เรื่องมีอยู่ว่า เราก็เป็นวัยรุ่นผู้หญิงธรรมดาคนนึ่ง ครอบครัวเราค่อนข้างหัวโบราณเราเคยมีแฟนคนแรกเราก็มีอะไรกับแฟนคบกันมาจนได้5ปี ด้วยปันหาทางบ้านเราหลายๆอย่างเราเลยย้ายไปอยู่กับแฟนเรา แต่การที่เราย้ายไปอยู่กับเค้าก็ได้แค่ปีเดียวเราก็เลิกกัน(ก็คืออยู่กินกันเป็นผัวเมีย) พอเราเลิกกับแฟนคนแรกสักพักเราก็ได้คบกับผู้ชายอีกคน เค้าเป็นคนดีมาก การกระทำอะไรดีหมดทุกอย่าง โอนเงินให้เราใช้ เลี้ยงเราได้ดี ครอบครัวเค้ารักและยอมรับเรา (ซึ่งผิดกับคนแรกที่เราเป็นคนหาเงินเลี้ยงตัวเองและผู้ชาย) เราก้มีไรกับแฟนคนนี้ จนพ่อเรารู้ว่าเรามีอะไรกับแฟนคนนี้ พ่อเราก้มาถามเราว่ามีอะไรกันรึยัง เราเลือกที่จะโกหกว่ายังไม่มีเพราะเราคิดว่าถ้าบอกว่ามีแล้วพ่อเราเค้าจะบังคับคุยเรื่องหมั่นหมายแต่งงาน(ไม่ใช่เราไม่อยากแต่ง)แต่เรารู้ว่าทางผู้ชายเค้าก็ยังไม่ได้มีเงินมากพอที่จะมาตบแต่งเรา เราเลยโกหก แต่พ่อเรารู้อยู่แล้วว่าเรามีอะไรกันเเล้ว ด้วยความที่เค้าโกรธว่าทำไมเราต้องโกหกเค้าเลยบอกว่าให้เราเลิกกับแฟนคนนี้ในเมื่อไม่ได้มีอะไรกันเกินเลยแล้วสถานะตอนนั้นเรากับแฟนก็มีเรื่องทะเลาะกันแต่ก้ยังคุยกัน แต่ความต้องการของพ่อเราก้แค่อยากให้ฝ่ายผู้ชายมายอมรับ ผู้ใหญ่มาคุยกันไม่ได้จำเป็นต้องตบแต่งเดี๋ยวนั้นวันนั้นวันนี้ แค่เอออยากให้ผู้มหญ่ทั้ง2ฝ่ายรับรู้แค่นั้น พอเราคุยกับพ่อเสร็จเราก็โทรไปหาแฟนเราเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งในความคิดเราเค้าเป็นคนดีรักเรามากเค้ารับผิดชอบเราอยู่แล้ว เค้าต้องให้พ่อแม่เค้ามาคุยตกลงกับพ่อแม่เรา แต่ความจิงจากปากของเค้าคือ แล้วทำยังไงให้เค้ารู้ แล้วจะเอายังไง ทำไมทีกับคนแรกยังไม่เห็นต้องมีอะไรเลยไปอยู่กับมันฟรีๆเฉยๆ พ่ออะไรกับกูนักหนา เรารู้สึกจุกและเสียใจมากว่าทำไมเค้าถึงต้องเอาอดีตของเรามาพูด เรารู้ว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงดีเคยผ่านการกินอยู่กับผู้ชายมาแล้ว แล้วที่เค้าพูดมาแบบนี้คืออะไรคะ เราก็เลยบอกเค้าไปว่า ทางบ้านเราไม่ได้เรียกร้องอะไรจากเค้าเลย เออเเค่อยากให้ผู้ใหญ่มาคุยกัน ถ้าเค้าเอาอดีตเรามาเปรียบเทียบเรากับเค้าก็ต่างคนต่างอยู่เพราะเราไม่โอเคกับความคิดเค้าเลย ทุกๆคนช่วยเสนอความคิดเห็นให้เราทีน่ะคะว่าคิดยังไง
คิดยังไงกับ ผญ ที่เคยไปอยู่กินกับ ผช มาแล้ว