด ต้องเดินลงไปเข้าชั้นล่างค่ะ และเพราะการเดินหาห้องน้ำเป็นทางที่ได้ผ่านทางเข้าอีเกีย ทำให้รู้สึกพลาดน้ำตาจะไหล เมื่อเห็นคิวต่อเข้าอีเกียจ้าาาาา โอ้.......
ภาพถ่ายนี้คือ ณ.เวลา 11โมงครึ่งกว่าๆเท่านั้น
หางแถวยาวมาเลยร้านยูนิโคล่แล้วจ้าาาาาา ซึ่งหลังจากนั้นเห็นว่าต้องเอาเสามาคดหางแถวกันเลยทีเดียว
ทั้งๆที่ตั้งใจจะมาเช้าเพื่อหนีคนเยอะ แต่พอเห็นแบบนี้แล้ว เลยต้องถอยดีกว่าค่ะ คนเยอะมาก คือคนที่อยู่ด้านในที่เข้าไปแล้วก็เยอะค่ะ
รู้อะไรไม่สู้รู้งี้ ฮือออออ รู้งี้บึ่งมาอีเกียก่อนเลยดีกว่าค่ะงี้ โอ้ เลยเปลี่ยนแผนกันเลยค่ะ เราหนีไปหาไรกินก่อนร้านอาหารจะคนเยอะดีกว่า เพราะตอนนั้นก็หิวและเที่ยงพอดี เลยเดินหาของกิน
แต่ละร้าน ฟูจิก็คิวเยอะ ส่วนใหญ่ทุกร้านมีคิวหมด เพราะเนื่องจากต้องนั่งโต๊ะละ1คนเท่านั้น หรือถ้ามา2คนก็ต้องนั่งโต๊ะแบบมีกันฉากแบบนี้
ร้านอากะก็ยังไม่เปิด เราเลยเดินไปดูชาบูชิ คิดว่าคิวน่าจะน้อย แต่พอไปถึงคนในร้านเต็มแล้วค่ะ ไม่เปิดสายพานอาหารออเดอร์เอา และต้องนั่งแยกซึ่งอันนี้ปกติ แต่เนื่องจากเหมือนทุกคนเพิ่งจะเข้ากิน และล่าสุดคิวที่7 ข้างหน้าเราคิว15 เอ๊ะ!!ยังไง และบุฟเฟ่ เอ๊ะ!!ยังไง5555 เลยเปลี่ยนร้านค่ะรออะไร5555
คือตอนนั้นหิวมาก ร้านอะไรก็ได้แล้วอะ เลยเดินมาฮะจิบังน่าจะโอเคนะ แต่นี่คือสถานการณ์ตอนนั้น
คนเต็มจ้าโต๊ะละคน และมีคนรอหน้าร้านหลายอยู่ ผ่านเลยค่ะไม่ต้องคิด โอ้.....
เลยเดินมาเลยๆเอาวะ เจียงลูกชิ้นปลาก็ได้ พอไปถึงเราได้เข้าเลยค่ะ เอาวะรอดละ5555 รองท้องคนละชามเราต้องแยกกันกินสักพัก55555 ใช่ค่ะ มาด้วยกันเรานั่งคนละโต๊ะค่ะ อาหารและเครื่องปรุงก็จะมาในลักษณะแบบนี้ค่ะ
เราก็รีบกินหาหมอแล้วรีบกลับ
จะบอกว่าวันนั้นยิ่งสายคนยิ่งเยอะค่ะ เกือบทุกร้านโดยเฉพาะร้านของกิน
ขนาดชาตรามือก็คิวยาวค่ะ
แต่ก็แอบปลื้มใจนะคะ คนได้ออกมาใช้เงินหมุนเวียนคึกครื้นหน่อยค่ะ
โดยรวมในห้างภายนอกก็ยังดูเงียบเหงานะคะ ในโซนที่เคยมีตลาดนัด จัดอีเว้นต่าง แต่ด้วยน่าจะเพ่งเปิดวันแรก และบ้างร้านในตัวห้างก็ยังไม่เปิดค่ะ
และโซนธนาคารก็จัดที่นั่งให้แบบเว้นระยะได้นั่งกันค่ะ แต่ก็ถือว่าคนยังเยอะอยู่ดี
แต่การมาเดินห้างครั้งนี้ก็ถือว่าอุ่นใจได้บ้างในการสแกน และต้องมีสติสุดๆๆๆๆๆๆ ไปเลยค่ะในการตัดสินใจ ระวังการเว้นระยะ เข้าห้องน้ำล้างมือ พกเจล เหมือนต้องเตือนสติตัวเองตลอดเวลา และเหมือนเล่นเกมในการหนีคนเยอะ และทำเวลาให้มากที่สุดค่ะ55555
สรุปคือ เดินเท่าที่จำเป็น คลายเครียดนิดหน่อยหลังจากไม่ค่อยได้ออกไปไหน ถ้าคนเยอะดูเสี่ยงก็ถอยก่อนค่ะ ค่อยเวียนไปใหม่
การกินอาหารนั้นแนะนำกินที่บ้านดีกว่าค่ะ สบายใจสุด ซื้อกลับมากินหรือทำกินเองดีกว่า ประหยัดเวลา สบายใจ นั่งกินด้วยกันได้ไรงี้อะคะ
ก็ขอเขียนเล่าไว้เผื่อเพื่อนได้ลองวางแผนก่อนไปห้างในช่วงยุคโควิคนี้ดูนะคะ ขอบคุณค่ะ^^
ไปห้างเมกะในยุคโควิค 19 วันแรกหลังคลายล๊อค Covid 19
-ไปร้านหมอสิว
-B2s
-และอีเกีย
เรานัดกับแฟนเดี๋ยวเราออกกันแต่10.30 น.เลยเนอะได้รีบเดินตอนคนยังไม่เยอะมาก เพราะคิดว่าคนต้องเยอะแต่ๆ ต่อให้มีบ้างส่วนที่คิดว่ามาวันหลังบ้างก็ตาม
เราเลยออกจากบ้านกันแต่เช้าค่ะ ตามเวลาที่ตั้งใว้ ถึงเมกะประมาณ 11โมงกว่าๆได้ค่ะ รถยังไม่เยอะมากแต่ก็เริ่มชะลอตรงทางเข้ารับบัตรค่ะ เราไปจอดรถกันในตึกโซนน้ำพุ ก็ถือว่าหาที่จอดได้ไม่อยาก แต่ก็มีรถมาจอดแล้วเหมือนกันค่ะ พอถึงเราก็ตามแผนเลย ไปหาหมอเราตั้งไว้ท้ายสุดเพราะคิดว่าร้านหมอน่าจะไม่คิวเยอะมาก เราเลยกะว่าจะไป b2s แล้วก็อีเกียก่อน และเราก็แวะ b2s ก่อนเพราะผ่านก่อนถึงอีเกีย (แต่อันนี้ก็ทำให้เราพลาดอดเข้าอีเกียไว้เล่าต่อไปค่ะ)
ออลืมบอกค่ะ บริเวณภายนอกยังไม่มีการตรวจคัดกรองอะไร แต่พอจะเข้าตัวห้างจะมีจุดคัดกรองสแกนอุณหภูมิก่อนเข้าแบบนี้ค่ะ
ซึ่งก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจอีกขึ้นนึงค่ะ และการเข้าในร้านแต่ละร้านก็มีการจำกัดจำนวนคนเข้าค่ะ ประมาณ6-15คนได้ หรือแล้วแต่ขนาดร้านค่ะ สำหรับb2s ก่อนเข้าก็ต้องรอคิวสแกนเช็คอินในการเข้าร้าน ตรวจอุณหภูมิ ซึ่งการรอคิวสแกนในแต่ละจุดต้องใช้เวลา ซึ่งการเดินห้างในยุคนี้ต้องเผื่อเวลาเยอะๆๆๆๆๆๆ และใจเย็นมากๆๆๆๆๆ เลยค่ะ พอเช็คอินเข้าร้านแล้วก็เดินๆๆๆๆ การจ่ายเงินก็มีคิวค่ะ และทุกการยืนก็ต้องเว้นระยะห่าง ดังนั้น ถ้าใครปวด_ึ หนักๆช่วงนั้นแนะนำให้โยนของทิ้ง และรีบออกไปเข้าห้องน้ำก่อนเลยค่ะ เพราะการออกนอกร้านก็ต้องต่อคิวสแกนเช็คเอ้าท์อีกครั้งนึงค่ะ (เสียดายลืมถ่ายรูปทางเข้าออกb2sไว้)
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องห้องน้ำ งดใช้ห้องน้ำหลายจุดอยู่นะคะ
หากใครปวดหนักก็ต้องเผื่อเวลาในการวิ่งหาห้องน้ำด้วยค่ะ นอกจากเผื่อเวลาในการรอคิวสแกนแล้ว55555 ไม่แน่ใจว่าห้องน้ำเปิดกี่จุดค่ะ แต่เดินผ่าน2จุดแถวทางเดินจากb2sไปอีเกียไม่เปิด ต้องเดินลงไปเข้าชั้นล่างค่ะ และเพราะการเดินหาห้องน้ำเป็นทางที่ได้ผ่านทางเข้าอีเกีย ทำให้รู้สึกพลาดน้ำตาจะไหล เมื่อเห็นคิวต่อเข้าอีเกียจ้าาาาา โอ้.......
ภาพถ่ายนี้คือ ณ.เวลา 11โมงครึ่งกว่าๆเท่านั้น
หางแถวยาวมาเลยร้านยูนิโคล่แล้วจ้าาาาาา ซึ่งหลังจากนั้นเห็นว่าต้องเอาเสามาคดหางแถวกันเลยทีเดียว
ทั้งๆที่ตั้งใจจะมาเช้าเพื่อหนีคนเยอะ แต่พอเห็นแบบนี้แล้ว เลยต้องถอยดีกว่าค่ะ คนเยอะมาก คือคนที่อยู่ด้านในที่เข้าไปแล้วก็เยอะค่ะ
รู้อะไรไม่สู้รู้งี้ ฮือออออ รู้งี้บึ่งมาอีเกียก่อนเลยดีกว่าค่ะงี้ โอ้ เลยเปลี่ยนแผนกันเลยค่ะ เราหนีไปหาไรกินก่อนร้านอาหารจะคนเยอะดีกว่า เพราะตอนนั้นก็หิวและเที่ยงพอดี เลยเดินหาของกิน
แต่ละร้าน ฟูจิก็คิวเยอะ ส่วนใหญ่ทุกร้านมีคิวหมด เพราะเนื่องจากต้องนั่งโต๊ะละ1คนเท่านั้น หรือถ้ามา2คนก็ต้องนั่งโต๊ะแบบมีกันฉากแบบนี้
ร้านอากะก็ยังไม่เปิด เราเลยเดินไปดูชาบูชิ คิดว่าคิวน่าจะน้อย แต่พอไปถึงคนในร้านเต็มแล้วค่ะ ไม่เปิดสายพานอาหารออเดอร์เอา และต้องนั่งแยกซึ่งอันนี้ปกติ แต่เนื่องจากเหมือนทุกคนเพิ่งจะเข้ากิน และล่าสุดคิวที่7 ข้างหน้าเราคิว15 เอ๊ะ!!ยังไง และบุฟเฟ่ เอ๊ะ!!ยังไง5555 เลยเปลี่ยนร้านค่ะรออะไร5555
คือตอนนั้นหิวมาก ร้านอะไรก็ได้แล้วอะ เลยเดินมาฮะจิบังน่าจะโอเคนะ แต่นี่คือสถานการณ์ตอนนั้น
คนเต็มจ้าโต๊ะละคน และมีคนรอหน้าร้านหลายอยู่ ผ่านเลยค่ะไม่ต้องคิด โอ้.....
เลยเดินมาเลยๆเอาวะ เจียงลูกชิ้นปลาก็ได้ พอไปถึงเราได้เข้าเลยค่ะ เอาวะรอดละ5555 รองท้องคนละชามเราต้องแยกกันกินสักพัก55555 ใช่ค่ะ มาด้วยกันเรานั่งคนละโต๊ะค่ะ อาหารและเครื่องปรุงก็จะมาในลักษณะแบบนี้ค่ะ
เราก็รีบกินหาหมอแล้วรีบกลับ
จะบอกว่าวันนั้นยิ่งสายคนยิ่งเยอะค่ะ เกือบทุกร้านโดยเฉพาะร้านของกิน
ขนาดชาตรามือก็คิวยาวค่ะ
แต่ก็แอบปลื้มใจนะคะ คนได้ออกมาใช้เงินหมุนเวียนคึกครื้นหน่อยค่ะ
โดยรวมในห้างภายนอกก็ยังดูเงียบเหงานะคะ ในโซนที่เคยมีตลาดนัด จัดอีเว้นต่าง แต่ด้วยน่าจะเพ่งเปิดวันแรก และบ้างร้านในตัวห้างก็ยังไม่เปิดค่ะ
และโซนธนาคารก็จัดที่นั่งให้แบบเว้นระยะได้นั่งกันค่ะ แต่ก็ถือว่าคนยังเยอะอยู่ดี
แต่การมาเดินห้างครั้งนี้ก็ถือว่าอุ่นใจได้บ้างในการสแกน และต้องมีสติสุดๆๆๆๆๆๆ ไปเลยค่ะในการตัดสินใจ ระวังการเว้นระยะ เข้าห้องน้ำล้างมือ พกเจล เหมือนต้องเตือนสติตัวเองตลอดเวลา และเหมือนเล่นเกมในการหนีคนเยอะ และทำเวลาให้มากที่สุดค่ะ55555
สรุปคือ เดินเท่าที่จำเป็น คลายเครียดนิดหน่อยหลังจากไม่ค่อยได้ออกไปไหน ถ้าคนเยอะดูเสี่ยงก็ถอยก่อนค่ะ ค่อยเวียนไปใหม่
การกินอาหารนั้นแนะนำกินที่บ้านดีกว่าค่ะ สบายใจสุด ซื้อกลับมากินหรือทำกินเองดีกว่า ประหยัดเวลา สบายใจ นั่งกินด้วยกันได้ไรงี้อะคะ
ก็ขอเขียนเล่าไว้เผื่อเพื่อนได้ลองวางแผนก่อนไปห้างในช่วงยุคโควิคนี้ดูนะคะ ขอบคุณค่ะ^^