เครียด หมดรักแฟน แต่เลิกไม่ได้ เพราะแฟนเป็นโรคซึมเศร้า

สวัสดีครับ 

ผมไม่รู้จะไปปรึกษาใครจริงๆ ทุกวันนี้เครียดมากๆทุกวัน คิดเรื่องนี้วนเวียนทั้งวัน ไม่มีอารมณ์ทำอะไรเลย

ผมกับแฟนคบกันมาได้ 3 ปีแล้วครับ ผมรู้ว่าเธอเคยเป็นโรคทางจิตเวช วิตกกังวล และโรคซึมเศร้า 
ก่อนหน้าที่จะมาคบกัน แต่ตอนนี้เธอรักษาหายแล้ว ไม่ต้องทานยาอีก
แต่เธอก็ยังไม่ปกติร้อยเปอร์เซ็น คือเธอยังคงมีความวิตกกังวลง่าย ซึมเศร้าง่าย จิตใจเปราะบาง ถ้าไปพูดอะไรกระทบจิตใจเธอ บางทีก็อารมณ์ร้ายอาละวาดทุบตีทำร้ายร่างกายตัวเองจนช้ำหรือร่างกายผมบ่อยๆ แล้วเธอก็จะร้องไห้ตอนมีสติ ขอโทษขอโพยผม แล้วบอกว่าทำไปเพราะเธอป่วย

ซึ่งผมก็พยายามปรับตัว พยายามทำความเข้าใจ เพราะคนมันรักไปแล้ว อดทนดูแลอยู่กันมา 3 ปีกว่า ซึ่งบอกตรงๆ ผมเริ่มทนไม่ไหว เพราะเวลามีปัญหาอะไร ผมไม่สามารถพูด หรือต่อว่าอะไรเธอได้เลย แค่เวลาทะเลาะกันจะอธิบายยังทำไม่ได้ เพราะถ้าไปกระทบจิตใจเธอเมื่อไหร่ก็บ้านแตกอีก กลายเป็นว่าเธอต่อว่าผมได้คนเดียว แต่เวลาที่ผมอึดอัดใจอะไรอยากพูดตรงๆก็ไม่สามารถพูดได้ 
เคยทะเลาะกันแรงๆครั้งนึง เธอวิ่งไปคว้ามีดจะมาปาดคอตัวเอง ผมต้องใช้แรงเยอะมากกว่าจะแย่งมาได้ ผมกลัวมากบอกตรงๆ บางทีเธอก็เหมือนระเบิดเวลา ที่ไม่สามารถคาดเดาได้

เรื่องดีๆของเธอก็มี เช่น ดูแล ใส่ใจผม แต่บอกตรงๆ ผมอึดอัดกับหลายๆเรื่องของเธอ ไม่ใช่แค่เรื่องที่เธอไม่สบาย แต่เราเข้ากันไม่ได้หลายๆเรื่องจริงๆ ทั้งๆที่พยายามปรับแล้ว และที่สำคัญเรื่องที่เธอไม่สบาย มันเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผม จะด่าผมว่าเลวก็ได้ แต่ถ้าลองมาเป็นผม ก็จะเข้าใจ มันอึดอัดจริงๆกับการที่ทำอะไรกระทบใจเธอไม่ได้เลยซักอย่าง มีอะไรก็ต้องเก็บไว้อึดอัดคนเดียว ทุกวันนี้เลิกงานก็ไม่อยากจะกลับไปเจอหน้าแฟนเลย 

นานวันเข้าก็กลายเป็นเฉยชา และไม่ได้รู้สึกรักเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เหลือแค่ความผูกพันกับความเป็นห่วง เธอมักพูดบ่อยๆว่าถ้าเลิกกัน เธอต้องตายแน่ เธออยู่ไม่ได้ เธอต้องฆ่าตัวตายแน่ ครอบครัวของเธอก็ไม่ได้จะมาสนใจเธอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมกดดันมาก ผมอยากเลิกกับเธอ อยากไปมีชีวิตใหม่ แต่ก็ไม่กล้าทำ เพราะเป็นห่วง กลัวเธอจะเป็นอะไรไป หรือกลับมาไม่สบายหนักๆอีก 
ทุกวันนี้ผมไม่มีความสุขเลย ผมควรจะทำยังไงดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 22
ทำไมพอแฟนหายโกรธ ก็มาขอโทษขอโพยเจ้าของกระทู้ แล้วบอกว่าเป็นเพราะเธอป่วย ดูเหมือนเขาก็ยังพอมีสติรู้ตัวอยู่บ้างนะ ถ้าเราเป็น จขกท. เราก็คงเลิกนะ รักเขา แต่ก็ต้องรักตัวเองด้วย เลิกกันไปยังไงแฟนคุณก็มีคนดูแล เพื่อนเราก็เป็นโรคนี้สมัยก่อนเป็นหนักจนจะฆ่าตัวตาย ต้องไปนอนโรงพยาบาลรักษาตัวเองเป็นเดือนๆ รักษาตัวเองอยู่หลายปี ตอนนี้หายแล้วก็ยังต้องรักษาตัวเอง กินยาตลอด แต่หลังจากเพื่อนหาย เพื่อนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย กลายเป็นคนที่เข้มแข็ง แข็งแกร่ง สู้ และอดทนต่อสังคมได้เยอะมาก สิ่งหนึ่งที่เพื่อนมักพูดกับเราเสมอคือ คนที่เป็นโรคนี้ต้องรักษาด้วยตัวของตัวเอง ตัวเองเท่านั้นที่จะสามารถหายและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ ยาที่รักษาก็ส่วนหนึ่ง แต่หลักๆ แล้วคือตัวของตัวเอง

มาถึงตรงนี้ถ้า จขกท. ได้อ่าน เราอยากให้คุณรักตัวเองให้มาก ไม่งั้นคุณจะป่วยไปอีกคน ส่วนใครจะมองหาว่าทอดทิ้งแฟนก็ช่างเขา หรือถ้าหากเกิดแฟน จขกท. ฆ่าตัวตายไป นั่นก็คือหมดกรรมของเขา เราช่วยอะไรไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 68
ผม สมัครเพื่อเข้ามาตอบ กระทู้นี้โดยเฉพาะ

ผมคือคนนึง ที่เคยเป็นโรคซึมเศร้ามาตลอด 3 ปี
จนวันนี้หายเเล้ว 99% ส่วนอีก 1% คือถ้ามีอะไรมากระทบเเรงก็จะเกิดอาการเเพนิค ประมาณ 2-3 วันเเล้วจะกลับมาเป็นปกติ
(กระทบเเรงนี่คือ เรื่องคอขาดบาดตายนะ ไม่ใช่เรื่องทั่วๆไป)

ซึ่งผมก็มีเเฟน ณ ตอนที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า
ผมเข้าใจทั้งตัวเเฟนคุณเเละตัวคุณนะว่า
มันยากเเค่ไหน กับในสภาวะเเบบนี้
เเต่ตลอดเวลาที่ผมเป็น ผมมีความรู้สึกอยากตายอยู่ตลอดเวลา (พร้อมตายตลอด) คิดว่าเมื่อไรความรู้สึกเจ็บปวดเเบบนี้จะหายไปซักที อาการของผมคือ เเสบร้อนที่ผิวตลอดเวลา / ใจหวิวๆตลอดเวลา บางครั้งเหมือนหัวใจหยุดเต้น / กลัวจากก้นบึ้งหัวใจ เเต่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร เเค่ตื่นมาก็กลัว/  ที่อยากตาย ไม่ใช่เพราะไม่อยากมีชีวิตอยู่
เเต่ที่อยากตายคืออยากหายจากความทรมาณพวกนี้

เเละช่วงเวลาที่ทรมาณที่สุดคือหลังจากตื่นนอนของทุกวัน ร่างกายเหมือนจะไม่มีเเรง ปวดหัว อยากอ้วก
เเละ หมดซึ่งความรู้สึกถึงความสุข

นี่คืออาการของคนเป็นซึมเศร้าครับ

เเฟนผมไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้ผม เวลาที่ผมมีอการเเบบนี้
ผมไม่อาละวาดไม่โวยวายไม่ชวนทะเลาะ
เเต่ออร่าที่ออกมา มันมืดหม่นจนคนรอบข้างไม่อยากอยู่ใกล้ ผมรู้ว่าเเฟนผมอยู่กับผมไม่มีความสุข
เเละอยากตายให้มันพ้นๆไป คนอื่นจะไม่ต้องลำบาก

ต่อให้เเฟนทิ้งผมไป ผมก็คงไม่รู้สึกทรมานไปมากกว่านี้เเล้ว เเต่ผมก็ไม่เคยลงมือฆ่าตัวตายจริงๆ
เพราะผมคือ คนพุทธ เเละเชื่ออย่างยิ่งว่า
การทำอย่างนั้นทำให้ผมทรมาณกว่าเดิมเเน่
เเม้จะตายไปเเล้ว จึงได้เเต่ใช้ชีวิตโดยประมาท
เเช่งให้มันตายๆไปเร็วๆ

เเฟนผมก็เหมือนคุณ เเม้จะอยากต่อว่าในความ
งี่เง่าของผมเเค่ไหนก็ทำไม่ได้ เเต่ผมไม่เคยขู่ว่า
ผมจะฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายร่างกายให้เห็น
เเละ ผมไม่เคยมีอาการอาระวาทหรือโมโห

เรื่องที่ทะเลาะกันมีเเค่เรื่องเดียวคือ
เมื่อผมมีอาการ ผมไม่สามานถทำอะไรต่อได้เลย
เช่นขับๆรถอยู่ก็ต้องจอด
ทำๆงานอยู่เเพนิคขึ้นมาก็ต้องหยุด
กินข้าวไม่ได้ ไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเเฟน
ผมได้เเต่นั่งอยู่ที่ศาลเจ้าไปไหนไม่ได้ ไม่สามารถไปที่ๆมีคนเยอะๆได้ อย่างที่เคย

เเต่สุดท้าย ผมก็ผ่านมาได้

ผมให้เเฟนผมเลือก ว่ารับได้ไหมที่เป็นเเบบนี้
ถ้าไม่ได้ผม จะปล่อยเขาไป เเละ ผมไม่มืทางทำร้ายตัวเองเเน่ๆ ตลอดมาผมไม่เคยเอาความป่วยเป็นข้ออ้าง
ในความไม่ปกติของผม ซึ่งก็อยากจะอ้างนะ
เเต่ผมไม่อยากสมเพศตัวเองไปมากกว่านี้เเล้ว

ผมเลือกที่จะไม่กินยาหรือพบจิตเเพทย์
เพราะถ้ากินยา ก็ต้องกินไปตลอด

ผมหาจ้อมูลเองว่าโรคนี้เกิดได้ยังไง
เเละทำงานยังไง
มันเกิดจากสารในสมองหลั่งผิดปกติ
เป็นได้จากกรรมพันธ์ หรือการกระทบจิตใจอย่างรุนเเรง ซึ่งของผมอาจจะมาจากทั้งสองอย่าง

ผมคิดว่าถ้ามันเป็นได้ ผมก็ต้องหายได้
การกินยาคือการเอาเคมีไปปรับสมองที่ไม่ปกติให้อยู่ในภาวะปกติ เท่ากับว่าร่างกายของเราจะจดจำ ว่าการที่เราได้รับยา คือความปกติที่ร่างกายจะต้องได้รับ
นี่จึงเป็นสาเหตุ ที่ทำไมคนที่รักษาด้วยยาถึงต้องกินยาไปเรื่อยๆ

ผมได้รองหลากหลายวิธี เช่นการหยดน้ำมันกัญชา
จะช่วยได้ถ้าเราต้องการนอนหลับ เเต่ไม่มีส่วนทำให้สมองเราไม่สั่งให้เราฆ่ตัวตาย หรือหยุดความเจ็บปวดลงได้ ถ้ายิงหยดตอนเเพนิค ความบัดซบจะยิ่งทวีคูณ
ผมจะใช้ก็ต่อเมื่อผมมีอาการปกติเเล้วต้องการนอนหลับให้สนิท เพื่อให้ร่างกายได้รีเซตเองใหม่เท่านั้น
เพราะคนเป็นซึมเศร้าจะไม่เคยหลับสนิท
ผมจะสะดุ้งตื่นเเละนอนหลับยาก

ต่อมาผมเริ่มเปลียนความคิดว่าเรา คือภาระของคนอื่น
เบือกที่จะบอกความต้องการของเราออกไป
อย่างมีมารยาท เช่น การปฏิเสธในสิ่งที่ไม่อยากทำ
หรือ ขอโทษคนอื่นง่ายขึ้น ในสิ่งที่เราทำผิดเเม้เกิดจากอาการของโรค

ผมฝึกขอโทษคนอื่นเเละขอโทษตัวเองไปพร้อมๆกัน
ฝึกที่จะมองความเจ็บปวดนี้ว่า มันก็ไม่ใช่ความผิดของเรา เเต่ให้ยอมรับว่ามันคือส่วนหนึ่งของเรา
ขอโทษตัวเองที่คิดทำร้ายตัวเอง
เเละปล่อยปะละเลย ตัวเราจนเป็นมาได้ขนาดนี้

ต่อไปนี้เราจะเริ่มใหม่ทุกวันไปด้วยกัน

ผมต้องพูดในใจย้ำๆว่าถ้าขนาดตัวเราเป็นของตัวเราเองยังให้กำลังใจตัวเองไม่ได้เลย เเล้วคนอื่นจะให้เราได้ยังไง


ผมเริ่มฝืนตัวเองให้กินอาหาร
เเละออกกำลังกาย
เเละเริ่มปรึกษาจิตเเพทย์ เเผนทางเลือกที่ไม่ใช้ยาในการรักษา เเต่เป็นการใช้ดนตรีเเทน
เป็นเพลงบรรเลง ของ  วง 2cello ที่เป็นคอนเซิท
เวลาฝังให้ทำหัวว่างๆ เเล้วถ้าอยากร้องให้หรือตะโกน
กรี๊ดร้อง ให้ทำออกมาเลย ในห้องปิด

หลังจากนั้นอาการของผมเริ่มดีขึ้น
ผมเเสบผิวเเละอ้วกน้อยลง เเพนิคน้อยลง
ผมทำติดต่อกัน เกือบ 6 เดือน
จนตอนนี้ผมหายเเล้ว เเพคนิคล่าสุดก็ตอนเเมวตาย

วันที่หายก็เหมือนทุกวัน สมองเราค่อยๆปรับตัว
จนวันนึงมันหายไปโดยไม่รู้ตัว

ผมไม่มีคำเเนะนำให้คุณเเบบตายตัว

เเต่ผมคิดว่าอาจจะมีประโยชน์จากประสบการณ์ของผมตรงนี้ที่ไปปรับใช้ได้

เเฟนผมทุกวันนี้เเต่งงานกันเเล้ว หลังจากผ่านโรคนี้มาด้วยกัน เเต่ผมบอกได้เลยว่า เขาไม่เคยเข้าใจถึงโรคที่ผมเป็น หรือความทุกข์ที่ผมเจอ เพราะเเม้เเต่ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจ เเละ ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปเข้าใจมันด้วย
เเค่ยอมรับมันให้ได้

ผมไม่ได้หายด้วยการที่เเฟนผมอยู่ข้างๆ
เเต่ผมหายเพราะผมเลือกที่อยากจะหายมากกว่า
อยากที่จะตาย


ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะปรับใช้ยังไงกับเเฟนคุณก็ลองเอาสิ่งที่ผมเจอให้เขาอ่านดูครับ

ปล.ที่บ้านผมพ่อเเม่ผมไม่รู้ว่าผมป่วย
ซึ่งในทางหนึ่งผมเริ่มป่วยหลังจากโดนเขา
กดดันจนระเบิด
ออกมา เเล้วผมก็ไม่ปกติอีกเลย เเฟนก็อยู่ในเหตุการณ์
ที่คิดว่าน่าจะเขาใจ เเต่เขาก็ไม่เข้าใจ
ผมคิดว่ามนุษย์ มีลิมิตในการทำความเข้าใจตัวคนอื่น
ยังไงคนอื่นก็คือคนอื่นครับ

ต้องรักตัวเองให้มากกว่าที่คนอื่นรักเรานะครับ
ความคิดเห็นที่ 34
คนไม่เป็นซึมเศร้าก็มีอาการนี้ได้ค่ะ
เขาเรียกอาการเอาแต่ใจ
ความคิดเห็นที่ 23
เราไม่เข้าใจจขกท หรือเราเป็นพวกinsensitive 555
เราไม่ยอมโดนลากลงนรกทั้งเป็นด้วยหรอก
เราคงปล่อยเขาตาย
ถ้าไม่มีเราแล้วมันอยู่ไม่ได้ก็ตายเถอะ ไปตายไกลๆ ดีไม่ดีจะสะกดวิญญาณมันด้วย กันมาขี่คอแบบในหนัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่