สารานุกรมปืนตอนที่ 398 รุ่นทดลองและหายากของปืนพก Tokarev

โตกาเรฟ หรือ ที-ที (ที-ที ย่อมาจาก ทูล่า,โตกาเรฟ,Tula Tokarev) เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติของสหภาพโซเวียตออกแบบโดยเฟดอร์ โตกาเรฟ ในปี ค.ศ. 1930 เพื่อใช้เป็นปืนพกประจำการของกองทัพโซเวียตแทนปืนลูกโม่ นากองท์ เอ็ม1895 ปืนชนิดนี้เข้าประจำการในกองทัพโซเวียตจนถึงปี ค.ศ. 1952 ก็ถูกแทนที่ด้วยปืนพกมาคารอฟแต่ก็ยังคงใช้ในกองทัพแดงจนกระทั่งปี ค.ศ. 1960 และยังถูกใช้ประจำการในหน่วยตำรวจโซเวียตอีกด้วย



Tokarev TT-33 ขนาดกระสุน 7.62×25 mm. Tokarev บรรจุกระสุน 8+1 นัด
 
ปืนชนิดนี้มีหลายรุ่น แต่รุ่นที่นิยมใช้กันก็คือ ทีที-33 (อังกฤษ: TT-33) และเป็นปืนที่ประจำการในประเทศกลุ่มตะวันออกในช่วงสงครามเย็น และยังถูกนำไปผลิตใหม่ในหลายประเทศ เช่น จีน ผลิตปืนในรูปแบบนี้โดยใช้ชื่อรุ่นว่า ปืนพกแบบ 54 (อังกฤษ: Type 54) ผลิตโดยบริษัท Norinco นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆ อีกมากที่ผลิตปืนลักษณะนี้เช่น โปแลนด์ โรมาเนีย ยูโกสโลวาเกีย ฯลฯ



Fedor Vasilievich Tokarev (1871-1968)

"โตกาเรฟ" ถูกออกแบบโดยเฟดอร์ โตกาเรฟ (Fedor Tokarev) ในปื ค.ศ. 1930 โดยพัฒนาจากศึกษาปืนพกหลายชนิดจากต่างประเทศอย่างเยอรมันคือเมาเซอร์ ซี96 (Mauser C96) ทำให้ได้กระสุนแบบ 7.62×25 mm. Tokarev ที่มีพลังหยุดยั้งที่น่าพอใจจากนั้นนำระบบปฏิบัติการจากปืน FN Model 1903 และ M1911 มาสร้างปืนรุ่นต้นแบบระหว่างนี้ก็ยังถูกทางการโซเวียตติเตียนตักเตือนในเรื่องความไม่สมบูรณ์หลายครั้งจึงต้องออกแบบใหม่อีกหลายครั้งเช่นกันจนกระทั่งได้รุ่นที่สมบูรณ์ที่สุดคือ ทีที-33 ซึ่งเป็นรุ่นที่นิยมใช้กันมากที่สุดต่อมาในช่วงทศวรรษ 1950 สหภาพโซเวียตได้ให้กรรมสิทธิ์การผลิตปืนชนิดนี้ให้ประเทศในกลุ่มวอร์ซอแพ็ค (Warsaw pact) ในบทนี้จะพาไปรู้จักกับรุ่นทดลองหายากและรุ่นพิเศษของปืนพกโตกาเรฟ
 
. Tokarev รุ่นทดลองบรรจุด้วยซองกระสุนแบบแถวคู่



เปรียบเทียบกับรุ่นมาตรฐาน
 
ถึงแม้ว่าปืนโตกาเรฟจะได้เข้าประจำการเป็นปืนพกมาตรฐานของกองทัพโซเวียตแต่ระหว่างกลางทศวรรษที่ 1930 ก็มีการรายงานจากมีเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่ใช้มันว่ามีข้อเสียที่เห็นได้ชัดจากการที่ลำกล้องของมันอยู่ในสไลด์ของตัวปืนทำให้พลประจำรถถังไม่สามารถยื่นลำกล้องของปืนออกไปนอกรถถังเพื่อยิงข้าศึกที่เข้ามาประชิดจนอาจทำให้รถถังอยู่ในอันตรายที่จะถูกโจมตีด้วยระเบิดขวดหรืออาวุธต่อต้านรถถังชนิดอื่นๆที่ทหารราบของข้าศึกจะนำมาใช้ทำลายรถถัง ทหารมักจะเผลอกดปุ่มปลดซองกระสุนโดยไม่ต้องตั้งใจที่เกิดจากการออกแบบให้ปุ่มปลดซองกระสุนอยู่ใกล้นิ้วโป้งอีกข้อเสียอีกอย่างหนึ่งที่ถูกรายงานมาก็คือความจุของซองกระสุนเพียง 8+1 นัดถูกมองว่าน้อยเกินไปจากปัญหาทั้ง 3 ข้อนี้ทำให้ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 ก็นำไปสู่การตั้งโครงการจัดหาอาวุธปืนพกชนิดใหม่มาแทนที่ปืนโตกาเรฟซึ่งผลที่ได้คือปืนพกรุ่นใหม่ที่ออกแบบโดย P. V. Voevodin มีความจุกระสุนอยู่ที่ 9 นัดและรุ่นต่อมาก็พัฒนาเป็น 18 นัดปืนพกของ Voevodin ได้รับการผลิตออกมาแล้วจำนวนหนึ่งและมีอยู่หนึ่งกระบอกที่ถูกผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่โจเซฟ สตาลิน แต่แล้วเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นขึ้นมีความเป็นไปได้อย่างมากที่สหภาพโซเวียตจะถูกเยอรมันรุกราน (ถึงแม้ว่าจะมีการทำสนธิสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างโซเวียต-เยอรมันนีก็ตาม) ทำให้การผลิตปืนพกของ Voevodin ถูกระงับลงทำให้ปืนพกโตกาเรฟยังคงเป็นปืนพกมาตรฐานของกองทัพโซเวียตจนถึงปี ค.ศ. 1952



ปืนพกของ P. V. Voevodin



รายงานปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้จากพลประจำรถถังกลายเป็นจริงในสงครามฤดูหนาวเมื่อทหารฟินแลนด์นำระเบิดขวดมาใช้กับรถถังของกองทัพโซเวียต
 
ภายหลังภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง Georgiy Sevryugin ได้นำปืนโตกาเรฟมาทำการปรับปรุงโดยออกแบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาเดิมที่พบในรุ่นก่อนหน้าซองกระสุนแบบแถวเดี่ยวบรรจุ 8 นัดถูกแทนที่ด้วยซองกระสุนแบบแถวคู่ความจุ 15 นัดปุ่มปลดซองกระสุนถูกย้ายจากบริเวณใกล้กับโกร่งไกปืนไปอยู่ตรงบริเวณด้านล่างของฐานคันยิงแทนคล้ายคลึงกับปืนพกวอลเธอร์ พี38 ของเยอรมัน ตัวต้นแบบของการปรับปรุงนี้ถูกสร้างขึ้นแต่ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1950 กองทัพโซเวียตมีความต้องการปืนพกชนิดใหม่ขึ้นเพื่อแทนที่ปืนโตกาเรฟโดยกำหนดให้มีขนาดที่เล็กลงชิ้นส่วนน้อยลงแต่ใช้กระสุนขนาด 9x18 มม มาคารอฟ ที่มีประสิทธิภาพในการหยุดยั้งเป้าหมายได้ดีและนั่นก็คือต้นกำเนิดของปืนพกมาคารอฟที่จะกลายเป็นปืนพกมาตรฐานของกองทัพสหภาพโซเวียตและในกองทัพของประเทศกลุ่มสนธิสัญญาวอร์ซออื่นๆตลอดยุคสงครามเย็น



วอลเธอร์ พี38 มีปุ่มปลดซองกระสุนอยู่ที่บริเวณด้านล่างของฐานคันยิง



ปืนมาคารอฟที่มาแทนที่ปืนโตกาเรฟ

*ต่อมาเวียดนามได้ผลิตปืนโตกาเรฟที่ใช้ซองกระสุนแบบแถวคู่ออกมาใช้งานในกองทัพของตนเองบ้างในชื่อ K14-VN ที่พัฒนาขึ้นมาจากรุ่น K54 สำเนาของโตกาเรฟซึ่งเวียดนามผลิตมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็น K14-VN สามารถบรรจุกระสุน 13+1 นัดจากที่ปืนพกโตกาเรฟโดยทั่วไปแล้วจะบรรจุกระสุนได้ 8+1 นัดยกเว้นของ M57 ยูโกสลาเวียที่บรรจุ 9+1 นัดผลิตที่ Z111 โรงงานสรรพาวุธที่รัฐบาลเวียดนามเป็นเจ้าของ K14-VN ประจำการในกองทัพเรือเวียดนามวันที่ 10 พฤษภาคมปี ค.ศ. 2014



K14-VN ขนาดกระสุน 7.62×25 mm. Tokarev บรรจุกระสุน 13+1 นัด


โตกาเรฟ ทีที-33 เป็นหนึ่งในปืนพกคลาสสิคจากตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ที่ยังคงได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันนี้จากความเรียบง่ายของชิ้นส่วนและระบบกลไกราคาต่อกระบอกที่ถูกทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนซื้อที่มีงบน้อยถึงปานกลาง



 
        https://www.thefirearmblog.com/blog/2018/04/03/experimental-tokarev-pistol-with-a-double-stack-magazine/
 
        https://modernfirearms.net/en/handguns/handguns-en/vietnam-semi-automatic-pistols/k14-vn-eng/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่