หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เด็กจบใหม่ก็กำลังก้าวเข้าสู่โลกการทำงาน ซึ่งมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าเมื่อจะเริ่มหางาน สมัครงาน และสัมภาษณ์งานต้องทำอะไรบ้าง วันนี้ JobThai Tips เลยนำแนวทางการเตรียมตัวสู่โลกการทำงานสำหรับเด็กจบใหม่มาฝากกัน
หาตัวเองให้เจอ
บางคนไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร บางคนก็ชอบมันไปเสียทุกอย่าง สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนที่จะสมัครงานก็คือ เราต้องคิดว่างานไหนที่เหมาะสมกับเรา งานไหนที่ทำแล้วมีความสุข และงานไหนที่เรามีความสามารถพอที่จะทำมันได้ เพราะว่าเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับงานนั้นอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เมื่อเจอแล้วก็หาข้อมูลเกี่ยวกับสายอาชีพนั้น ๆ เพื่อจะวางแผนการทำงานในสายอาชีพได้อย่างเหมาะสม
ทำเรซูเม่ให้โดดเด่น เข้าใจง่าย
แต่ละวันมีเรซูเม่ส่งถึง HR มากมาย การทำดีไซน์เรซูเม่ให้โดดเด่นจะช่วยให้ HR ให้ความสนใจ แต่ไม่ใช่แค่ดีไซน์สวยงามเท่านั้น สิ่งสำคัญในการเขียนเรซูเม่คือเนื้อหาต้องไม่ยาวจนเกินไป กระชับ และเข้าใจง่าย ส่วนที่เขียนเรื่องทักษะความสามารถควรนำเสนอทักษะที่โดดเด่น่ตรงกับที่บอกไว้ประกาศงานระบุไว้ และเมื่อทำเรซูเม่เสร็จแล้วก็อย่าเพิ่งรีบร้อนส่ง อ่านทบทวนและตรวจสอบความถูกต้องให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลต่าง ๆ หรือการสะกดคำ และไวยากรณ์ ความผิดพลาดแค่จุดเล็ก ๆ ที่เราไม่สนใจ อาจจะส่งผลต่อโอกาสการถูกเรียกไปสัมภาษณ์และการได้งานของเราเลย
เทคนิคการเขียนเรซูเม่
สัมภาษณ์งาน
การเตรียมตัวสัมภาษณ์งานหลาย ๆ คนมักจะชะล่าใจไม่ให้ความสำคัญ แต่การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสัมภาษณ์งานนอกจากจะเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองได้แล้วยังทำให้มีโอกาสได้งานมากกว่าคนอื่นด้วย อย่าทำให้เรซูเม่ดี ๆ สูญเปล่า
- ศึกษาข้อมูลบริษัทที่จะสมัคร และหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งงานก่อนการสัมภาษณ์ทุกครั้ง
- เตรียมคำถามที่ต้องการถามบริษัทเอาไว้ เช่น คำถามที่เกี่ยวข้องกับการทำงานหรือบริษัท
- ฟังคำถามจากผู้สัมภาษณ์ให้ครบถ้วน ตอบคำถามทุกอย่างอย่างจริงใจและมีเหตุผลสนับสนุนเสมอ
- อย่าพูดถึงจุดด้อยของตัวเองมากเกินจำเป็น หากจำเป็นต้องพูดให้อธิบายเพิ่มเติมว่าจะพัฒนาและแก้ไขอย่างไร
- อย่าพูดโกหก หรือตอบรับว่าทำได้ทุกอย่างทั้งที่ไม่สามารถทำได้ ควรให้เหตุผลไปตามความจริง เพราะการโกหกอาจจะทำความน่าเชื่อถือทั้งหมดของเราหมดไปได้
เทคนิคการสัมภาษณ์งาน
แน่นอนว่าทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ระหว่างทางเราอาจต้องเจอกับอุปสรรคที่อาจส่งผลกับแผนต่าง ๆ ที่เราวางไว้ ก็ไม่เป็นไร เราสามารถปรับเปลี่ยนแผนการให้เป็นไปตามความเหมาะสมได้ พยายามอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป คอยกระตุ้นตัวเองอยู่เสมอ และไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
เรียนจบแล้วต้องทำอะไรต่อ ?
หาตัวเองให้เจอ
บางคนไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร บางคนก็ชอบมันไปเสียทุกอย่าง สิ่งแรกที่ต้องทำก่อนที่จะสมัครงานก็คือ เราต้องคิดว่างานไหนที่เหมาะสมกับเรา งานไหนที่ทำแล้วมีความสุข และงานไหนที่เรามีความสามารถพอที่จะทำมันได้ เพราะว่าเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับงานนั้นอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เมื่อเจอแล้วก็หาข้อมูลเกี่ยวกับสายอาชีพนั้น ๆ เพื่อจะวางแผนการทำงานในสายอาชีพได้อย่างเหมาะสม
ทำเรซูเม่ให้โดดเด่น เข้าใจง่าย
แต่ละวันมีเรซูเม่ส่งถึง HR มากมาย การทำดีไซน์เรซูเม่ให้โดดเด่นจะช่วยให้ HR ให้ความสนใจ แต่ไม่ใช่แค่ดีไซน์สวยงามเท่านั้น สิ่งสำคัญในการเขียนเรซูเม่คือเนื้อหาต้องไม่ยาวจนเกินไป กระชับ และเข้าใจง่าย ส่วนที่เขียนเรื่องทักษะความสามารถควรนำเสนอทักษะที่โดดเด่น่ตรงกับที่บอกไว้ประกาศงานระบุไว้ และเมื่อทำเรซูเม่เสร็จแล้วก็อย่าเพิ่งรีบร้อนส่ง อ่านทบทวนและตรวจสอบความถูกต้องให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลต่าง ๆ หรือการสะกดคำ และไวยากรณ์ ความผิดพลาดแค่จุดเล็ก ๆ ที่เราไม่สนใจ อาจจะส่งผลต่อโอกาสการถูกเรียกไปสัมภาษณ์และการได้งานของเราเลย
เทคนิคการเขียนเรซูเม่
สัมภาษณ์งาน
การเตรียมตัวสัมภาษณ์งานหลาย ๆ คนมักจะชะล่าใจไม่ให้ความสำคัญ แต่การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสัมภาษณ์งานนอกจากจะเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเองได้แล้วยังทำให้มีโอกาสได้งานมากกว่าคนอื่นด้วย อย่าทำให้เรซูเม่ดี ๆ สูญเปล่า
- ศึกษาข้อมูลบริษัทที่จะสมัคร และหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งงานก่อนการสัมภาษณ์ทุกครั้ง
- เตรียมคำถามที่ต้องการถามบริษัทเอาไว้ เช่น คำถามที่เกี่ยวข้องกับการทำงานหรือบริษัท
- ฟังคำถามจากผู้สัมภาษณ์ให้ครบถ้วน ตอบคำถามทุกอย่างอย่างจริงใจและมีเหตุผลสนับสนุนเสมอ
- อย่าพูดถึงจุดด้อยของตัวเองมากเกินจำเป็น หากจำเป็นต้องพูดให้อธิบายเพิ่มเติมว่าจะพัฒนาและแก้ไขอย่างไร
- อย่าพูดโกหก หรือตอบรับว่าทำได้ทุกอย่างทั้งที่ไม่สามารถทำได้ ควรให้เหตุผลไปตามความจริง เพราะการโกหกอาจจะทำความน่าเชื่อถือทั้งหมดของเราหมดไปได้
เทคนิคการสัมภาษณ์งาน
แน่นอนว่าทุกอย่างไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ระหว่างทางเราอาจต้องเจอกับอุปสรรคที่อาจส่งผลกับแผนต่าง ๆ ที่เราวางไว้ ก็ไม่เป็นไร เราสามารถปรับเปลี่ยนแผนการให้เป็นไปตามความเหมาะสมได้ พยายามอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป คอยกระตุ้นตัวเองอยู่เสมอ และไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ