เวทีประกวดหนุ่มสาวแพรว คือการจัดการประกวดเพื่อเฟ้นหาหนุ่มสาวหน้าตามาดท่าทางดีเพื่อมาประดับวงการถ่ายแบบของทางนิตยสารแพรว จัดการประกวดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2527 จุดเริ่มต้นของการประกวดหนุ่มสาวแพรวเริ่มต้นมาจากความคิดของคุณชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ เจ้าของอมรินทร์ และ คุณสุภาวดี โกมารทัต บอกอ.แพรว ณ ขณะนั้น ที่ต้องการเฟ้นหาหนุ่มสาวมาประดับวงการ โดยคุณสุภาวดีได้พบเห็นนิตยสารวัยรุ่นเมืองนอกประกาศรับสมัครนายแบบ นางแบบ เวทีประกวดหนุ่มสาวแพรวจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา แต่ทว่าเนื่องจากคุณชูเกียรติเป็นคนทำใหญ่ทำจริง เวทีประกวดหนุ่มสาวแพรวจึงออกมาอย่างใหญ่โตฟู้ฟ่า

เมื่อประกาศรับสมัครออกไป ปรากฏว่าผลตอบรับที่ได้รับเหนือคาดเป็นอย่างยิ่ง มีหนุ่มสาวผู้มั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตนเอง ส่งใบสมัครเข้ามาอย่างมากมายระดับหลักพัน หลักหมื่นทั้งที่เป็นการจัดประกวดครั้งแรกเสียด้วยซ้ำ จนในที่สุดทางแพรวก็ได้หนุ่มสาวแพรวคนแรกของเวที ณ ปี 2527 นั่นคือ "คุณมารุต ยวงสุวรรณ" และ "คุณเพ็ญประภา บุนนาค" หลังการประกวดหนุ่มสาวแพรวครั้งแรกได้รับการตอบรับจากหนุ่มสาวเป็นอย่างดี ส่งผลให้มีการประกวดครั้งอื่นตามมาอีกมากมาย

เวทีหนุ่มสาวแพรวเปรียบเสมือนกับพรมที่ปูเส้นทางไปสู่ถนนสายบันเทิง ซึ่งเป็นความฝันใฝ่ของบรรดาหนุ่มสาวทั้งหลาย ส่งผลให้มีหนุ่มสาวหน้าตาดีจากทั่วทุกสารทิศแห่แหนเข้ามาประกวดเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในเวทีหนุ่มสาวแพรว เพราะนอกจากตำแหน่งหนุ่มสาวแพรวที่ติดตัวผู้เข้าประกวดไปเฉกเช่นอีกหนึ่งนามสกุลที่คอยการันตีถึงความไม่ธรรมดาสามัญ

หนุ่มสาวแพรวจะได้รับการฝึกฝนบุคลิกภาพ การเดิน การถ่ายแบบ รู้จักมุมหน้าของตนเอง เพื่อนำไปใช้สำหรับการเป็นนายแบบนางแบบในอนาคต โดยหนุ่มสาวแพรวส่วนใหญ่จะเริ่มต้นวงการบันเทิงจากการถ่ายแบบลงปกแพรวสุดสัปดาห์ หรือการถ่ายแบบแฟชั่นภายในเล่มของแพรวหรือแพรวสุดสัปดาห์

มีหนุ่มสาวแพรวมากมายที่เมื่อจบจากการประกวดไปแล้วได้ต่อยอดวงการบันเทิงทางด้านอื่น ๆ อาทิเช่น คุณจุ๋ม แสงระวี 1 ใน 10 สาวแพรวปี 2529 ที่ข้ามมาคว้าตำแหน่งมิสไทยแลนด์เวิล์ดในปีเดียวกันไปครอง , คุณหน่อย บุษกร เมื่อได้รับตำแหน่งสาวแพรว ไม่นานนักเธอก็ได้รับเลือกเป็นสาวเชคของทางเนสกาแฟเชค ฯลฯ

หลังประกวดกันมาได้หลายปีพอสมควรปี 2533 "คุณหนุ่ม อภิวัฒน์ ยศประพันธ์" ได้เข้ามาดูแลการประกวดเต็มตัว จากที่เมื่อก่อนจะให้หนุ่มสาวเป็นผู้สมัครเข้ามาเอง คุณหนุ่มได้เป็นแมวมองเฟ้นหาหนุ่มสาวท่าทางดีจากมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาเพื่อชักชวนมาประกวดหนุ่มสาวแพรว ในปีนี่หนุ่มสาวที่ได้รับตำแหน่งหนุ่มสาวแพรวไปครองคือ "พิทยา ณ ระนอง" และ "บุษกร" ซึ่งทั้งสองก็ได้โด่งดังมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ณ เวลาต่อมา

ตลอดระยะเวลาที่หนุ่มสาวแพรวจัดการประกวดขึ้นมา แพรวได้เป็นประตูดาวให้หนุ่มสาวแจ้งเกิดมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงมากมาย ตั้งแต่ อาชีพดารานักแสดง, นางแบบนายแบบ หรือแม้แต่กระทั่งผู้ประกาศข่าว หนุ่มสาวแพรวเปรียบเสมือนเวทีให้หนุ่มสาวผู้มีความฝันและความสามารถเจิดจรัสท่ามกลางถนนสายมายา ทว่าความเป็นหนุ่มสาวแพรวที่แสดงถึงความไม่ธรรมดาสามัญของบุคคลนั้น ๆ ส่งผลให้หนุ่มสาวแพรวหลายคนค่อนข้างมีกรอบในการปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียต่อสถาบัน อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร หนุ่มแพรวประจำปี 2535 เคยกล่าวไว้ว่า หลังจากที่เขาได้รับตำแหน่งเป็นหนุ่มแพรว เมื่อถึงคราวสอบเข้ามหาลัยทำให้ตนรู้สึกกดดันและตั้งใจมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีตำแหน่งหนุ่มแพรวประจำปีต่อท้าย หรืออย่างพอล ภัทรพลที่ถือว่าแพรวคือสถาบันและอีกหนึ่งตัวแปรที่ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังมีอย่างทุกวันนี้

หลังจากจากการประกวดมาได้กว่า 18 ปี ด้วยเหตุผลและปัจจัยหลายอย่าง ส่งผลให้หนุ่มสาวแพรวจำเป็นต้องยุติการประกวดลงครั้งสุดท้ายในปี 2545 ถือเป็นการปิดประวัติศาสตร์ตำนานเวทีประกวดดาวรุ่งอีกเวทีของเมืองไทย

หนุ่มสาวแพรวมิใช่เพียงแค่เวทีประกวดเพื่อแจ้งเกิดในวงการบันเทิง แต่แพรวคือประตูสู่ความเจิดจรัส เสมือนสถาบันของก้อนดินก้อนน้อย ๆ ก่อนถูกขัดเกลาจนสามารถไต่ระดับไปถึงจุดที่เรียกได้ว่าดวงดารา

ด้วยรักรำลึกเป็นอย่างยิ่งที่สุด.

สวัสดี.