JJNY : ดุสิตโพลชี้รายได้ลดรายจ่ายเพิ่ม/NIDAโพลหนุนเลิกพรก./เตรียมขอเวลาประชุมเพิ่ม/ญาติวีรชนจี้ประยุทธลาออก/พปชร.ซัดข่าว

“ดุสิตโพล”ปชช.ชี้โควิด-19ระบาดทำรายได้ลดรายจ่ายเพิ่ม
https://www.innnews.co.th/economy/news_676321/

 
สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,125 คน กรณี “รายได้-รายจ่าย-หนี้สิน-เงินออม” ของคนไทยยุคโควิด-19 ระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคม 2563 เมื่อถามถึง รายได้ – หนี้สิน – เงินออม ของประชาชน เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาก่อนโควิด -19 ระบาด พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 35.38 ระบุ รายได้พิเศษ ลดลง รองลงมาร้อยละ 27.91 ระบุ เงินออมลดลง ร้อยละ 25.16 ระบุ รายได้ประจำลดลง ร้อยละ 25.07 ระบุ หนี้สินเพิ่มขึ้น
 
ขณะ 5 รายจ่ายที่เพิ่มขึ้น พบว่า ร้อยละ 68.53 ระบุ ค่าน้ำ-ค่าไฟ รองลงมาร้อยละ 44.89 ระบุ ค่าโทรศัพท์มือถือ/อินเตอร์เน็ต ร้อยละ 40.27 ระบุ ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 20.18 ระบุ ยารักษาโรค/ค่ารักษาพยาบาล/ดูแลสุขภาพ ร้อยละ 14.22 ระบุ บริจาค ทำบุญ
 
ส่วน 5 รายจ่าย ที่ลดลง พบว่า ร้อยละ 60.62 ระบุ ค่าเดินทาง ค่ารถ ค่าเรือ /ค่าน้ำมัน รองลงมาร้อยละ 42.31 ระบุ เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ร้อยละ 41.54 ระบุ ท่องเที่ยว พักผ่อน ร้อยละ 38.67 ระบุ เสี่ยงโชค ลอตเตอรี่ หวย ร้อยละ 34.31 ระบุ เครื่องประดับ /น้ำหอม


 
NIDAโพลหนุนเลิกพรก.ปิดผับต่อห่วงรวมตัวโควิดระบาด
https://www.innnews.co.th/social/news_676333/

"นิด้าโพล" เผย ผลสำรวจ คนหนุนยกเลิกพรก.ควบคุมโควิด-19 ให้ปิดผับต่อ ขอมีสุขภาพดีแม้จำกัดเสรีภาพ

 
“นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชนทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น จำนวน 1,259 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “เสรีภาพหรือสุขภาพ” ทำ การสำรวจระหว่างวันที่ 11 – 13 พฤษภาคม 2563 เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเสนอให้ยกเลิก พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พรก. ฉุกเฉิน) พบว่า 
 
ร้อยละ 35.98 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด – 19 ดีขึ้นเยอะเเล้ว อยากให้เข้าสู่ภาวะปกติจะได้เดินทางสะดวก และผู้ประกอบการสามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ 
รองลงมา ร้อยละ 21.76 ระบุ ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลงแล้ว อยากให้มีการผ่อนปรนในการดำเนินชีวิตได้อย่างงปกติ 
ร้อยละ 15.17 ระบุ ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 ขึ้น และอยากให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้
 
ทั้งนี้ด้านความคิดเห็นของประชาชนกับข้อเสนอให้ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว (4 ทุ่ม ถึงตี 4) พบว่า 
ส่วนใหญ่ร้อยละ 41.22 ระบุ เห็นควรให้มีเคอร์ฟิวตามเวลาเดิม เพราะอยากให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หมดไป 100% ก่อน ละลดการมั่วสุม ชุมนุม ที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 รองลงมา 
ร้อยละ 33.68 ระบุ เห็นควรยกเลิกเคอร์ฟิวไปเลย เพราะ ไม่สะดวกในการเดินทางเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ที่ทำงานตอนกลางคืนขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ และสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด- 19 ดีขึ้นแล้ว
 
เมื่อถามผู้ที่เห็นควรให้มีการปรับช่วงเวลาเคอร์ฟิวใหม่ พบว่า 
ส่วนใหญ่ร้อยละ 40.73 ระบุ ช่วงเวลาเคอร์ฟิวควรเป็น 00.00 น. – 04.00 น. รองลงมาร้อยละ 18.21 ระบุ ควรเป็นช่วงเวลา 23.00 น. – 04.00 น. 
ร้อยละ 12.58 ระบุ ควรเป็นช่วงเวลา 00.00 น. – 05.00 น.

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อรัฐบาลว่าควรอนุญาติให้ ปับ บาร์ ร้านเหล้า เปิดให้บริกร พบว่า 
ส่วนใหญ่ร้อยละ 78.87 ระบุ ยังไม่ควรอนุญาตให้เปิด เพราะ ผับ บาร์ ร้านเหล้า ถือเป็นแหล่งมั่วสุม แออัด ประชาชนบางกลุ่มยังไม่ให้ความร่วมมือ เกรงว่าการกลับมารวมตัวกันของประชาชน อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 รอบ 2 
รองลงมา ร้อยละ 18.03 ระบุ ควรอนุญาตให้เปิดได้แล้ว เพราะ ผู้ประกอบกิจการผับ บาร์ ร้านเหล้า ขาดรายได้ พนักงานตกงานมากขึ้น และควรมีมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันที่จะไม่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดรอบ 2
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงการให้ความสำคัญระหว่างเสรีภาพกับสุขภาพ พบว่า 
ส่วนใหญ่ ร้อยละ 83.80 ระบุ เลือกสุขภาพที่ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่าจะต้องถูกจำกัดเสรีภาพบ้างก็ตาม เพราะถ้าประชาชนสุขภาพดี ทำให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 รอบ 2 ขึ้น และเสรีภาพก็จะได้กลับมาในการดำรงชีวิต
รองลงมา ร้อยละ 12.87 ระบุ เลือกเสรีภาพในการดำเนินชีวิต แม้ว้าจะต้องเสี่ยงกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะอยากมีอิสระในการเดินทาง ประกอบอาชีพเหมือนเดิม และประชาชนส่วนใหญ่มีการดูแลและรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น


ฝ่ายค้านเตรียมขอเวลาประชุมสภาเพิ่มหลังขยับเคอร์ฟิว
https://www.innnews.co.th/politics/news_676166/
 
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า ตามที่ นาชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุจะเริ่มพิจารณา พรก.กู้เงิน ในวันที่ 27-29 พฤษภาคม และระบุเวลาในการประชุมแต่ละวันถึง เวลา 19.00 น. นั้น ในวันที่ 22 พ.ค. ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภา ซึ่งมีผู้แทนจากฝ่ายรัฐบาล 5 คน,ฝ่ายค้าน 5 คน และฝ่ายสภา 5 คน ที่จะมีนายชวน เป็นประธานการประชุม จะต้องมีการคุยเรื่องกรอบเวลากันใหม่ เพราะกรอบ 19.00 น.นั้น ประธาน“ชวน” พูดก่อนที่จะมีมติขยับเวลาเคอร์ฟิว ซึ่งเมื่อมีการขยับแล้วการประชุมสภาก็น่าจะขยับเวลาเพิ่มได้อีกเช่นกัน และมองว่า 21.00 น. ก็น่าจะเหมาะสม
 
แต่หากมีข้อจำกัดด้านสาธารณสุขอย่างไร ก็จะต้องหาข้อสรุปกันอีกครั้ง เพราะหากเพิ่มจาก 19.00 น.ไปไม่ได้ ก็อาจจะเสนอให้เริ่มประชุมเร็วขึ้นเช่น อาจจะเริ่ม 08.00 น. หรือจะเพิ่มวันพิจารณาก็ได้ เช่นกัน เพราะ พรก.กู้เงินนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบ เพราะมีผลผูกพันกับประชาชนทั้งประเทศ และเป็นระยะเวลานาน ไม่ควรที่จะรวบรัด หรือเอากรอบเวลามากำหนดจนเกินไป
 
นอกจากนี้ นายสุทิน ยังกล่าวด้วยว่า ยังคงได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ถึงความเดือดร้อน และการตกหล่นของมาตรการเยียวยา และเตรียมที่จะนำเข้าหารือต่อสภา เพื่อหาทางดำเนินการช่วยเหลือต่อไปด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่