หมายเหตุ ***คำว่า “เธอ” ก็หมายถึงพนักงานขายคนที่มาติดต่อวัดเพื่อติดตั้งอินเตอร์เน็ตทรู

สวัสดีครับ ขออนุญาตตั้งกระทู้เพื่อขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ด้วยนะครับ ผมไม่เคยตั้งกระทู้ในพันทิป และไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านกระทู้ อาจจะไม่เข้าใจหลักการในการตั้งกระทู้สักเท่าไหร่ หากมีอะไรผิดพลาด หรือว่าผมอธิบายอะไรยืดยาวไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ ขอเริ่มเรื่องเลยนะครับ

ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้มีทีมงานพนักงานขายของทรู จำนวนหลายคน เข้ามาพบเจ้าอาวาสวัด เพื่อขอติดตั้งอินเตอร์เน็ต โดยเสนอส่วนลดค่าบริการรายเดือนที่ถูกกว่าของ 3bb ที่ทางวัดใช้อยู่เกือบครึ่ง
เจ้าอาวาสแจ้งแล้วว่าปัจจุบันใช้ของ 3bb อยู่  พนักงานขายบอกว่าจะไปดำเนินการยกเลิกให้ ในการขอยกเลิกดังกล่าวทางพนักงานขายบอกว่าไม่ต้องใช้เอกสารมอบอำนาจ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนใดๆ เลย พนักงานขายจะเข้าไปทำเรื่องยกเลิกให้ด้วยตนเอง และหลังจากทำการยกเลิกแล้วเสร็จ จะเอาเอกสารหลักฐานการขอยกเลิกมาให้เจ้าอาวาสในภายหลัง
ทางเจ้าอาวาสท่านทักท้วงกลับไปว่า จะเป็นไปได้ยังไง การขอยกเลิกบริการ 3bb ไม่ต้องใช้เอกสารใดๆเลย
ทางพนักงานขายทั้งหมดต่างพูดยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าทำให้ได้ และที่ผ่านมาก็ทำการยกเลิกให้กับลูกค้าท่านอื่นๆ มาหลายรายแล้ว ทำได้แน่นอน ไม่มีปัญหา
ท่านเจ้าอาวาสจึงตอบตกลง วันรุ่งขึ้น (8 มีนาคม 2563) ทางบริษัททรูก็ส่งช่างมาติดตั้งอินเตอร์เน็ตให้ โดยถอดอุปกรณ์ของ3bb เก็บไว้ และ
ในวันเดียวกัน ผมได้เข้ามาดูแลการติดตั้งอุปกรณ์ด้วย และได้ทราบรายละเอียดจากเจ้าอาวาสว่าพนักงานขายของทรู รับอาสาจะไปดำเนินการยกเลิก3bbให้
ผมจึงโทรไปหาพนักงานขาย คนที่ให้เบอร์โทรไว้ในใบปลิว  ผมถามไปว่าจะไปยกเลิกให้ได้เมื่อไหร่ เธอตอบกลับมาว่า ภายใน 1-2 วันจะจัดการให้  และจะเอาเอกสารการยกเลิกเข้ามาให้ที่วัด และผมก็ถามย้ำไปอีกว่าการยกเลิกโดยไม่ต้องใช้เอกสารใดๆ เลย มันทำได้จริงๆเหรอ พนักงานขายคนนั้นตอบสวนมาทันทีว่าทำได้แน่นอน บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ที่ผ่านมาทำสำเร็จมาหลายรายแล้ว ไม่เคยมีใครมีปัญหาเลย น้ำเสียงดูมีความมั่นอกมั่นใจมาก 
ถึงแม้ผมจะยังแอบเถียงอยู่ในใจ ก็ไม่อยากซักถามอะไรมากไปกว่านี้ เพราะแค่ถามไปแค่นั้น พนักงานขายคนนั้นก็เริ่มทำน้ำเสียงเหมือนรำคาญ รำคาญที่เราถามซ้ำๆ เหมือนเป็นคนพูดจาไม่รู้เรื่อง
ผมจึงเสนอไปว่าให้แอดไลน์กันไว้ จะได้สะดวกในการติดต่อ และบอกพนักงานขายว่าไม่ต้องเอาเอกสารเข้ามาให้ก็ได้ เพียงแค่ส่งมาทางไลน์ เพื่อยืนยันกับเจ้าอาวาส ก็ได้แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
 ผ่านไป 3 วัน ก็ยังไม่มีความคืบหน้า และไม่ได้รับการติดต่อกลับจากพนักงานคนดังกล่าว ผมจึงโทรหาเพื่อสอบถามความคืบหน้า เธอแจ้งว่าโทรไปยกเลิกให้เรียบร้อยแล้ว อีก 1-2 วันจะเข้าไปเอาเอกสารการยกเลิกส่งมาให้ ผมถามว่านอกจากไม่ต้องใช้เอกสารแล้ว ยังสามารถโทรยกเลิกได้ด้วยเหรอ เธอบอกว่าทำได้ เดี๋ยวจะเอาเอกสารไปยืนยัน
ผมรออีก 10 กว่าวัน (22 มีนาคม 2563) ก็ยังเงียบ ไม่มีการติดต่อหรือส่งเอกสารมาให้ตามที่รับปากไว้ ผมจึงลองเอาเราเตอร์ของ 3bb มาเชื่อมต่อดู ปรากฏว่า 3bb ยังใช้งานได้ปกติ ไม่มีการปิดสัญญาณตามที่พนักงานขายของทรูบอก คราวนี้ผมเลือกที่จะโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ทรู แจ้งรายละเอียดตามที่เล่ามา ทางคอลเซ็นเตอร์แจ้งว่าจะส่งเรื่องตามงานให้ และให้รอการติดต่อกลับ อีก 1 วันถัดมา (23 มีนาคม 2563) ประมาณ 11.00 น. พนักงานขายคนนั้นก็โทรไลน์มาคุยกับผม เธอต่อว่าผม ว่าโทรร้องเรียนเธอที่คอลเซ็นเตอร์เหรอ ทำไมไม่โทรหาเธอ ผมเลยตอบไปว่าการที่ผมต้องพึ่งคอลเซ็นเตอร์ด้วยเหตุผลที่เธอไม่มีการติดต่อมาเลยตลอดระยะเวลา 10 กว่าวัน จะเรียกว่าร้องเรียนหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมก็จำเป็นต้องหาตัวช่วยเพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไข ผมพูดต่อไปอีกว่า ผมได้ทดลองเอาเราเตอร์ของ 3bb มาเชื่อมต่อดู ทำไมยังใช้งานได้ปกติ เธอตะคอกใส่ผมว่า เอาเราเตอร์มาต่อทำไม เดี๋ยว3bbมันก็จะคิดค่าใช้จ่ายนะ  ผมโต้กลับว่าถ้าไม่เอามาต่อจะรู้เหรอว่ายังเธอไม่ได้ไปยกเลิกให้ อีกอย่างการจะเอาเราเตอร์มาต่อหรือไม่ต่อ มันก็คิดค่าใช้จ่าเป็นรายเดือนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ  ตกลงเธอจะจัดการให้ตอนไหน เพราะ3bbส่งบิลเรียกเก็บมาอีกเดือนหนึ่งแล้ว  เธอขอให้ผมส่งบิลใบแจ้งค่าบริการของ 3bb ให้ทางไลน์ เพื่อจะใช้อ้างอิงคุยกับทาง3bb
จากนั้นอีก 2 วัน เธอก็ยังไม่แจ้งผลกลับ ไม่แน่ใจว่าวันที่ 24 ตอนเย็นหรือเช้าวันที่ 25 มีนาคม ผมโทรคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้ตามงานให้อีกครั้ง  เวลาประมาณ 11.00 น. เธอโทรไลน์มาหา บอกว่าเธอไปติดต่อของยกเลิกไม่ได้ เพราะติดสัญญากับ 3bb  เธอบอกให้ทางวัดไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายก่อน แล้วเธอจะไปทำเรื่องยกเลิกให้  อ่าว.......พูดมาถึงตรงนี้ ผมถามว่าทำไมทางวัดจะต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ โดยเฉพาะต้องเสียเงินที่ทาง 3bb คิดค่าบริการ ณ เวลาปัจจุบัน ไปจนถึงสิ้นปี รวมค่าอุปกรณ์อีก รวมเป็นเงินประมาณ 5,000 บาท  ก็ไหนเธอเก่ง เธอทำได้ไง
เธอเลยแนะนำใหม่ว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องยกเลิกหรอก ปล่อยไว้แบบนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก รับรองว่า 3bb ไม่ทำอะไรทางวัดหรอก ไม่ต้องไปจ่ายและก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้อง ลูกค้าหนูก็มีแบบนี้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ทุกวันนี้ก็ไม่เห็น 3bb จะฟ้องร้องอะไรเลย
อ่าว.......แสดงว่าเธอทำแบบนี้มาตลอด เพื่อให้ได้ลูกค้า เลยใช้วิธีสกปรกแบบนี้นะเหรอ ผมเลยบอกเธอไปว่า เราทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก เพราะที่นี่เป็นวัด เป็นชื่อเจ้าอาวาส ท่านจะถูกกรรมการและชาวบ้านตำหนิเอาได้  ที่ผ่านมาท่านตัดสินใจและเชื่อคำพูดคนง่ายๆ ก็เพราะไม่คิดว่าพนักงานที่มีตัวตนอ้างอิงและเป็นคนของบริษัทที่น่าเชื่อถือ ใครจะคิดว่าจะกล้ามาหลอกพระหลอกเจ้าแบบนี้ ผมบอกให้เธอทำเรื่องยกเลิกบริการทรูให้ จนกว่าทางวัดจะหมดสัญญากับ 3bb ค่อยมาคุยกันใหม่  เธอบอกขอกลับไปปรึกษาหัวหน้าก่อน
ผมให้เวลาเธออีกจนถึงวันที่ 29 มีนาคม 2563 คืนนั้นผมโทรคอลเซ็นเตอร์อีกเพื่อให้ตามความคืบหน้า เพราะก็ไม่มีการติดต่อมาอีกเลยตลอด 4-5 วันที่ผ่านมา
เช้าวันที่ 30 มีนาคม 2563 เวลา 9.40 น. เธอโทรหาผม บอกว่าจะคุยกับหัวหน้าให้ เธอบอกว่าที่ผ่านมาเธอพยายามคุยกับ 3bb ให้อยู่  ผมเลยบอกว่ามันไม่ใช่เวลานั้นแล้ว ตอนนี้ควรรีบยกเลิกของทรูเองเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ยิ่งล่าช้าก็ยิ่งมากขึ้น เธอบอกถ้าอย่างนั้นจะให้ทางหัวหน้าทำเรื่องยกเลิกทรูให้
หลังจากนั้น ผมรอจนถึงวันที่ 19 เมษายน 2563 ให้เวลาเธอทำงาน 20 วัน  ยังไม่มีความคืบหน้าและไม่ได้รับการติดต่อใดๆทั้งสิ้น ผมโทรคอลเซ็นเตอร์ทรู แจ้งปัญหาให้พนักงานตามเรื่องให้อีกครั้งและขอให้หัวหน้าทีมของพนักงานคนนี้โทรมาคุยกับผมอีกทางหนึ่งด้วย แต่ก็ยังเงียบ วันที่ 22 เมษายน 2563 ผมโทรคอลเซ็นเตอร์อีก ต่อมาวันที่ 23 เมษายน 2563 เวลา 12.29 น. เธอโทรหาผมบอกว่าเธอปรึกษาหัวหน้าแล้ว ว่าจะยกเลิกทรูให้ ผมแจ้งผ่านเธออีกครั้งว่าให้หัวหน้าเธอติดต่อมาคุยกับผมด้วย ก็ไม่มีการติดต่อกลับ
วันที่ 25 เมษายน 2563 ผมโทรคอลเซ็นเตอร์อีก คุยละเอียดยิบ คอลเซ็นเตอร์บอกจะติดตต่อกลับวันรุ่งขึ้น พอวันที่ 27 เมษายน 2563 13.32 น. กลับได้รับข้อความแจ้งว่าไม่สามารถติดต่อเบอร์โทรที่ผมให้ไว้ได้ ทั้งๆที่วันนั้นผมใช้งานโทรศัพท์ตั้งแต่เช้า ไม่มีเบอร์ของทรูโทรเข้า ไม่มี missed call ใดๆทั้งสิ้น  ผมโทรคอลเซ็นเตอร์อีก บอกว่าทำไมติดต่อไม่ได้ ให้เจ้าหน้าที่ลองโทรเข้าก็โทรได้ปกติ แต่ไม่เป็นไร ก็ยังตามกันต่อไป 
วันที่ 28 เมษายน 2563 พนักงานขายคนนั้นโทรมาหา บอกว่าคุยกับบริษัทแล้ว ไม่สามารถยกเลิกทรูได้เช่นกัน เพราะติดสัญญา 1 ปี  จึงขอให้ทางวัดโทรหาคอลเซ็นเตอร์เพื่อขอระงับสัญญาณทรูชั่วคราวไปจนกว่าจะถึงสิ้นปี เธอก็จะไปทำเรื่องยกเลิก3bb ให้ แล้วเธอก็จะกลับมาเปิดสัญญาณทรูให้ใช้ต่อ โดยระหว่างนี้เธอจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าบริการที่ผ่านมาให้ และหลังจากทางวัดโทรระงับสัญญาณกับคอลเซ็นเตอร์แล้ว ให้โทรกลับไปบอกเธอด้วย เธอจะรับผิดชอบค่าธรรมเนียมรักษาเบอร์เดือนละ 150 บาทให้  เธอย้ำว่าได้คุยกับคอลเซ็นเตอร์และบริษัทเรียบร้อยแล้ว ผมจำได้ว่าหากจะทำการขอระงับสัญญาณหรือทำธุรกรรมใดๆ โดยปกติต้องเคลียร์ยอดเป็นศูนย์ก่อน แต่ไม่ได้ซักถามอะไรมาก ยึดคำพูดของเธอเป็นสำคัญ เพราะคิดว่าคงเป็นการประสานงานกันแบบเฉพาะกิจ คงจะดำเนินการระงับสัญญาณได้ตามที่เธอบอก 
ผมเลื่อนมาโทรระงับสัญญาณอีกครั้งวันที่ 30 เมษายน 2563 เพราะติดงาน แต่คำตอบที่ได้คือคุณมียอดค้างชำระ ไม่สามารถดำเนินการได้  ผมคุยรายละเอียดกับคอลเซ็นเตอร์ถึงที่มาที่ไป รู้ทั้งรู้ว่ามียอดค้าง แต่เหตุที่โทรมาเพราะพนักงานของคุณเป็นคนบอกเราว่าประสานงานไว้แล้ว คุยกับบริษัทไว้แล้ว 
นับจากวันนั้น ผมก็ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ทรูเป็นระยะๆ เพื่อให้ตามเรื่องให้ ว่าจะทำยังไงต่อไป แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากพนักงานขายคนนั้นหรือหัวหน้าของเธออีกเลย จนถึงวันนี้ 11 พฤษภาคม 2563 
 
เหตุผลที่ผมอธิบายมายืดยาวขนาดนี้เพราะอยากให้ทราบรายละเอียดว่า ผมต้องใช้ความอดทนขนาดไหนที่ต้องรอและให้โอกาสคนทำงาน ตามที่กล่าวอ้าง เพื่อไม่ให้พูดได้ว่าผมเร่งรัดเกินไป และผมก็คิดว่าให้โอกาสมานานถึง 2 เดือนกว่า ก็คิดว่าน่าจะเพียงพอแล้ว 
และผมขอพูดถึงในส่วนของเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ทรูด้วย ผมติดต่อขอความช่วยเหลือ หลายครั้งมาก ทุกครั้งที่สนทนากัน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะตามเรื่องให้ และจะแจ้งกลับ แต่มีเพียง 2 ครั้งที่ได้รับการติดต่อกลับ แต่ก็แทบไม่ได้ความคืบหน้าใดๆ เลย 
มีอยู่ครั้งหนึ่งได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าติดต่อลูกค้าไม่ได้ ให้ติดต่อกลับ 1242 ด้วย ผมยืนยันว่าไม่มีการติดต่อมาเลย ไม่มี Missed Call ไม่มีข้อความแจ้งเตือนเลย  และที่สำคัญ มาทราบภายหลังว่า ระบบของทรูจะเปิดใบงาน หมายถึงการรับร้องเรียน และใบงานจะถูกปิดเพียงแค่ ฝ่ายพนักงานขายแจ้งตอบกลับเมล์ว่าจะดูแลลูกค้าเอง  ปิดใบงานโดยที่คอลเซ็นเตอร์ไม่เคยโทรเอาคำยืนยันจากลูกค้า ว่าได้รับการดูแลเรียบร้อยดีตามที่ฝ่ายพนักงานขายกล่าวอ้างหรือไม่
และอีกกรณีหนึ่งคือใบงานถูกปิดเพราะเหตุผลว่า ติดต่อลูกค้าไม่ได้  
ผมเลยอยากตั้งคำถามว่า เราเป็นฝ่ายรอคำตอบ เราไม่รู้หรอกว่าฝ่ายพนักงานขายจะตอบกลับเมล์กันว่าอย่างไรและตอนไหน พอใบงานถูกปิดเพียงเพราะฝ่ายพนักงานขายตอบเมล์แล้ว ในขณะที่ทางเรายังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา เราก็รอต่อไป จนรู้สึกว่ามันนานเกินไป ทนไม่ไหวจึงโทรคอลเซ็นเตอร์ จึงจะมีการเปิดใบงาน ตามงานกันใหม่ ก็เท่ากับว่าเรานับหนึ่งใหม่ หรือเพียงแค่บอกว่าติดต่อลูกค้าไม่ได้ ก็ปิดใบงาน  ทั้งๆที่ผมให้คอลเซ็นเตอร์ทดลองโทรเข้า ก็โทรได้ปกติ 
ในส่วนของหัวหน้าพนักงานขาย ไม่เคยเข้ามาดูแลหรือสอบถามลูกค้าเลย แบบนี้จะถือว่ารู้เห็นเป็นใจกันได้หรือไม่  เพราะธรรมชาติของคนเป็นผู้นำ ควรจะเห็นความผิดปกติ และคิดได้ว่าทำไปคอลเซ็นเตอร์จึงตามเรื่องนี้หลายครั้งมาก ควรจะนึกแปลกใจ อย่างน้อยต้องสอบถามความเป็นไปจากพนักงานของตนเอง และถ้ายังไม่มีความคืบหน้า ควรติดต่อลูกค้าด้วยตนเอง 
แต่นี่ขนาดเรียกร้องให้ติดต่อกลับ ก็ยังไม่มีการติดต่อกลับเลยสักครั้ง
บริษัทปล่อยให้คนของตัวเองมาสร้างปัญหาให้กับลูกค้าแล้วยังไม่เร่งจะแก้ไขปัญหาให้ แบบนี้ผมจะพึ่งใครได้ครับ โดยเฉพาะลูกค้าที่พูดถึงอยู่นี้คือวัด ใครจะคิดว่าจะมีการใช้วิธีแย่ๆ แบบนี้กับพระกับเจ้าครับ
ขอคำแนะนำและคำปรึกษาจากเพื่อนๆในนี้นะครับ ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ