แปลเรื่องราวชีวิตการเป็นเด็กฝึกของค่าย SM
คำเตือน**
1.ฉันไม่สามารถเล่าได้ทุกเรื่อง ได้โปรดอย่าถามฉันเกี่ยวกับเด็กฝึกคนอื่นๆ
2.เรื่องทั้งหมดที่ฉันเล่านั้นเป็นเรื่องจริงทุกประการ
3.ฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนิทชิดเชื้อกับศิลปินท่านอื่นๆ
4.ข้อมูลทั้งหมดเป็นเรื่องราวของฉันรวมถึงความคิดและความรู้สึกต่างๆ
R.N. (น่าจะเป็นชื่อเด็กฝึกค่ะ)
เข้ามาเป็นเด็กฝึกได้ยังไง
ต้องบอกก่อนฉันไม่ใช่คนเกาหลีแต่เป็นชาวต่างชาติ 03 lineลูกครึ่งจีน-ไทย(น่าจะสัญชาติจีนเชื้อสายไทย) ฉันได้ออดิชั่นที่เอเจนซี่ชื่อดังของจีน(ทางเอเจนซี่จะเป็นคนส่งข้อมูลของเราให้กับบริษัทต่างๆในเกาหลีถ้าผ่านทางบริษัทนั้นๆจะแจ้งมาอีกที) โดยใช้vocalเป็นหลักและเต้นอีกนิดหน่อย(ฉันเต้นได้นิดเดียว)ในการออดิชั่นถัดจากวันนั้นไม่นานทางsmก็ได้ติดต่อมาหาฉันพร้อมบอกกับฉันว่าพวกเขาสนใจในการแสดงของฉันอยากให้ฉันลองไปออดิชั่นแบบเต็มดู ฉันตกลงและเดินทางไปเกาหลี *ทริคออดิชั่น3รอบ*
ฉันเข้าsmตอนต้นปี2015 และตัดสินใจออกจากค่ายตอนต้นปี2020
การฝึกเป็นอย่างไรบ้าง
ในความคิดของฉัน sm เปรียบเสมือนผู้ปกครองที่เคร่งครัดในกฏระเบียดของลูกๆ และเหมือนผู้ปกครอบที่โหดๆบังคับให้ลูกเรียนพิเศษทุกวันหลังจากเลิกเรียน การฝึกซ้อมจะขึ้นอยู่กับรายบุคคล ถ้าคุณเรียนอยู่ต้องซ้อม 7 ชม.ขึ้นไป และถ้าคุณไม่ได้เรียนต้องซ้อม12ชม.ขึ้นไป
เราเรียนตั้งแต่การร้องเพลงเบื้องต้น การเต้นเบื้องต้น(ถ้าผ่านการเรียนคลาสเบื้องต้นแล้วสามารถเลือนการเรียนเต้นแบบอื้นๆได้) การแสดงเบื้องต้น มารยาท การยืนและการเดินต่างๆ ทักษะวาไรตี้ รีแอคชั่น ภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่นและเกาหลีสำหรับชาวต่างชาติ(การเรียนต่างๆทางค่ายเป็นคนจ่ายให้) ฝึกแยกชาย-หญิง ถามว่าเคยเห็นหน้ากันมั้ย ต้องเคยอยู่แล้ว เช่น เจอกันหน้าห้องซ้อม เจอกันหน้าตึก เจอตอนพัก "ค่ายไม่ได้กีดกันขนาดนั้น"
และอีกอย่าง sm ไม่มีการคัดเด็กออก มันขึ้นอยู่กับความอดทนถ้าทนไม่ได้คุณก็ออก
ชีวิตการเป็นอยู่
การเป็นอยู่ไม่มีอะไรมาก มีหอเด็กต่างชาติ(แยกต่างชาติกับเกาหลีอย่างชัดเจน) หอไม่ได้ดี?แต่ก็ไม่ได้ลำบากเช่นเดียวกัน มีรูมเมท ฉันอยู่ร่วมกับรูมเมทชาวจีน2คนและชาวมาเลเซียอีก1คน ทั้งหมดสามารถพูดจีนได้เราจึงสื่อสารกันรู้เรื่อง
เด็กฝึกส่วนมากมักจะเป็นไทป์เดียวกัน พวกเราเรียกมันว่าไทป์"กวางน้อย" และดูมีภาพลักษณ์ไอดอลจ๋า(ประมาณว่าดูเข้าถึงยาก) ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง การโดดเด่นมันไม่ใช่เรื่องง่ายคุณต้องเก่ง หรือไม่ก็น่าตาดี พวกเธอเป็นเหมือนกวางน้อยจริงๆ ดูสดใสและสบายตามีเสน่ห์ มองเพลินไม่มีเบื่อ
เมื่อคุณเข้าฝึกคลาสแรกแน่นอนต้องมีการแนะนำตัว แต่หลังจากนั้นคุณก็จะเข้าสู่โหมดฝึกอย่างโดดเดี่ยว(ถ้าหากคุณเป็นคนไม่กล้าทักใครก่อนแบบฉัน)แต่หลังจากนั้นก็จะมีคนเข้ามาทักคุณเรื่อยๆและดูเหมือนว่าเด็กเกาหลีจะตื่นเต้นกับชาวต่างชาติมากเป็นพิเศษ อาหารจะมีพี่เมเนเจอร์เอามาให้(คำเตือน*กับพี่เมเนพยายามทำตัวดีๆเข้าไว้ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองน่าเอ็นดูที่สุด) อีกเรื่องปกติของเด็กฝึกsm คือการส่งเด็กและการเบนสาย โดยการส่งเด็กจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้และคุณไม่มีทางเลือก โดยค่ายที่ส่งไปมักจะเป็นค่ายที่sm มีหุ้นอยู่ ส่วนการเบนสายมักมาจากการที่เด็กฝึกคนนั้นกำลังจะออกจากค่ายแต่ทางsmเห็นแววในด่านต่างๆ เช่นการแสดงจะส่งไป Keyeast และ esteem
ออกจากค่ายเพราะอะไร
ง่ายๆสั้นๆได้ใจความค่ะ รู้สึกสภาพจิตใจไม่เหมือนเดิม หมดความอดทนและไม่มีหวัง ความกดดันต่างๆถ่าโถ่มประดาประดังเข้ามาไม่มีหยุดเด็กฝึกหลายคนเริ่นเป็นโรคซึมเศร้า คนภายนอกมักคิดแค่ว่า เธอสวยจัง เธอน่ารักมาก เธอดูสดใสจริงๆ แท้จริงแล้วมันแค่เปลือกนอกที่จอมปลอม พวกเราเหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวไปตามกาลเวลาแต่smก็เปรียบเสมือนคนดูแลสวนที่พ้นยาเพื่อไม่ให้ดอกไม้ในสวนของตนเองเหี่ยวเฉา เด็กฝึกหลายๆคนคิดว่าพวกเราเอาชีวิตมาจมอยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้วมันคุ้มไหมที่เราจะอยู่ ทุกวันนี้ฉันซึมเศร้าขึ้นทุกวันๆถ้าฉันไม่ไหวจนปลิดชีวิตตัวเองหละ? ใครจะรับผิดชอบฉัน คำตอบก็คือไม่มี เราเลยตัดสิดใจออกจากค่ายค่ะ
เล่นโซเซียลไม่ได้จริงหรือ?
โซเซียลต่างๆจะถูกลบไปตั้งแต่ตอนที่เราจรดปากกาเซ็นสัญญาแล้วค่ะ แต่ถามว่ายังมีคนเล่นมั้ย? ตอบได้เลยค่ะว่ามีแน่นอน แต่พวกเขาจะสร้างเป็นแอคไม่ระบุตัวตน เอาไว้ตามข่าวสารเฉยๆ
มีวิธีหาแอคของเด็กฝึกมั้ย?
มีค่ะ ทริคเล็กน้อยๆคือ ถ้าคุณหาแอคเด็กฝึกคนนึงเจอนั้นเท่ากับว่าคุณได้ค้นพบเด็กฝึกเกือบครึ่งค่ายค่ะ เมื่อคุณกดไปที่รายชื่อฟอลโลว๋ แต่คงยากหน่อยเพราะพวกเรารู้จักการล็อคแอค
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พวกเรามักไม่ใส่รูปหน้าปกและตั้งชื่อยาก
อย่างสุดท้าย
เป็นของฝากจากฉัน
เข้าอีกคน ออกอีกคน นั้นเป็นเรื่องจริง
ไม่ว่าตอนเข้าคุณจะอ้วน ผิวสี หรืออะไรก็แล้วแต่
SM สามารถเปลี่ยนคุณได้
การเป็นเด็กฝึกของ SM Entertainment