ตอนนี้ พรรคอนาคตใหม่ ถูกยุบพรรคไปแล้ว
ธนาธร ปิยะบุตร ช่อพรรณิกา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไป 10 ปีเลย 😱
แต่ตอนนี้ก็มีพรรคใหม่กำเนิดขึ้นมาแล้ว คือ พรรคก้าวไกล ซึ่งมี สส.หลายคนจากพรรคอนาคตใหม่ ย้ายไปอยู่พรรคก้าวไกลก็เยอะ
เลือกตั้ง62
คะแนนเสียงของแต่ละพรรค
- พรรคพลังประชารัฐ ประมาณ 8,430,000
- พรรคเพื่อไทย ประมาณ 7,920,000
- พรรคอนาคตใหม่ ประมาณ 6,265,000
- พรรคประชาธิปัตย์ ประมาณ 3,947,000
คนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่คือคนที่เกิดในยุค เบบี้บูม
ซึ่งไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมกระแสอนาคตใหม่ในโลกออนไลน์ถึงเป็นที่นิยมมาก แต่เลือกตั้งที่ผ่านมากลับคะแนนเสียงน้อยกว่าซะงั้น
เพราะจำนวนคนที่เกิดในยุคเบบี้บูมมีสัดส่วนเยอะกว่าคนที่เกิดในยุค GenY นั่นเอง
และเลือกตั้งที่ผ่านมา คนที่กาเลือกพรรคอนาคตใหม่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่เกิดในยุค GenY
หรือคนที่อายุ 18-30 ปี
กระแสพรรคในเครือนี้ ส่วนใหญ่เด็กวัยรุ่นแทบทุกคนชอบ ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2566 ก็จะมีเด็กวัยรุ่นครบ อายุ 18 ปีขึ้น ถึง4ปี
เลือกตั้ง66 ครั้งหน้า
คนที่กาเลือกพรรคก้าวไกล ก็จะเป็นคนที่ช่วงอายุ 18-35 ปี และก็อาจจะมีคนที่เคยกาพรรคอื่นตอนเลือกตั้ง62 หรือตอนเลือกตั้ง62 อาจจะไม่ได้ไปเลือกตั้ง ก็จะหันมาสนใจพรรคนี้และเลือกกา พรรคก้าวไกล ก็เป็นไปได้
เช่น
บางคนที่เคยกาเลือกพลังประชารัฐตอนเลือกตั้ง62 ก็อาจจะเปลี่ยนใจมากาเลือกพรรคก้าวไกลในเลือกตั้ง66
บางคนที่เคยกาเลือกเพื่อไทยตอนเลือกตั้ง62 ก็อาจจะเปลี่ยนใจมาเลือกพรรคก้าวไกลในเลือกตั้ง66
บางคนที่ไม่เคยมาลงคะแนนเสียงตอนเลือกตั้ง62 ก็จะหันมากาคะแนนเสียงเลือกตั้งแบะกาพรรคก้าวไกลในเลือกตั้ง66 อีก
ผมเองยังคาดคะเนว่า เลือกตั้งปี 66 พรรคก้าวไกลอาจมีคะแนนเสียงมากถึง 9-10 ล้านเสียง
และจะชนะการเลือกตั้งนี้
เพราะอะไรผมถึงคาดคะเนว่า พรรคก้าวไกล จะชนะการเลือกตั้งในครั้งหน้า
เพราะเดิมเลือกตั้ง62 ที่ผ่านมา ก็มีคนเลือกพรรคอนาคตใหม่ไป ถึง 6,265,000 เสียง
และก็ต้องบวกเพิ่มกับคนที่ได้อายุ 18 ปีขึ้นไปอีก 4 ปี และมีสิทธิ์เลือกตั้งอีก
ซึ่งเป็นคนที่เกิดในปี พ.ศ.2544-2547 อีก
ปี 2566 ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ “พรรคก้าวไกล” มีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้ง
ธนาธร ปิยะบุตร ช่อพรรณิกา ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไป 10 ปีเลย 😱
แต่ตอนนี้ก็มีพรรคใหม่กำเนิดขึ้นมาแล้ว คือ พรรคก้าวไกล ซึ่งมี สส.หลายคนจากพรรคอนาคตใหม่ ย้ายไปอยู่พรรคก้าวไกลก็เยอะ
เลือกตั้ง62
คะแนนเสียงของแต่ละพรรค
- พรรคพลังประชารัฐ ประมาณ 8,430,000
- พรรคเพื่อไทย ประมาณ 7,920,000
- พรรคอนาคตใหม่ ประมาณ 6,265,000
- พรรคประชาธิปัตย์ ประมาณ 3,947,000
คนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่คือคนที่เกิดในยุค เบบี้บูม
ซึ่งไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมกระแสอนาคตใหม่ในโลกออนไลน์ถึงเป็นที่นิยมมาก แต่เลือกตั้งที่ผ่านมากลับคะแนนเสียงน้อยกว่าซะงั้น
เพราะจำนวนคนที่เกิดในยุคเบบี้บูมมีสัดส่วนเยอะกว่าคนที่เกิดในยุค GenY นั่นเอง
และเลือกตั้งที่ผ่านมา คนที่กาเลือกพรรคอนาคตใหม่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่เกิดในยุค GenY
หรือคนที่อายุ 18-30 ปี
กระแสพรรคในเครือนี้ ส่วนใหญ่เด็กวัยรุ่นแทบทุกคนชอบ ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2566 ก็จะมีเด็กวัยรุ่นครบ อายุ 18 ปีขึ้น ถึง4ปี
เลือกตั้ง66 ครั้งหน้า
คนที่กาเลือกพรรคก้าวไกล ก็จะเป็นคนที่ช่วงอายุ 18-35 ปี และก็อาจจะมีคนที่เคยกาพรรคอื่นตอนเลือกตั้ง62 หรือตอนเลือกตั้ง62 อาจจะไม่ได้ไปเลือกตั้ง ก็จะหันมาสนใจพรรคนี้และเลือกกา พรรคก้าวไกล ก็เป็นไปได้
เช่น
บางคนที่เคยกาเลือกพลังประชารัฐตอนเลือกตั้ง62 ก็อาจจะเปลี่ยนใจมากาเลือกพรรคก้าวไกลในเลือกตั้ง66
บางคนที่เคยกาเลือกเพื่อไทยตอนเลือกตั้ง62 ก็อาจจะเปลี่ยนใจมาเลือกพรรคก้าวไกลในเลือกตั้ง66
บางคนที่ไม่เคยมาลงคะแนนเสียงตอนเลือกตั้ง62 ก็จะหันมากาคะแนนเสียงเลือกตั้งแบะกาพรรคก้าวไกลในเลือกตั้ง66 อีก
ผมเองยังคาดคะเนว่า เลือกตั้งปี 66 พรรคก้าวไกลอาจมีคะแนนเสียงมากถึง 9-10 ล้านเสียง
และจะชนะการเลือกตั้งนี้
เพราะอะไรผมถึงคาดคะเนว่า พรรคก้าวไกล จะชนะการเลือกตั้งในครั้งหน้า
เพราะเดิมเลือกตั้ง62 ที่ผ่านมา ก็มีคนเลือกพรรคอนาคตใหม่ไป ถึง 6,265,000 เสียง
และก็ต้องบวกเพิ่มกับคนที่ได้อายุ 18 ปีขึ้นไปอีก 4 ปี และมีสิทธิ์เลือกตั้งอีก
ซึ่งเป็นคนที่เกิดในปี พ.ศ.2544-2547 อีก