นี่เป็นกะทู้แรกที่เราเข้ามาเขียนในพันทิป จริงๆแอบส่งอยู่หลายปีแล้ว แล้วรู้สึกว่าตัวเองอยากเป็นคนแชร์ประสบการณ์ในนี้บ้าง ในนี้คือมีแทบทุกเรื่องที่เราสนใจเลย วันนี้เราลองมารีวิวชีวิตตัวเอง ตอนนี้เราอายุ 25 ปี ใกล้จะ 26 ปีแล้ว ในช่วงปลายมิถุนา
เรารู้สึกว่าชีวิตตัวเองช่วงอายุนี้คือ สุดโต่งมาก ทั้งเรื่องดีและไม่ดี และยังมีหลายเรื่องที่ยังสับสนวุ่นวาย
จุดเปลี่ยนไปในทางที่ดี
- เราได้ซื้อที่ดินเป็นชื่อของตัวเองครั้งแรกในชีวิตจำนวน 9 ไร่ กว่าๆ อันนี้ดีใจมาก รู้สึกว่าทำได้ไงฟระ อย่าเพิ่งคิดว่ารวยนะ ยังจ้าแต่อีกไม่นานต้องรวยแน่ๆ โฟกัสๆ มีแฟนคอยสนับสนุนด้วย ช่วยกันเก็บเงิน
- แฟนเรา(คนออสเตรเลีย) คุกเข่าขอเราแต่งงานในวัดพระอินทร์แปลง นครพนม หลังจากตกลงคบกันได้ 2 ปีเต็ม เขิลลลลมากตอนนั้น รู้สึกเหมือนอยู่ในหนัง ตลกดี มีความขอในวัด น่ารักดี ตอนแรกแฟนว่านึกว่าจะขอริมทะเลภูเก็ต หรือออสเตรเลียไรงี้ เพราะปกติเราอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย แต่เรามาทำธุระและพาแฟนเที่ยวไทยด้วย และเราก็มีทริปไปภูเก็ตกัน แต่แฟนกลัวไม่มีจังหวะดีๆ เลยขอในวัดซะเลย
- ครอบครัวแฟนเอ็นดูเรามากจากที่สัมผัส ทั้งการกระทำและคำพูด ดูแลเราเหมือนลูก มีช่วงที่เรากับแฟนไม่ได้ทำงานทั้งสองคน ทางครอบครัวเค้าก็ช่วยเยอะมาก น่ารักมากๆ ครอบครัวเค้าพยายามพูดนานแล้วเป็นปีแล้วแหละ ว่าให้แต่งงานกัน ตอนแรกๆ เรากับแฟนอยู่บ้านพ่อแม่แฟน พวกเราจะกินข้าวด้วยกันเกือบทุกเย็นเลย ทุกคนคุยกันพร้อมหน้าพร้อมตา เราแอบร้องไห้เลยแรกๆ แฟนก็มาปลอบบ่อยๆ มันไม่ชิน เพราะครอบครัวเราแตกแยกมาก เราซึ้งใจและมีความสุขมาก ทำให้เราคิดถึงพ่อเรามากๆ เพราะพ่อเราเสียไปตั้งแต่เราอายุ 18 ปีได้ เราอยู่กับพ่อมาตั้งแต่เกิดจนพ่อเราเสียเลย ครอบครัวแฟนดีกับเราเสมอต้นเสมอปลายมาก
จุดเปลี่ยนไปในทางไม่ดี
- อันนี้ไม่ขอลงดีเทล เพราะมันเซนซิทีฟ ไม่อยากดราม่า ถ้าเล่าเราจะรู้สึกเศร้า หลักๆคือเรื่องครอบครัว เลยขอผ่าน
เรื่องที่รู้แต่ยังแก้ไขไม่ได้
- เราเป็นคนทำอะไรอย่างเดียวไม่ได้ ชอบทำหลายอย่าง เช่น งานก้ต้องมีหลายงาน กิจกรรมก็ต้องมีหลากหลาย เบื่อง่าย
- ไม่มีสภาพคล่องในการใช้เงิน คือ เราหาเงินมา เราก็จะมีเป้าหมายทันทีว่า เก็บเงินก้อนนี้เพื่อไปซื้อที่ดิน เก็บก้อนนี้เพื่อไปซื้อสลากออมสิน หุ้น กองทุนรวม หรืออื่นๆ กลายเป็นว่า เราเอาไปลงทุนหมด เหมือนจะดูดี แต่อยากรู้สึกว่าตัวเองรวยกว่านี้ Lol แต่หลังจากนี้ก็อยากจะเก็บเงินตั้งไว้ในบัญชีบ้างและ อยากมีเงินติดบัญชีเยอะๆบ้าง
ของเพื่อนๆเป็นยังไงกันบ้างคะ ลองมาเล่าสู่กันฟังหน่อยค่ะ
เพื่อนๆที่อายุ 25 ปี คิดว่าชีวิตตัวเองมีความเปลี่ยนแปลงกันยังไงบ้าง ของเรารู้สึกมันเปลี่ยนมาก
เรารู้สึกว่าชีวิตตัวเองช่วงอายุนี้คือ สุดโต่งมาก ทั้งเรื่องดีและไม่ดี และยังมีหลายเรื่องที่ยังสับสนวุ่นวาย
จุดเปลี่ยนไปในทางที่ดี
- เราได้ซื้อที่ดินเป็นชื่อของตัวเองครั้งแรกในชีวิตจำนวน 9 ไร่ กว่าๆ อันนี้ดีใจมาก รู้สึกว่าทำได้ไงฟระ อย่าเพิ่งคิดว่ารวยนะ ยังจ้าแต่อีกไม่นานต้องรวยแน่ๆ โฟกัสๆ มีแฟนคอยสนับสนุนด้วย ช่วยกันเก็บเงิน
- แฟนเรา(คนออสเตรเลีย) คุกเข่าขอเราแต่งงานในวัดพระอินทร์แปลง นครพนม หลังจากตกลงคบกันได้ 2 ปีเต็ม เขิลลลลมากตอนนั้น รู้สึกเหมือนอยู่ในหนัง ตลกดี มีความขอในวัด น่ารักดี ตอนแรกแฟนว่านึกว่าจะขอริมทะเลภูเก็ต หรือออสเตรเลียไรงี้ เพราะปกติเราอยู่ด้วยกันที่ออสเตรเลีย แต่เรามาทำธุระและพาแฟนเที่ยวไทยด้วย และเราก็มีทริปไปภูเก็ตกัน แต่แฟนกลัวไม่มีจังหวะดีๆ เลยขอในวัดซะเลย
- ครอบครัวแฟนเอ็นดูเรามากจากที่สัมผัส ทั้งการกระทำและคำพูด ดูแลเราเหมือนลูก มีช่วงที่เรากับแฟนไม่ได้ทำงานทั้งสองคน ทางครอบครัวเค้าก็ช่วยเยอะมาก น่ารักมากๆ ครอบครัวเค้าพยายามพูดนานแล้วเป็นปีแล้วแหละ ว่าให้แต่งงานกัน ตอนแรกๆ เรากับแฟนอยู่บ้านพ่อแม่แฟน พวกเราจะกินข้าวด้วยกันเกือบทุกเย็นเลย ทุกคนคุยกันพร้อมหน้าพร้อมตา เราแอบร้องไห้เลยแรกๆ แฟนก็มาปลอบบ่อยๆ มันไม่ชิน เพราะครอบครัวเราแตกแยกมาก เราซึ้งใจและมีความสุขมาก ทำให้เราคิดถึงพ่อเรามากๆ เพราะพ่อเราเสียไปตั้งแต่เราอายุ 18 ปีได้ เราอยู่กับพ่อมาตั้งแต่เกิดจนพ่อเราเสียเลย ครอบครัวแฟนดีกับเราเสมอต้นเสมอปลายมาก
จุดเปลี่ยนไปในทางไม่ดี
- อันนี้ไม่ขอลงดีเทล เพราะมันเซนซิทีฟ ไม่อยากดราม่า ถ้าเล่าเราจะรู้สึกเศร้า หลักๆคือเรื่องครอบครัว เลยขอผ่าน
เรื่องที่รู้แต่ยังแก้ไขไม่ได้
- เราเป็นคนทำอะไรอย่างเดียวไม่ได้ ชอบทำหลายอย่าง เช่น งานก้ต้องมีหลายงาน กิจกรรมก็ต้องมีหลากหลาย เบื่อง่าย
- ไม่มีสภาพคล่องในการใช้เงิน คือ เราหาเงินมา เราก็จะมีเป้าหมายทันทีว่า เก็บเงินก้อนนี้เพื่อไปซื้อที่ดิน เก็บก้อนนี้เพื่อไปซื้อสลากออมสิน หุ้น กองทุนรวม หรืออื่นๆ กลายเป็นว่า เราเอาไปลงทุนหมด เหมือนจะดูดี แต่อยากรู้สึกว่าตัวเองรวยกว่านี้ Lol แต่หลังจากนี้ก็อยากจะเก็บเงินตั้งไว้ในบัญชีบ้างและ อยากมีเงินติดบัญชีเยอะๆบ้าง
ของเพื่อนๆเป็นยังไงกันบ้างคะ ลองมาเล่าสู่กันฟังหน่อยค่ะ