สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้ผมจะมารีวิว เกจวัดลมยาง Michelin MN-4205 แบบสั้นๆนะครับ พอได้ของมา ก็เลยเอาไปทดลองใช้ที่รถ และลองใช้เทียบกับเกจอันเก่าๆที่ผมมี หน้าตาเกจของมิชลินเป็นแบบนี้ครับ..

เกจวัดลมยาง Michelin MN-4205


ก่อนหน้านี้ผมใช้เกจแบบเข็มธรรมดา ยี่ห้อ Morton ใช้มาหลายปีแล้วครับ ตัวนี้หาซื้อได้ตาม Lotus, Big C อันละร้อยกว่าบาท ซึ่งผมมักจะวัดลมยางประมาณ1-2 สัปดาห์ครั้ง ก็ใช้งานทนทานดี อาจจะมีข้อเสียบ้างตรงที่วัดแล้วอ่านค่ายากเพราะขีดช่องมันเล็กถี่มาก ยิ่งเวลาวัดตอนกลางคืนต้องเอาไฟฉายมือถือส่องดีๆถึงจะมองเห็นครับ ข้อเสียอีกเรื่อง บางทีวัด 2 ครั้งได้ค่าไม่ตรงกัน เพราะตอนกดลงไปมันแฉลบนิดนึง มีลมรั่ว หรือลมที่ดันไม่ได้ตรงเกจแบบพอดีค่าก็จะผิดไปหน่อยๆ เพราะฉะนั้นเวลาวัดแต่ละครั้งผมจะวัดประมาณ 3 ครั้ง ถ้าค่าตรงกันทั้ง 3 ครั้ง หรือไม่ตรงอยู่ครั้งนึง ผมก็จะเชื่อค่าที่วัดได้ 2 ครั้งที่ตรงกันครับ แต่อย่างที่บอก ทั้ง 3 ครั้งต้องตั้งใจกดให้มันตรงๆหน่อย ไม่งั้นเพี้ยนแน่นอน ซึ่งบางทีล้อมันหมุนจุ๊บลมไปอยู่ในองศาที่กดยาก มันก็ต้องทำสมาธิเล็งอยู่แปปนึงถึงจะกดได้ตรงครับ..
 
เกจวัดลมยางแบบเข็ม Morton


แต่ก็มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งแรก เมื่อเช้าวันหนึ่งก่อนออกจากบ้าน ผมวัดลมยางแล้วเหลือเพียง 20+ ปอนด์ (ปกติผมจะเติมประมาณ 32 ปอนด์) หลังจากเอาไปเช็คที่ร้านปะยางก็เจอว่าไปเหยียบตะปูตัวเล็กๆฝังยางมา ทำให้หลังจากนั้นผมขี้ระแวงมาก ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งจะต้องวัดลมยาง แม้เมื่อวานจะเพิ่งวัด วันนี้ก็จะวัดอีกเพื่อความสบายใจ จนผมเริ่มเบื่อหน่ายและรู้สึกเสียเวลาจริงๆ แม้มันจะใช้เวลาแค่ 1-2 นาที แต่วันไหนที่รีบ เวลา 2 นาทีมันก็มีค่านะ

ก็เลยเป็นที่มาของการซื้อ TPMS หรือที่วัดลมยางอัตโนมัติเครื่องนี้ครับ ราคาอันแรกซื้อมา 950 บาท ส่วนอันนี้เป็นอันที่ 2 แล้ว ได้มาในราคา 650 บาท ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีครับ ผมไม่ต้องคอยมาวัดลมยางทุกครั้งก่อนออก และเท่าที่ผมลองวัดลมยางเทียบกับเกจเข็มหลายๆครั้ง ค่าก็ค่อนข้างตรงกัน +-1 ส่วนข้อเสียเท่าที่เจอคือ อันแรกซื้อมาแล้วค่าอุณภูมิล้อหน้าซ้ายไม่ตรง คือต่างจากตัวอื่นๆถึง 10 องศาครับ แต่อันที่สองนี้เหมือนจะปกติดีครับ ข้อเสียที่สองคือถ่านหมดไว (ถ่านอยู่ที่จุ๊บลมแต่ละอัน) ใช้ได้ประมาณ 2-3 เดือนต้องเปลี่ยนครั้งนึงครับ เบอร์ก็หายาก เจอล่าสุดที่ถูกสุด ก้อนละ 40 ที่บิ๊กซี รัชดา ..

เกจวัดลมยางอัตโนมัติ (TPMS)


จนล่าสุด เกิดกิเลสอยากได้ที่วัดที่ดูค่าง่ายๆ วัดตรงๆ วัดได้ละเอียดขึ้น (อยากได้แบบมีจุดทศนิยม) เลยถามพี่ เด็กบูรพา ท่านก็แนะนำให้ใช้ของมิชลิน เพราะแกใช้อยู่ พอผมลองติดต่อไปยังเพจของมิชลินก็ทราบว่ามีเกจวัดลมยางดิจิตอลให้เลือกอยู่ 2 รุ่น คือรุ่นที่พี่ บูรพา ใช้อยู่ 990 บาท และอีกรุ่น (ที่ผมซื้อ) 660 บาท ..



ข้อมูลเพิ่มเติม Michelin MN-4205 
(copy ข้อมูลมาจากเพจของร้านครับ)
ออกแบบใช้งานหลากหลาย ได้แก่ เกจ์วัดลมดิจิตอล, ฆ้อนนิรภัย, ไฟฉาย และคัทเตอร์ หรือใบมีดตัดเข็มขัดนิรภัย ในชิ้นเดียว
- สามารถวัดแรงดันลมในช่วง 5-99 PSI
- ความเที่ยงตรง +/-1%, +0.5PSI
- หน่วยความละเอียดในการวัด: 0.5PSI
- ใช้แบตเตอรี่ลิเที่ยม CR2032, สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
- สามารถตั้งค่าเพื่อบันทึกความดันลมยางที่ต้องการได้
ราคา660 บาท

หลังจากสั่งแล้วและได้ของมาเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเอาไปทดลองใช้ครับ เอาไปลองวัดล้อหลังขวาก่อน..
- TPMS วัดได้ 30 psi
- เกจเข็มวัด 5 ครั้ง ได้ 31 psi 4 ครั้ง, และได้ 30 psi 1 ครั้ง (นี่ขนาดบรรจงกดดีๆแล้วนะ ยังมีปลิ้นไปครั้งนึงครับ)
- เกจมิชลินวัด 5 ครั้ง ได้ 30.0 ทั้ง 5 ครั้งครับ


หลังจากนั้นก็ลองวัดล้ออื่นๆ แต่เทียบแค่ 2 ตัวคือ tpms เทียบกับ เกจวัดของมิชลิน ครับ ไม่ได้ใช้เกจเข็มวัดแล้ว

จะเห็นได้ว่าตัวเกจ tpms กับเกจมิชลิน จะวัดค่าได้ไกล้เคียงกันแต่ไม่เท่ากันเป๊ะๆ จะคลาดเคลื่อนต่างกันอย่างมาก 1 psi ครับ ซึ่งผมว่ามันก็โอเคนะ ใช้ tpms วัดแบบหยาบๆแต่ real-time สามารถร้องเตือนเมื่อลมยางต่ำกว่าที่ตั้งไว้ (ค่าเริ่มต้นคือ 27 psi) หรือสูงกว่าที่ตั้งไว้ (ค่าเริ่มต้นคือ 42 psi) และเมื่อความร้อนสูงเกินค่าที่ตั้งไว้ได้ด้วยครับ ส่วนเกจมิชลินก็เอาไว้วัดและปล่อยลมยางแบบละเอียดครับ

สรุปผลการทดลอง
1. เกจดิจิตอลของ Michelin
ข้อดี
- วัดได้ง่าย ค่าไม่เพี้ยน วัดได้ละเอียดระดับทศนิยม .5
- มองเห็นค่าชัดเจน ตัวเลขใหญ่ มีแสงสว่าง มองกลางคืนก็อ่านง่าย
- เอนกประสงค์ มีไฟฉาย มีที่ตัดสายเบลท์ไว้เผื่อเหตุเฉินฉุกเฉิน
ข้อเสีย
- ราคาแพง
- ต้องเปลี่ยนถ่านถ้าถ่านหมด (พี่บูรพาใช้มา 2 ปีแล้วถ่านยังไม่หมด)

2. เกจเข็มของ Morton
ข้อดี
- ราคาถูก และไม่ต้องใช้ถ่าน
- ทนทาน ใช้มาน่าจะ 5 ปีแล้วยังไม่พัง และยังไม่เพี้ยน
ข้อเสีย
- วัดค่ายาก กดวัดเอียงแค่นิดเดียวคือค่าผิด ต้องวัดใหม่
- อ่านค่าค่อนข้างยาก กลางคืนอ่านค่ายากมาก
- ค่าไม่ตรงเสียทีเดียว เพี้ยนประมาณ +-1

3. เกจอัตโนมัติ TPMS
ข้อดี
- ไม่ต้องเสียเวลาวัดลมยางเอง สามารถดูค่าทั้งลมยางและอุณหภูมิได้ตลอดเมื่อขับรถ
- สามารถตั้งให้ร้องเตือนได้ เมื่อลมยางต่ำเกินไป สูงเกินไป และอุณหภูมิยางสูงเกินไป
ข้อเสีย
- ราคาแพง
- วัดค่าได้หยาบ และมีความเพี้ยน +-1
- ไม่ค่อยทนทาน และต้องเปลี่ยนถ่านที่จุ๊บลมทุก 2-3 เดือน

ที่วัดลมยางแต่ละตัวก็มีข้อดีและข้อเสียนะครับ ชอบตัวไหนก็สามารถเลือกใช้ได้ตามที่ต้องการครับ สุดท้ายนี้ หวังว่าสิ่งที่ผมรีวิวจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ ถ้ามีสิ่งใดผิดพลาด หรือใช้คำผิด ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่น้อด้วยครับ ..

ฝากกดไลค์เป็นกำลังใจ และติดตามผลงานได้ที่เพจ Need For Slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน ครับ​:
https://www.facebook.com/Needforslow247/