สโมสรฟุตบอลของอังกฤษที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ มักสร้างรูปปั้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับกุนซือที่นำความสำเร็จมาสู่ทีมมากที่สุด ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าสนามของตัวเอง

ที่แอนฟิลด์ มีรูปปั้นของ บ็อบ เพสลี่ย์ และ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ ที่นำ ลิเวอร์พูล กวาดแชมป์รวมกัน 31 ถ้วย

ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็มีรูปปั้นของ 2 กุนซือระดับอัศวินอย่าง เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

แต่ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กลับไม่ปรากฏรูปปั้นของ อาร์แซน เวนเกอร์ ทั้งที่เขาคือผู้จัดการทีมที่พา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ได้มากที่สุด ด้วยจำนวน 17 โทรฟี่



เวนเกอร์ คือกุนซือเพียงคนเดียวที่พาทัพ เดอะ กันเนอร์ส ได้แชมป์ลีกสูงสุดจากการคุมทีมเต็มฤดูกาลถึง 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกเป็นการคว้า “ดับเบิ้ลแชมป์” ในปี 1998 และ 2002 ส่วนครั้งหลังสุดคือการทำสถิติไร้พ่ายตลอดทั้งฤดูกาลเมื่อซีซั่น 2003-04

นอกจากนั้นแล้ว อดีตนายใหญ่ชาวฝรั่งเศสยังครองสถิติเป็นผู้จัดการทีมที่ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ มากที่สุดตลอดกาล เมื่อคว้าไปครองถึง 7 สมัย ซึ่งเทียบเท่ากับแชมป์รายการนี้รวมกันทั้งหมดในประวัติศาสตร์ที่ ลิเวอร์พูล ทำได้

และสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น นี่คือคนที่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของ อาร์เซน่อล จากทีมที่โดนขนานนามว่าเล่นได้น่าเบื่อหน่าย ให้กลายเป็นสโมสรที่มีสไตล์การเล่นสวยงามน่าดูชมมากที่สุดของพรีเมียร์ลีก

จริงอยู่ที่สโมสรฟุตบอลไม่มีทางสร้างอนุสาวรีย์ให้กับตำนานทุกคนได้ แต่ถ้าพวกเขาคิดจะทำอะไรแบบนั้น คนแรกที่ควรคิดถึงก่อน ก็คือคนสำคัญที่สุดของสโมสรไม่ใช่หรือ?
___________________________

ถ้าจะบอกว่า อาร์แซน เวนเกอร์ คือบุคคลที่สำคัญสุดกับการช่วยให้ อาร์เซน่อล มีสนามเหย้าที่จุผู้ชมได้มากกว่า 60,000 คนอย่าง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็คงไม่ผิดนัก

โครงการก่อสร้างสนามใหม่ขึ้นมาใช้แทนที่ ไฮบิวรี่ ที่จุผู้ชมได้ไม่ถึง 40,000 คน เริ่มขึ้นในปี 1997 ซึ่งเป็นช่วงที่ เวนเกอร์ เป็นผู้จัดการทีม เพราะมองว่าสนามที่ใหญ่โต จะสร้างรายได้ให้สโมสรที่ยั่งยืนมากกว่าในระยะยาว

ด้วยมูลค่าการก่อสร้างรวมกันถึง 390 ล้านปอนด์ ทำให้ อาร์เซน่อล จำเป็นต้องเป็นหนี้เพื่ออนาคต โดยการไปกู้เงินมหาศาลจากธนาคารมาลงทุน ซึ่งมันส่งผลกระทบโดยตรงกับงบประมาณเสริมทัพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้



แต่ เวนเกอร์ ยังช่วยให้บัญชีการเงินของทีมมีสภาพคล่อง เขาพาทีมทำอันดับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ต่อเนื่องนานกว่าทศวรรษ แม้ต้องสร้างทีมด้วยงบจำกัด และเสียนักเตะคนสำคัญออกไปนับไม่ถ้วนก็ตาม

ด้วยเม็ดเงินในการพัฒนาขุมกำลังที่ไม่มากพอ ส่งผลให้สโมสรไม่ใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกเลย นับตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งคว้าแชมป์ไร้พ่าย และเป็นปีที่มีการเริ่มการก่อสร้าง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เฟสแรก

ในเมื่อแฟนบอลทั่วโลกสนใจผลงานในสนามมากกว่าจำนวนความจุผู้ชม เวนเกอร์ จึงถูกมองว่าเป็นกุนซือที่เกาะเก้าอี้นานเกินไป สุดท้ายเขาต้องยอมลาออกไปในปี 2018 เพื่อเปิดทางให้กุนซือคนใหม่ที่ทำผลงานไม่ได้ดีไปกว่าเขาเข้ามาแทน
___________________________

มาร์ติน คีโอว์น อดีตปราการหลังที่เคยเล่นในถิ่นไฮบิวรี่นานถึง 11 ปี ชี้ว่าถ้าจะมีใครสมควรได้รับการปฏิบัติอย่างให้เกียรติจาก อาร์เซน่อล มากที่สุด คนคนนั้นยังไงก็ต้องเป็น อาร์แซน เวนเกอร์

“ก่อนที่เขาจะมา เราจบฤดูกาลด้วยอันดับ 10, 4, 12 และ 5 ในพรีเมียร์ลีก จากนั้นเราได้แชมป์ลีกถึง 3 สมัยร่วมกับเขา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาควรมีอนุสาวรีย์”

“ถ้าจะให้เปรียบเปรย เขาคือคนที่สร้างสนาม เอมิเรตส์ เลยทีเดียว เขาคือคนที่เน้นย้ำกับการบอกว่าสนามไฮบิวรี่ ที่พวกเราทุกคนรักมันมากมันยังไม่ใหญ่พอ”

“เวนเกอร์ คือคนมีวิสัยทัศน์ เขาควรได้นั่งในตำแหน่งบอร์ดบริหาร แล้วอะไรคือทางเลือกของเขาบ้างล่ะ? ทางเลือกนั้นมันกลับเป็นสิ่งที่เขาได้รับในตอนนี้ ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ อย่างเป็นทางการทั้งสิ้นจาก อาร์เซน่อล ทั้งที่เขาควรได้นั่งอยู่ในฝ่ายบริหารด้วยความภาคภูมิใจ”

“เมื่อผมได้ฟังเขาพูด เขายังคงเรียกพวกเราว่า “เรา” อยู่เลย”

ขณะที่ เรย์ พาร์เลอร์ อดีตกองกลาง เดอะ กันเนอร์ส อีกคน ก็เห็นตรงกันกับอดีตเพื่อนร่วมทีม โดยเผยว่า "ผมตกใจมาก ที่ อาร์เซน่อล ยังไม่สร้างรูปปั้นให้เขาซะที"
___________________________

ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มีอนุสาวรีย์ของอดีตบุคคลสำคัญของสโมสรทั้งหมด 5 คน



รูปปั้นแรกที่ตั้งอยู่บริเวณสะพานทางฝั่งเหนืออันเป็นทางเดินก่อนเข้าสู่สนาม เป็นของ เคน ฟรายอาร์ (Ken Friar) ชายผู้ทำงานใกล้ชิดกับสโมสรเป็นเวลานานกว่า 70 ปี

ฟรายอาร์ ไม่ใช่อดีตนักฟุตบอล ไม่เคยเป็นกุนซือหรือทีมงานสต๊าฟโค้ช เรื่องราวของเขากับ อาร์เซน่อล เริ่มจากตอนที่เขาเป็นเด็กชายวัย 12 ขวบ ที่เตะบอลกลิ้งไปอยู่ใต้ท้องรถของ จอร์จ แอลลิสัน อดีตผู้จัดการทีมระดับตำนานอีกคนของทีมปืนใหญ่ แล้วถูกชักชวนเข้าไปทำงานให้สโมสรตั้งแต่การเป็นเด็กเดินเอกสาร จนโตขึ้นมามีส่วนบริหารทีม

อย่างไรก็ตาม จอร์จ แอลลิสัน ก็ยังไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่ อาร์เซน่อล สร้างอนุสาวรีย์ให้ เพราะกุนซือเพียงหนึ่งเดียวที่มีรูปปั้นอยู่หน้าสนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก็คือ เฮอร์เบิร์ต แช็ปแมน ผู้พาทีมคว้าแชมป์ลีกสมัยแรกในประวัติศาสตร์ได้ในปี 1931



แช็ปแมน พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิมได้ในปี 1931 และ 1933 แต่น่าเสียดายที่เขาจากโลกนี้ไปก่อนที่ทีมจะได้แชมป์ลีกสมัยที่ 3 เพราะเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1934 และทำให้ผู้ช่วยอย่าง โจ ชอว์ ทำหน้าที่กุนซือขัดตาทัพและพาทีมคว้าแชมป์ลีกไปแทน

ส่วนอีก 3 คนที่มีรูปปั้นของตัวเองที่ เอมิเรตส์ คือแข้งระดับตำนานชุดรุ่งเรืองอย่าง โทนี่ อดัมส์, เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ เธียร์รี่ อองรี ซึ่งมันน่าแปลกตรงที่ผู้จัดการทีมที่เคยเป็นเจ้านายของนักเตะ 3 คนนี้ และอยู่คุมทีมนานถึง 22 ปี กลับไม่ได้รับเกียรติแบบนั้นบ้าง



จริงๆ แล้วที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มีรูปปั้นของ เวนเกอร์ แบบครึ่งตัว ตั้งไว้ในส่วนของสนามหลังจากเข้าไปในเอ็นทรานซ์

แต่ประเด็นที่พวกตำนานอาร์เซน่อล และแฟนบอลที่รักเวนเกอร์ต้องการ ก็คือควรได้ในระดับ "อนุสาวรีย์" ที่มีเกียรติไม่แพ้คนอื่นๆ เพราะ เวนเกอร์ คือคนที่สำคัญกับทีมยิ่งกว่า อดัมส์, เบิร์กแคมป์ และ อองรี ด้วยซ้ำ
___________________________

ประเด็นที่ว่า อาร์เซน่อล เตรียมสร้างสร้างรูปปั้นให้กับ อาร์แซน เวนเกอร์ ถูกพูดถึงในหมู่ชมรมคนรักปืนใหญ่มาโดยตลอด และมีข่าวลือทยอยออกมาเรื่อยๆ ว่าโครงการนี้ได้เริ่มมีการวางแผนจริงจังกันแล้ว แม้จะยังไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่างก็ตาม

แต่ความเป็นจริงก็คือทางสโมสรไม่เคยออกแถลงการณ์ใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้แบบ Official เลย

ขณะที่ทาง เอ็มดีเอ็ม พร็อพส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับงานศิลปะที่ อาร์เซน่อล ใช้บริการอยู่บ่อยๆ ก็ไม่เคยออกมาเปิดเผยวี่แววใดๆ ทั้งสิ้นว่าทีมปืนใหญ่กำลังจะทำอะไรแบบนั้นจริงๆ

นอกจากนั้นแล้ว ตัวของ เวนเกอร์ เอง ก็ไม่ค่อยปรากฏตัวที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม สักเท่าไร การที่เขาโผล่หน้าไปที่สนามทีมปืนใหญ่กลายเป็นภาพหายาก หากเทียบกับจำนวนเกมที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไปอยู่ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังวางมือ

มีข่าวลือว่าในช่วงท้ายๆ ของการทำงานในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของ เวนเกอร์ เขาไม่ใช่ที่รักของบอร์ดบริหารทีมสักเท่าไร

ด้วยบารมีที่สั่งสมมานาน ทำให้สโมสรไม่กล้าไล่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมลาออกไปเองซะที ทั้งที่มาตรฐานของทีมในยุคของเขาตกต่ำไปพักใหญ่ และไม่ใช่ทีมระดับแถวหน้าของยุโรปอีกต่อไปแล้ว

กว่าที่เจ้าตัวจะตัดสินใจอำลาทีมไปเอง ก็คือช่วงที่เห็นว่าแฟนบอลไม่ต้องการเขาแล้วอย่างแท้จริงในช่วงระหว่างปี 2017-2018

และฉากจบที่ไม่สวยนี่เอง อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ “ภาพจำ” ของเขาสำหรับบางคน คือการเป็นกุนซือผู้ล้มเหลวมากกว่าเป็นตำนาน และนั่นทำให้บอร์ดบริหารสโมสร ยังไม่มีแพลนจะสร้างรูปปั้นเป็นเกียรติยศให้เขา
___________________________

ปัจจุบัน อดีตยอดโค้ชชาวฝรั่งเศสทำงานเป็นกูรูให้กับ บีอิน สปอร์ตส์ สื่อกีฬาระดับโลก และเมื่อไม่กี่วันก่อน เจ้าตัวก็เพิ่งออกมาพูดถึงทีมเก่าอย่างห่วงใย

“ผมยังคงเป็นห่วงสโมสรอยู่มาก และผมติดตามเกมการแข่งขันอยู่ทุกนัด”

“ผมเชื่อว่ามันมีวัฒนธรรมในวิธีการเล่นฟุตบอลที่อาร์เซน่อล ที่ผมอยากให้ความเคารพ และผมคิดว่า มิเกล อาร์เตต้า จะนำมันกลับมาได้”

ส่วนใหญ่แล้ว คนที่จะได้รับเกียรติมีอนุสาวรีย์หรือรูปปั้นของตัวเอง มักเป็นคนที่มีอดีตอันสวยงามให้ผู้คนจดจำไปตลอดกาล

ซึ่งในช่วงหลังมานี้ที่ฟุตบอลอังกฤษแทบไม่มีอะไรให้อัพเดท เรื่องราวที่น่าประทับใจของ อาร์แซน เวนเกอร์ ยิ่งถูกนำมาพูดถึงบ่อยกว่าช่วงที่มีเกมลูกหนังให้ลุ้นกันทุกสัปดาห์



แฟนบอลทีมปืนใหญ่ที่อังกฤษหลายคน ต่างเชื่อมั่นว่าในท้ายที่สุดแล้ว สโมสรจะต้องสร้างอะไรสักอย่าง เพื่อเป็นเกียรติยศให้กับกุนซือที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพวกเขาแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้น หรือการตั้งชื่ออัฒจันทร์สักฝั่งให้เป็นชื่อของเขา

เพราะถึงแม้ฉากจบของเขากับทีมจะไม่สวยงาม แต่แน่นอนว่าไม่มีแฟนบอล อาร์เซน่อล คนไหน ที่ไม่เคยประทับใจ อาร์แซน เวนเกอร์

___________________________
ติดตามบทความฟุตบอลดีๆ โดยไม่แบ่งแยกทีมเชียร์ได้ที่เพจ "เสียบสามเหลี่ยม" facebook.com/seabsamliam