365: Repeat the Year “ขอให้คุณมีชีวิตที่ยืนยาว”
ซีรีส์สืบสวน แฟนตาซี ข้ามเวลา กับคำถามที่ว่า ถ้าสามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีต มนุษย์จะสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองได้ไหม? แม้จะเป็นแค่การย้อนเวลากลับไปในอดีตได้แค่ปีเดียวแต่เราสามารถนำเอาความทรงจำติดตัวกลับไปได้ อดีตที่เคยผิดพลาด ความเจ็บปวดที่เคยพานพบ ถ้าเราสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันได้ เราจะ Reset อดีตเหล่านั้นให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้หรือไม่?
กลุ่มคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย 11 คนถูกเรียกมารวมตัวกันที่คลินิกจีอันเพื่อทำการย้อนเวลา (Reset) กลับไปในปี 2019 โดยการนำของจิตแพทย์ที่ชื่ออีชิน ทุกคนล้วนมีเรื่องที่เคยทำผิดพลาดและต้องการกลับไปแก้ไข
จีฮยองจูตำรวจสายสืบที่จมอยู่กับความเศร้าโศกหลังจากสูญเสียรุ่นพี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ในการทำงาน และเขาโทษว่ามันเป็นความผิดของตัวเอง ฮยองจูตัดสินใจย้อนเวลากลับไปช่วยชีวิตรุ่นพี่
ชินกาฮยอนนักวาดเว็บตูนชื่อดังที่ต้องการย้อนเวลากลับไปเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุซึ่งทำให้ตัวเองต้องพิการ และเพื่อตามหาสุนัขสุดรัก มารู ที่หายตัวไปในวันเดียวกับที่เธอประสบอุบัติเหตุ
ทั้งหมด Reset กลับไปในปี 2019 ฮยองจูสามารถช่วยชีวิตคู่หูไว้ได้สำเร็จ ส่วนกาฮยอนก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง แม้จะน่าเหลือเชื่อแต่มันก็สมบูรณ์แบบและเป็นไปอย่างที่ต้องการ สมาชิกส่วนใหญ่เริ่มทำความรู้จักและสนิทสนมกันมากขึ้น แล้วฮยองจูก็ได้รู้ความจริงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือนักวาดเว็บตูนชื่อดังที่ตัวเองติ่งอยู่นั้นคือชินกาฮยอน และกาฮยอนยังเป็นเจ้าของมารูสุนัขที่ตัวเองเคยช่วยเหลือและเลี้ยงดูไว้ตั้งแต่ก่อนการรีเซต
กาฮยอนสามารถเลี่ยงอุบัติเหตุได้สำเร็จแต่อุบัติเหตุแบบเดียวกันก็ยังเกิดขึ้นในสถานที่เดิม เวลาเดิม แต่คนที่ประสบอุบัติเหตุกลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอเอง อุบัติเหตุนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนของโชคชะตา กลุ่มคนที่รีเซตมาพร้อมกันเริ่มตายไปทีละคน กาฮยอนตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในการตายของสมาชิกคนหนึ่ง และฮยองจูพบว่าสมาชิกคนหนึ่งตามถ่ายรูปคนอื่นๆ ทำให้เขาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะสืบเรื่องทั้งหมด ฮยองจูขอให้กาฮยอนเป็นพาร์ทเนอร์ เมื่อเริ่มสืบก็พบกับหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้ทั้งคู่เชื่อว่ามีใครบางคนอยู่เบื้องหลังการตายของสมาชิกทั้งหมด
ภาพรวมของซีรีส์อยู่ที่การช่วยกันตามสืบหาตัวฆาตกรของฮยองจูกับกาฮยอน เพราะยิ่งสืบความจริงหลายอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏออกมา ตัวละครทุกตัวมีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีทั้งคนที่พูดความจริง คนที่พูดโกหก คนที่ทำตัวน่าสงสัย คนที่ทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ยิ่งความจริงปรากฏมากขึ้นเท่าไหร่ความหวาดระแวงก็ยิ่งกัดกินใจคนที่ยังมีชีวิต จิตแพทย์อีชินคือผู้อยู่เบื้องหลังการจัดฉากครั้งใหญ่ ฆาตกรที่แท้จริงคือใคร ซีรีส์ดึงความสนใจของเราไว้กับการค้นหาความจริง กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและปล่อยให้เราคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าใครคือฆาตกรที่แท้จริง หลอกให้เราเชื่อแล้วก็ตลบหลังอย่างเจ็บแสบกับตัวตนที่แท้จริงของฆาตกร
ซีรีส์ไล่เรียงไทม์ไลน์ได้ดี การตัดฉากระหว่างความจริงกับการหลอกลวงก็ทำได้ดีมากชนิดที่เมื่อถึงคราวเฉลยความจริงก็ทำให้เราช็อคได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ผกก.ทำงานละเอียดมาก แทบไม่มีข้อผิดพลาดเลย(หรือถ้ามีเราก็ยังหาไม่เจอ)แม้ว่าจะเป็นการตามสืบแค่คดีเดียวและไม่ใช่คดีที่ซับซ้อน แต่ความสนุกไม่ได้ด้อยไปกว่าซีรีส์สืบสวนเรื่องอื่นเลย ส่วนตัวกลับมองว่านี่เป็นจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ซะด้วยซ้ำ วิธีเล่าเรื่องแบบง่ายๆ ทำให้ซีรีส์เดินเรื่องอย่างรวดเร็ว กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ ไม่ออกทะเล แถมยังมีครบทุกรส ทั้งดราม่า คอเมดี้ แฟนตาซี ทริลเลอร์ รวมไปถึงเลิฟไลน์ที่แสนจะหอมกรุ่นละมุนละไม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือจุดสำคัญที่ทำให้เราหลงรักซีรีส์เรื่องนี้
จีฮยองจูตำรวจสายสืบที่ขอยกให้เป็นพระเอกสายสืบที่น่ารักและละมุนที่สุด ตัวละครฮยองจูแม้จะเปิดเรื่องมาด้วยความมืดหม่นแต่ในความจริงแล้วเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี รักพวกพ้อง เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน มีทั้งความเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาได้และความเป็นเด็ก ซึ่งจุดนี้ทำให้ฮยองจูกลายเป็นคนที่น่ารักเต็มไปด้วยเสน่ห์ บรรยากาศก็อบอุ่นน่าเข้าใกล้ เป็นพระเอกที่สุภาพและอยู่กับร่องกับรอยมากถึงมากที่สุด ไม่เหวี่ยง ไม่หัวร้อน ไม่คุกคาม แต่พยายามทำความเข้าใจกับทุกสิ่งอย่างอดทน จุนฮยอกรับบทฮยองจูได้น่าชื่นชมมากกก เสน่ห์แพรวพราว ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นผู้ชายเต็มตัวแต่พอยิ้มก็ทำให้โลกสว่างสดใสดวงตาเป็นประกาย หลายฉากที่แอบมองนางเอกแล้วยิ้มด้วยความเอ็นดูปนขำก็ทำให้เราใจเหลว โอ้โห น่ารักจนอดใจไม่หลงรักไม่ได้เลย
ชินกาฮยอนนักวาดเว็บตูนชื่อดังที่มีรายได้มากพอจะเลี้ยงตัวเองไปตลอดชีวิต มีบ้านเป็นของตัวเอง (บ้านสวยมากกกก) ฉลาดเฉลียว เข้มแข็ง ช่วยเหลือตัวเองได้ดี มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แรกๆ เลยดูเหมือนคนเย็นชาแต่จริงๆ แล้วเป็นคนอ่อนโยน นัมจียอนให้สัมภาษณ์ไว้ว่ากาฮยอนเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการโดดเด่นมาก บทของเธอค่อยๆ เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงต้น ส่วนผกก.คุณคิมคยองฮี (เรื่องนี้เป็นทั้งผกก.และคนเขียนบท) ก็บอกว่าตัวละครชินกาฮยอนเธอตั้งใจให้เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่เข้มแข็งและเสียสละ เธอยังบอกด้วยว่าอยากให้ผู้หญิงดูละครแล้วคิดถึงตรงจุดนี้ เป็นอีกจุดที่พอรู้แล้วก็ยิ่งประทับใจกับความใส่ใจในรายละเอียด
อันที่จริงไม่ได้คาดหวังกับเลิฟไลน์เลยเพราะชินกับเลิฟไลน์เบาบางไปจนถึงไม่มีเลยในซีรีส์สืบสวน แต่เรื่องนี้กลับผิดคาด เราได้อะไรจากความสัมพันธ์ของฮยองจูกาฮยอนเยอะมาก จริงอยู่ว่าเลิฟไลน์ระหว่างพระนางไม่ได้หวานแหววหวือหวาแต่มันก็ชัดเจนจนสามารถดึงอารมณ์มืดหม่นของซีรีส์ให้กลับมาสดใสได้ในจังหวะที่พอดิบพอดี
Less is more น่าจะเป็นคำจำกัดความระหว่างฮยองจูกับกาฮยอนได้ดีที่สุด ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากการเป็นคนแปลกหน้า กลายเป็นนักเขียนกับแฟนคลับ พัฒนาเป็นพาร์ทเนอร์ เป็นเพื่อน เป็นคนที่ยอมตายแทนได้ เป็นคนที่เราจะย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยชีวิต ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คือการเติมความผูกพันลงไปทีละเล็กละน้อย มันคือความไว้เนื้อเชื่อใจที่พัฒนามาจากคำว่ามิตรภาพ นับถือกันและกัน แม้จะสนิทกันมากขึ้นแต่ก็ยังคงเป็น “กาฮยอนชี่” กับ “ฮยองจูชี่” เสมอ ทั้งสองคนไม่เคยทะเลาะ ไม่เคยขึ้นเสียงใส่กัน ไม่มีเวลาสำหรับการเข้าใจผิด ซึ่งเรามองว่าเป็นจุดเล็กๆ ที่น่ารักและเป็นเอกลักษณ์มากๆ ความสัมพันธ์ที่มีพื้นฐานอยู่บนความเข้าอกเข้าใจ เอื้ออาทรและก็เต็มไปด้วยความปรารถนาดีต่อกัน เวลาที่ฮยองจูกับกาฮยอนอยู่ด้วยกันบรรยากาศจะเต็มไปด้วยความอบอุ่น อ่อนโยน แล้วก็เจือด้วยความอ่อนหวาน
เราชอบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในความสัมพันธ์ของฮยองจูกาฮยอน ไม่ต้องบอกรัก ไม่มีฉากโรแมนติก แต่ทุกการกระทำสามารถรับรู้ได้ถึงความรักที่อบอุ่น ฮยองจูให้สร้อยข้อมือที่ทำจากผ้าไหมกับกาฮยอนความหมายคือ “ขอให้มีชีวิตที่ยืนยาว” แต่ของขวัญที่กาฮยอนให้ฮยองจูคือการได้มีชีวิตอยู่ต่อไป และฮยองจูก็พร้อมจะรีเซตกลับไปช่วยกาฮยอนอีกครั้งโดยไม่ลังเล ตอนจบดูเหมือนใจร้ายกับฮยองจูที่ต้องใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแบบเดิม แต่เรากลับมองว่าเป็นตอนจบที่สวยงามที่สุดเพราะนั่นคือสิ่งที่ฮยองจูเลือกแล้ว เค้าเลือกที่จะเจ็บปวดเพื่อช่วยให้กาฮยอนได้มีชีวิตอีกครั้ง อาจจะน่าเสียดายที่กาฮยอนจำทุกเรื่องราวของฮยองจูไม่ได้ แต่สำหรับฮยองจูคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เรามีโอกาสได้กลับไปช่วยชีวิตคู่หูคนสำคัญและได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ไม่ว่าจะรีเซตใหม่อีกสิบหรือร้อยครั้งแต่โชคชะตาของทั้งคู่ถูกกำหนดไว้ให้วนกลับมาเจอกันเสมอ เพราะสิ่งที่เราเลือกทำในวันนี้คือสิ่งที่กำหนดโชคชะตาของวันพรุ่งนี้
น่าเสียดายที่กระแสของซีรีส์ดูเหมือนจะเงียบๆ ทั้งในเกาหลีและในไทย เราดูจบแล้วประทับใจมากจนต้องย้อนกลับไปดูรอบสอง สำหรับตอนนี้ขอยกให้เป็นซีรีส์แห่งปีไปก่อนเลย อยากหาคนคุยด้วยแต่ก็หายากจังเลยตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ ใครดูจบแล้วคิดเห็นยังไงบ้าง มาแชร์กันค่ะ
(สปอยล์) ชวนคุยและบอกเล่าความประทับใจที่มีต่อ 365: Repeat the Year ซีรีส์สืบสวนรสชาติกลมกล่อมเลิฟไลน์หอมกรุ่น
365: Repeat the Year “ขอให้คุณมีชีวิตที่ยืนยาว”
ซีรีส์สืบสวน แฟนตาซี ข้ามเวลา กับคำถามที่ว่า ถ้าสามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปในอดีต มนุษย์จะสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองได้ไหม? แม้จะเป็นแค่การย้อนเวลากลับไปในอดีตได้แค่ปีเดียวแต่เราสามารถนำเอาความทรงจำติดตัวกลับไปได้ อดีตที่เคยผิดพลาด ความเจ็บปวดที่เคยพานพบ ถ้าเราสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันได้ เราจะ Reset อดีตเหล่านั้นให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้หรือไม่?
กลุ่มคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย 11 คนถูกเรียกมารวมตัวกันที่คลินิกจีอันเพื่อทำการย้อนเวลา (Reset) กลับไปในปี 2019 โดยการนำของจิตแพทย์ที่ชื่ออีชิน ทุกคนล้วนมีเรื่องที่เคยทำผิดพลาดและต้องการกลับไปแก้ไข
จีฮยองจูตำรวจสายสืบที่จมอยู่กับความเศร้าโศกหลังจากสูญเสียรุ่นพี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์ในการทำงาน และเขาโทษว่ามันเป็นความผิดของตัวเอง ฮยองจูตัดสินใจย้อนเวลากลับไปช่วยชีวิตรุ่นพี่
ชินกาฮยอนนักวาดเว็บตูนชื่อดังที่ต้องการย้อนเวลากลับไปเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุซึ่งทำให้ตัวเองต้องพิการ และเพื่อตามหาสุนัขสุดรัก มารู ที่หายตัวไปในวันเดียวกับที่เธอประสบอุบัติเหตุ
ทั้งหมด Reset กลับไปในปี 2019 ฮยองจูสามารถช่วยชีวิตคู่หูไว้ได้สำเร็จ ส่วนกาฮยอนก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง แม้จะน่าเหลือเชื่อแต่มันก็สมบูรณ์แบบและเป็นไปอย่างที่ต้องการ สมาชิกส่วนใหญ่เริ่มทำความรู้จักและสนิทสนมกันมากขึ้น แล้วฮยองจูก็ได้รู้ความจริงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง นั่นคือนักวาดเว็บตูนชื่อดังที่ตัวเองติ่งอยู่นั้นคือชินกาฮยอน และกาฮยอนยังเป็นเจ้าของมารูสุนัขที่ตัวเองเคยช่วยเหลือและเลี้ยงดูไว้ตั้งแต่ก่อนการรีเซต
กาฮยอนสามารถเลี่ยงอุบัติเหตุได้สำเร็จแต่อุบัติเหตุแบบเดียวกันก็ยังเกิดขึ้นในสถานที่เดิม เวลาเดิม แต่คนที่ประสบอุบัติเหตุกลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอเอง อุบัติเหตุนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนของโชคชะตา กลุ่มคนที่รีเซตมาพร้อมกันเริ่มตายไปทีละคน กาฮยอนตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในการตายของสมาชิกคนหนึ่ง และฮยองจูพบว่าสมาชิกคนหนึ่งตามถ่ายรูปคนอื่นๆ ทำให้เขาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะสืบเรื่องทั้งหมด ฮยองจูขอให้กาฮยอนเป็นพาร์ทเนอร์ เมื่อเริ่มสืบก็พบกับหลักฐานหลายอย่างที่ทำให้ทั้งคู่เชื่อว่ามีใครบางคนอยู่เบื้องหลังการตายของสมาชิกทั้งหมด
ภาพรวมของซีรีส์อยู่ที่การช่วยกันตามสืบหาตัวฆาตกรของฮยองจูกับกาฮยอน เพราะยิ่งสืบความจริงหลายอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏออกมา ตัวละครทุกตัวมีเบื้องลึกเบื้องหลัง มีทั้งคนที่พูดความจริง คนที่พูดโกหก คนที่ทำตัวน่าสงสัย คนที่ทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ยิ่งความจริงปรากฏมากขึ้นเท่าไหร่ความหวาดระแวงก็ยิ่งกัดกินใจคนที่ยังมีชีวิต จิตแพทย์อีชินคือผู้อยู่เบื้องหลังการจัดฉากครั้งใหญ่ ฆาตกรที่แท้จริงคือใคร ซีรีส์ดึงความสนใจของเราไว้กับการค้นหาความจริง กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นและปล่อยให้เราคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าใครคือฆาตกรที่แท้จริง หลอกให้เราเชื่อแล้วก็ตลบหลังอย่างเจ็บแสบกับตัวตนที่แท้จริงของฆาตกร
ซีรีส์ไล่เรียงไทม์ไลน์ได้ดี การตัดฉากระหว่างความจริงกับการหลอกลวงก็ทำได้ดีมากชนิดที่เมื่อถึงคราวเฉลยความจริงก็ทำให้เราช็อคได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ผกก.ทำงานละเอียดมาก แทบไม่มีข้อผิดพลาดเลย(หรือถ้ามีเราก็ยังหาไม่เจอ)แม้ว่าจะเป็นการตามสืบแค่คดีเดียวและไม่ใช่คดีที่ซับซ้อน แต่ความสนุกไม่ได้ด้อยไปกว่าซีรีส์สืบสวนเรื่องอื่นเลย ส่วนตัวกลับมองว่านี่เป็นจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ซะด้วยซ้ำ วิธีเล่าเรื่องแบบง่ายๆ ทำให้ซีรีส์เดินเรื่องอย่างรวดเร็ว กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ ไม่ออกทะเล แถมยังมีครบทุกรส ทั้งดราม่า คอเมดี้ แฟนตาซี ทริลเลอร์ รวมไปถึงเลิฟไลน์ที่แสนจะหอมกรุ่นละมุนละไม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือจุดสำคัญที่ทำให้เราหลงรักซีรีส์เรื่องนี้
จีฮยองจูตำรวจสายสืบที่ขอยกให้เป็นพระเอกสายสืบที่น่ารักและละมุนที่สุด ตัวละครฮยองจูแม้จะเปิดเรื่องมาด้วยความมืดหม่นแต่ในความจริงแล้วเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี รักพวกพ้อง เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน มีทั้งความเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาได้และความเป็นเด็ก ซึ่งจุดนี้ทำให้ฮยองจูกลายเป็นคนที่น่ารักเต็มไปด้วยเสน่ห์ บรรยากาศก็อบอุ่นน่าเข้าใกล้ เป็นพระเอกที่สุภาพและอยู่กับร่องกับรอยมากถึงมากที่สุด ไม่เหวี่ยง ไม่หัวร้อน ไม่คุกคาม แต่พยายามทำความเข้าใจกับทุกสิ่งอย่างอดทน จุนฮยอกรับบทฮยองจูได้น่าชื่นชมมากกก เสน่ห์แพรวพราว ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นผู้ชายเต็มตัวแต่พอยิ้มก็ทำให้โลกสว่างสดใสดวงตาเป็นประกาย หลายฉากที่แอบมองนางเอกแล้วยิ้มด้วยความเอ็นดูปนขำก็ทำให้เราใจเหลว โอ้โห น่ารักจนอดใจไม่หลงรักไม่ได้เลย
ชินกาฮยอนนักวาดเว็บตูนชื่อดังที่มีรายได้มากพอจะเลี้ยงตัวเองไปตลอดชีวิต มีบ้านเป็นของตัวเอง (บ้านสวยมากกกก) ฉลาดเฉลียว เข้มแข็ง ช่วยเหลือตัวเองได้ดี มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แรกๆ เลยดูเหมือนคนเย็นชาแต่จริงๆ แล้วเป็นคนอ่อนโยน นัมจียอนให้สัมภาษณ์ไว้ว่ากาฮยอนเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการโดดเด่นมาก บทของเธอค่อยๆ เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงต้น ส่วนผกก.คุณคิมคยองฮี (เรื่องนี้เป็นทั้งผกก.และคนเขียนบท) ก็บอกว่าตัวละครชินกาฮยอนเธอตั้งใจให้เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่เข้มแข็งและเสียสละ เธอยังบอกด้วยว่าอยากให้ผู้หญิงดูละครแล้วคิดถึงตรงจุดนี้ เป็นอีกจุดที่พอรู้แล้วก็ยิ่งประทับใจกับความใส่ใจในรายละเอียด
อันที่จริงไม่ได้คาดหวังกับเลิฟไลน์เลยเพราะชินกับเลิฟไลน์เบาบางไปจนถึงไม่มีเลยในซีรีส์สืบสวน แต่เรื่องนี้กลับผิดคาด เราได้อะไรจากความสัมพันธ์ของฮยองจูกาฮยอนเยอะมาก จริงอยู่ว่าเลิฟไลน์ระหว่างพระนางไม่ได้หวานแหววหวือหวาแต่มันก็ชัดเจนจนสามารถดึงอารมณ์มืดหม่นของซีรีส์ให้กลับมาสดใสได้ในจังหวะที่พอดิบพอดี
Less is more น่าจะเป็นคำจำกัดความระหว่างฮยองจูกับกาฮยอนได้ดีที่สุด ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากการเป็นคนแปลกหน้า กลายเป็นนักเขียนกับแฟนคลับ พัฒนาเป็นพาร์ทเนอร์ เป็นเพื่อน เป็นคนที่ยอมตายแทนได้ เป็นคนที่เราจะย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยชีวิต ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คือการเติมความผูกพันลงไปทีละเล็กละน้อย มันคือความไว้เนื้อเชื่อใจที่พัฒนามาจากคำว่ามิตรภาพ นับถือกันและกัน แม้จะสนิทกันมากขึ้นแต่ก็ยังคงเป็น “กาฮยอนชี่” กับ “ฮยองจูชี่” เสมอ ทั้งสองคนไม่เคยทะเลาะ ไม่เคยขึ้นเสียงใส่กัน ไม่มีเวลาสำหรับการเข้าใจผิด ซึ่งเรามองว่าเป็นจุดเล็กๆ ที่น่ารักและเป็นเอกลักษณ์มากๆ ความสัมพันธ์ที่มีพื้นฐานอยู่บนความเข้าอกเข้าใจ เอื้ออาทรและก็เต็มไปด้วยความปรารถนาดีต่อกัน เวลาที่ฮยองจูกับกาฮยอนอยู่ด้วยกันบรรยากาศจะเต็มไปด้วยความอบอุ่น อ่อนโยน แล้วก็เจือด้วยความอ่อนหวาน
เราชอบสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในความสัมพันธ์ของฮยองจูกาฮยอน ไม่ต้องบอกรัก ไม่มีฉากโรแมนติก แต่ทุกการกระทำสามารถรับรู้ได้ถึงความรักที่อบอุ่น ฮยองจูให้สร้อยข้อมือที่ทำจากผ้าไหมกับกาฮยอนความหมายคือ “ขอให้มีชีวิตที่ยืนยาว” แต่ของขวัญที่กาฮยอนให้ฮยองจูคือการได้มีชีวิตอยู่ต่อไป และฮยองจูก็พร้อมจะรีเซตกลับไปช่วยกาฮยอนอีกครั้งโดยไม่ลังเล ตอนจบดูเหมือนใจร้ายกับฮยองจูที่ต้องใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแบบเดิม แต่เรากลับมองว่าเป็นตอนจบที่สวยงามที่สุดเพราะนั่นคือสิ่งที่ฮยองจูเลือกแล้ว เค้าเลือกที่จะเจ็บปวดเพื่อช่วยให้กาฮยอนได้มีชีวิตอีกครั้ง อาจจะน่าเสียดายที่กาฮยอนจำทุกเรื่องราวของฮยองจูไม่ได้ แต่สำหรับฮยองจูคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เรามีโอกาสได้กลับไปช่วยชีวิตคู่หูคนสำคัญและได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ไม่ว่าจะรีเซตใหม่อีกสิบหรือร้อยครั้งแต่โชคชะตาของทั้งคู่ถูกกำหนดไว้ให้วนกลับมาเจอกันเสมอ เพราะสิ่งที่เราเลือกทำในวันนี้คือสิ่งที่กำหนดโชคชะตาของวันพรุ่งนี้
น่าเสียดายที่กระแสของซีรีส์ดูเหมือนจะเงียบๆ ทั้งในเกาหลีและในไทย เราดูจบแล้วประทับใจมากจนต้องย้อนกลับไปดูรอบสอง สำหรับตอนนี้ขอยกให้เป็นซีรีส์แห่งปีไปก่อนเลย อยากหาคนคุยด้วยแต่ก็หายากจังเลยตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ ใครดูจบแล้วคิดเห็นยังไงบ้าง มาแชร์กันค่ะ