[SR] หลงเมืองกรุงไปกับ SUNWAYFOTO GR Pro ll by CameraHIM

สวัสดีครับทุกคน กลับมาพบกับกระทู้หลงเมืองกรุงกันอีกครั้งครับ โดยรอบนี้ได้รับสนับสนุนสินค้า จากทาง CameraMarker ในส่วนของ หัวเกียร์ SUNWAYFOTO GR Pro ll ที่เป็นหัวขาตั้งกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดจากทางค่าย SUNWAYFOTO มาใช้ร่วมในการถ่าย Cityscape ในครั้งนี้ด้วย อย่ารอช้า มาดูกันเลยครับว่าของชิ้นนี้มีดีอย่างไรบ้างครับผม >///<
 
ตอนที่ได้รับแจ้งจากทาง CameraMaker มาว่ามีหัวขาตั้งกล้องรุ่นใหม่ก็สงสัยจากสินค้าตัวนี้ต่างจากของที่มีอย่างไร หน้าตาจะเป็นอย่างไร เมื่อของส่งมาถึงที่บ้าน แวปแรกที่เห็น กล่องสินค้าก็ยังดูเฉยๆ แต่พอ Unbox เท่านั้นแหล่ะครับ

ของข้างในไม่ธรรมดา Package บรรจุภัณฑ์ มีฟองน้ำกันกระแทกมา พร้อมถุงใส่หัวเกียร์ กับ ผ้าเช็คพร้อมกับประแจหกเหลี่ยม 
แต่พอหยิบตัวสินค้าขึ้นมาแล้วจะเห็นว่าตัวสินค้ากับไม่ธรรมดายิ่งกว่า

 
จากความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัส วัสดุที่ใช้ดูแข็งแรง น้ำหนัก 847 กรัม ถือว่าเหมาะมากกับการถ่าย Cityscape ไม่หนักและไม่เบาจนเกินไป เพราะการถ่ายรูป Cityscape ในหลายๆครั้งที่ผ่านมามักจะอยู่บนที่สูง หากขาตั้งเบาเกินไปจะทำให้ภาพสั่นได้ครับ เอาหัวเกียร์ตัวนี้ไปช่วยเพิ่มน้ำหนักได้เลยครับ 
ทั้งนี้ ด้วยตัวสินค้าชื่อว่าเป็นหัวเกียร์ จะมีความละเอียดในการปรับองศาได้แม่นยำมาก อีกทั้งสามารถแพนหัวได้ ทั้งด้านบนและด้านล่างสามารถตอบโจกท์การแก้ปัญหาถ่ายรูปมุมยากในบางสถานะการได้ครับ (เดี๋ยวมีรูปตอนออกถ่ายให้ดูนะครับ)
พอจับไปจับมาตัวหัวเกียร์นี้มีลูกเล่น ในการยืด Plate ออกมาซึ่งจะมีจังหวะล๊อค และบอกถึงระดับน้ำ ให้ใช้ตอนถ่ายรูปอีกครับ และด้วยความที่บางสถานะการถ่ายรูปที่ต้องใช้ความเร็วถ้ามัวแต่หมุมปรับละเอียดก็คงไม่ทันการณ์ หัวเกียร์ตัวนี้สามารถดึงคันโยกออกมาหมุนได้ เพื่อเพิ่มความเร็วในการปรับมุมกล้องครับ (อารมณ์ประมาณ ตกปลานี่แหละครับ )
ที่นี้ปกติ จขกท. เวลาจะออกไปถ่ายรูปทุกครั้ง ตอนทำการบ้านก่อนออกไปถ่าย อีกหนึ่งเรื่องที่จะคิดเสมอ คือ จะใช้หัวขาตั้งแบบไหนออกไปถ่าย ซึ่งที่มี ก็มีหลายแบบ ใช้แยกตามสถานการ ตามรูปเลยครับผม
จากตัวหัวขาตั้งที่มีปกติผมจะแยกใช้ตามสถานะการตามนี้ครับ

1.หัวบอล Manfrotto 496 RC 2 หัวขาตั้งกล้องตัวแรกที่ผมมีเลยครับ  ใช้ถ่ายทั่วไป
ข้อดี    คือ เบา ทนมาก ราคาไม่แพง 
ข้อเสีย คือ แพนไม่ได้ ทั้งบนและล่าง , ปรับละเอียดต้องค่อยๆทำ , ต้องใช้ Plate ตัวนี้ยึดติดกล้องเท่านั้น ใช้ L-Plate ติดเลย
                ไม่ได้ พักหลังๆเลยใช้เป็นหัวสำรองไปแล้ว
2.หัวบอล Hilight LH-40
ข้อดี คือ น้ำหนักเบา มีแพนด้านล่างได้ ยึดกล้องหนักๆได้ สามารถใช้ Plate แบบ Arca-Swiss หรือ L-Plate ติดที่หัวขาตั้ง
             ได้เลย ทำให้ตอนถ่ายรูปไวขึ้น ซึ่งผมใช้บ่อยมากตัวนี้ ราคาแพงกว่าตัวแรกขึ้นมาอีกหน่อยนึง มีวัดระดับน้ำให้ในตัว 
              รองรับน้ำหนักได้ 25 Kg.
ข้อเสีย คือ แพนด้านบนไม่ได้ (ต้องเปลี่ยนรุ่นเป็นรุ่นอื่นเช่น Hb-46) บางจังหวะที่ต้องค่อยๆปรับ ทำให้ยังไม่ค่อยสะดวกในบางสถานะการ
 
3.หัวเกียร์ MANFROTTO MHXPRO-3WG
ข้อดี คือ ปรับได้ละเอียดมาก น้ำหนักเบาเพียง 750 กรัม ถ่ายปรับละเอียดได้ทั้งแกน X , Y , Z  รับน้ำหนักได้ 4 Kg.
ข้อเสีย คือ หัวเกียร์ขนาดใหญ่พกลำบาก วัสดุเป็นพลาสติก ความคงทนยังสู้แบบโลหะไม่ได้ , Front Tilt ได้  -20 /+90   องศา Lateral Tilt ได้ -90 / +20 องศา ซึ่งตัวนี้หากต้องการถ่ายแนวตั้ง เลยลองใช้กับเลนส์ Tele แล้วค่อนข้างเจอปัญหาเวลาลมแรงๆบนดาดฟ้า จะต้องซื้อ Adapter หัว Arca Swiss มาแปลงติดบน Plate ของ Manfrotto อีกที ส่วนการเงย ด้วยองศาที่ไม่สูงมาก ตอนออกทริปถ่ายรูปติดจังหวะที่ทางช้างเผือกอยู่สูงมาก หัวเกียร์ตัวนี้เงยไม่ถึง ซึ่งหัวบอลจะตอบโจทก์ว่า แต่หากใช้ถ่ายเพียงสตูดิโอที่บ้าง ตัวนี้ตอบโจทก์ ในส่วนของราคจะสูงกว่า สองตัวแรกพอประมาณ
 
 
4. หัวบอล Foto-pro ตัวนี้ได้มาพร้อมขาตั้ง ตัว M-5 mini 
ข้อดี คือ เบามาก ขนาดเล็กพอรับน้ำหนักกล้อง FX + เลนส์ Wide หรือ Normal 
ข้อเสีย คือ ด้วยขนาดเล็กพอจะปรับละเอียดตอนใช้กล้อง FX แล้วทำลำบาก วัสดุธรรมดาตามราคาที่ได้มาไม่สูงมาก 
                ส่วนใหญ่ผมจะใช้กับตัว กล้องสำรองที่เป็น ML หรือวางมือถือเสียมากกว่าครับ
 
ซึ่งพอดูไปดูมาแล้ว ตัวหัวเกียร์ SUNWAYFOTO GR Pro ll ได้นำข้อดีของแต่ละตัวนำมาประกอบเป็นตัวนี้ทำให้สามารถพกตัวเดียวจบในการออกไปถ่ายรูปได้เลยครับ
ซึ่งรายละเอียดของตัวสินค้าเป็นตามนี้ครับ
  
   
- หัวบอลแบบ หัวเกียร์ ปรับได้ละเอียด
- มาพร้อม Panning Clam 2 ชุดในตัว สามารถปรับระดับแยกตัว plate และฐานได้
- เพิ่มความสะดวกในการหมุนด้วยคันโยก แบบพับเก็บได้
- น้ำหนักเบา เพียง 847 กรัม
- รับน้ำหนักได้ 4 Kg.
- มาพร้อม Camera Plate ในตัว
- แข็งแรงและมีความนิ่งในการใช้งาน 
- สำหรับช่างภาพมืออาชีพ
 
 
ที่นี้หลังการเกริ่นมาตั้งนานจากการอ่าน Spec และลองเปรียบเทียบกับของที่มีอยู่ถึงเวลาออกไปถ่ายรูปแล้ว
**หมายเหตุ ช่วงที่ถ่ายรูปเป็นช่วงเดือนธันวาคม 2562 ถึงต้นปี 2563 ที่เป็นช่วงสถานะการ Covid19 ยังไม่รุนแรง และยังไม่ได้ประกาศ พรบ.ฉุกเฉิน
 
สถานที่แรกที่ไป คือบริเวณ ช่องนนทรี มุมมหาชน สถานที่ถ่ายรูปที่เป็นมุมครูของใครหลายๆคนเลยครับ
เมื่อลองประกอบตัวหัวเกียร์เข้ากับขาตั้งกล้อง+กล้องและเลนส์เข้าไป

   
ความรู้สึกแรก คือ รับน้ำหนักกล้อง FX DSLR ได้ ดูแข็งแรง ใส่แล้วหล่อมาก ( >///< )
ในการถ่ายรูปแนว Cityscape สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องที่จะขาดไม่ได้คือเรื่อง Perspective ในการตั้งระดับน้ำที่เส้นต้องตรงในตอนถ่ายรูปจะทำให้การถ่ายรูปตึกออกมาได้ตั้งตรง หรือใกล้เคียงให้ได้มากที่สุด ซึ่งข้อนี้ GR Pro ll ทำได้ดีมาก แต่ในสถานะการจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อการถ่ายรูปในเมืองส่วนใหญ่เรามักจะเจออุปสรรค เช่น รั้วหรือกำแพง เมื่อเราต้องยื่นกล้องออกไป หรือกำแพงที่สูงมาก ทำให้ต้องเอื้อมมือในการปรับมุมกล้องเราบาก ตัว GR Pro ll ทำมาเพื่อสถานการนี้แท้ๆ 

ทดสอบการยื่นข้ามรั้ว ตามรูปนี้เลยครับ

**หมายเหตุตอนยื่นกล้องออกไปมีการประคองกล้องอยู่ตลอด

ซึ่งเมื่อเรายื่นกล้องออกไปแบบนี้อุปสรรคที่อีกอย่างซึ่งถ้าใช้หัวบอลแบบเดิมจะพาโนราม่าไม่ได้ ซึ่งการมีตัวแพนด้านบน ทำให้สะดวกจากการถ่ายรูปมุมนี้มากขึ้นครับ
Nikon D810 + Samyam 14 mm F2.8
ถ่ายระยะที่ 14 mm. F22 S1.6 Iso 31 (Low Iso) ซ้อนแสง 5 ใบ
แต่ก็อย่างที่เรารู้ๆกัน ขึ้นชื่อว่าช่องนนทรี ก็ยังมีอีกหนึ่งจุดเด่น Landmark ของในการถ่ายรูปสถานที่นี้ คือ การถ่าย Panorama ที่สถานที่นี้ แน่นอนว่า จขกท.ไม่พลาดที่จะทดสอบที่นี่แน่ๆ
       
มุมนี้ผมได้ลองถ่ายรูปมาทั้งหมด 28 รูปเพื่อมาต่อ Panorama ซึ่งตอนถ่ายรูปด้วหัวเกียร์ตัวนี้ ถือว่าง่ายมากเพราะที่หัวจะมีองศาในการปรับมุมบอก และการหมุนที่ละเอียดจึงทำให้แม่นยำมาก เมื่อนำมารวมภาพใน Program Phortoshop ได้เป็นภาพนี้ครับ
ซึ่งก็ถือว่าต่อได้สมบูรณ์มากในการนำมาใช้ตกแต่งภาพต่อครับ
 
ในการถ่ายรูปมุมนี้ผมใช้กล้อง Nikon D810 + len 16-35 F4 ซึ่งจะกว้างไม่พอในการถ่ายรูปนี้ทั้งภาพซึ่งการ
ใช้ SUNWAYFOTO Gr Pro ll เข้ามาแก้ไขปัญหาในการพาโนราม่าในกรณีนี้ ทำงานได้สะดวกมากขึ้นครับ
และที่พลาดไม่ได้ปกติทุกช่วงปลายปีบริเวณช่องนนทรีจะมีการประดับต้นคริสมาส ซึ่งถือว่าเป็นอีก 1 ไฮไลท์ ที่สวยงาม ซึ่งการถ่ายรูปนี้ก็เป็นการทดสอบข้อจำกัดในการวางกล้องมุมต่ำ ซึ่งที่ผ่านมาพอวางกล้องในลักษณ์นี้ ปัญหาเดิมที่เคยเจอคือ เมื่อได้ล๊อคกล้องบนหัวบอลเสร็จจะไปปรับมุมภาพในแต่ละครั้ง จะต้องปลดล๊อคแล้วตั้งใหม่ซึ่งไม่ค่อยสะดวกแต่พอได้มีระบบเกียร์มาเพิ่ม ทำให้สะดวกเพิ่มมากขึ้นและยังสามารถแพนได้ในมุมต่ำด้วยครับ

Nikon D810+ Samyang 14mm F2.8
ถ่ายที่ระยะ 14 mm. F13 S10” Iso 64
การทดสอบถัดไป ไม่ต้องไปไหนไกลเลยครับ หน้าบ้านตัวเอง ด้วยคำถามที่ค้างคาใจตอนที่ได้หัวเกียร์ตัวนี้มา คือ จะรับน้ำหนักได้ตาม Spec จริงหรือเปล่า จึงไปจัด เลนส์  Nikon 200 – 500 F5.6 มาประกบ D810 ในถ่ายรูปให้รู้ๆไปเลย ว่าตัวนี้ไหวไหมถ่ายรูปแล้วภาพจะเป็นอย่างไร (D810 นน. 980 กรัม + เลนส์อีก 2300 กรัม รวมเป็น 3280 กรัม )
เมื่อได้ลองนำกล้องมาวางและถ่ายรูปพระจันทร์เต็มดวงดู ตอนวางกล้องตอนแรกมีความลังเลใจว่าถ้าถ่ายรูปแล้วแหงนหน้าสูงขึ้นไปเรื่อยๆจะมีปัญหาไหมด้วยตัวกล้องและเลนส์น้ำหนักเยอะ ได้ประคองช่วงแรกๆด้วยความไม่แน่ใจ แต่พอดูสักพักตัวล๊อคไม่มีเลื่อน ล๊อคกล้องที่ Collar Ring  Len ได้อย่างแน่นหนาแม้จะแหงนขึ้นสูงจึงวางใจตัวหัวเกียร์ตัวนี้ได้ครับ
Nikon D810 + Nikon 200 – 500 F5.6
ถ่ายที่ระยะ 500 mm. Dx mode F5.6 S250 Iso 2500 + Crop
ชื่อสินค้า:   SUNWAYFOTO GR Pro ll
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่