จุดชมวิวแสนสวยในภูเก็ต ที่มีแต่นักตกปลาเท่านั้นที่รู้

สวัสดีจ้าทุกคน ช่วงกักตัวเป็นยังไงกันบ้างค่ะ

วันนี้เราจะพาคุณมาดูอีกหนึ่งจุดชมวิวสวยๆ ที่อยู่ระหว่างรอยต่อ ตำบลราไวย์ กับ ตำบลกะตะในจังหวัดภูเก็ต
ที่น้อยยยยคนมากจะรู้จัก

มาเราไปดูวีดีโอกันก่อนเลยค่ะ ว่าที่นี่น่าสนใจยังไง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เรื่องของเรื่องคือ เราโดนกักตัวที่ภูเก็ตมาเกือบๆ 2 เดือนแล้วค่ะ จากพิษ Covid-19 ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักหมด 
x ชายหาดปิด
x แหลมพรหมเทพปิด
x สวนสาธารณะปิด
x ตลาดปิด
x Gym ปิด
x บาร์และร้านอาหารปิด
x ตำบลปิด
เรียกได้ว่าปิดแทบจะทุกอย่าง ยกเว้น supermarket ที่ขายอาหาร และร้านสะดวกซื้อต่างๆ เราก็อยู่กันอย่างเหงาหงอยที่บ้าน
จนในที่สุด ภูเก็ตก็ประกาศเปิด เปิดรอยต่อของแต่ละอำเภอที่ไม่มีเคสผู้ป่วยโควิดติดต่อกันเป็นเวลา 15 วัน
เราจึงลองดูแผนที่ใน Google ดูว่าเราจะไปดูทะเลจากที่ไหนได้บ้างที่ ไม่ใช่ชายหาด และจุดชมวิวที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
และแล้วเราก็เจอที่แหลมแห่งนี้นั่นเอง คือไม่มีถนนตัดผ่าน เราต้องเดินเท้าแล้วปีนป่ายกันเข้าไปเองอย่างเดียว

แล้วเราจะไปยังไงล่ะ? การเดินทางครั้งนี้มันสนุกที่การผจญภัย เราต้องเดินเข้าป่าไปประมาณ 15-20 นาที 
ฟังดูเหมือนจะไม่เหนื่อย แต่เหนื่อยเหมือนเต้น T20 ติดกัน 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะทางเป็นทางลาดชัน 
ต้องมีการปีนป่ายเล็กน้อย ดินโคลนสไลด์ โดนยุงกัดบ้างนิดหน่อย
และสุดท้ายเราก็จะได้พบกับ จุดชมวิวแสนสวย เป็นหน้าผาติดทะเล ถ้าอยากลงมาดูข้างล่าง
ก็ต้องปีนหน้าผาหินลงมากันนะแจ๊ะ ข้างล่างเราจะได้เห็นคลื่นกระทบโขดหินแบบจุกๆ 
มหาสมุทรสีครามกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ตัดกับเส้นขอบฟ้าที่มีเมฆลอยกระจุ๋มกระจิ๋ม 
เรียกได้ว่าสวยแบบยังไม่มีใครค้นพบ ที่นี่ไม่มีคนเลย

เรามาที่นี่ 3 ครั้งด้วยกัน และมีครั้งนึง คุณเบนลงไปดำน้ำ แล้วเจอเต่าทะเล 2 ตัว
ซึ่งยากมากที่จะเจอเต่าในทะเลชายฝั่งของภูเก็ต เราเลยตั้งชื่อจุดชมวิวนี้ว่า “Turtle point” นั่นเอง

มาต่อกันที่ ทำไมที่นี่ถึงไม่มีคน
- ที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล อยู่ใกล้กับร้านอาหาร Siam Beach เราต้องขออนุญาตก่อนถึงจะเข้ามาได้
(ซึ่งเราขออนุญาตแล้วด้วยการตีสนิทกับไอ้แดง หมาของคนดูแลที่นี่ เค้าเลยอนุญาตให้เราเข้าไปสำรวจดูได้ 555)
- 2 ที่นี่จะรู้จักกันในหมู่นักตกปลา ตกหมึกท้องถิ่นซะมากกว่า บางวันจะมีคนมายืนตกปลาที่โขดหิน 
(แต่บอกได้เลยว่า ปลาที่กินได้ไม่ค่อยมีหรอก เพราะเราดำน้ำลงไปดูแล้ว มีแต่พวกปลานกแก้ว ปลาเทวดา 
คือเป็นกลุ่มปลาสวยงามที่ไม่มีใครกิน นานๆทีเจอปลาเก๋าตัวเท่ามือ และปลากระบอกตัวยาวๆ ที่ปากเล็กแทบจะกินเหยื่อไม่ได้ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะนิยมมาตกหมึกในช่วงพลบค่ำ)


ทางเดินในป่าจ๊ะ งูเงี้ยวเขี้ยวขอยังไม่เจอนะคะ เจอแต่ยุงชุมมาก


แวะชมดอกไม้ป่ากันสักครู่


เจอทุ่งหญ้าแล้ว ถึงลานหินที่เราสามารถมายืนดูวิวได้แล้ว


มองหาอนาคต หลอกๆ มองหาทางที่เราจะเดินลงไปด้านล่าง ซึ่งไม่มี ต้องปีนลงไปอย่างเดียวค่ะ


มายืนรับลมเย็นๆ กับไอแดดร้อนๆ ตอนบ่าย 3 โมงให้ชื่นใจ


บนโขดหินแบนๆอันนี้ เราพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า ชาวประมงได้ทำการก่อกองไฟและปรุงอาหารกันที่นี่อย่างแน่นอน
(เป็นกองไฟเก่าๆ ที่ชาวบ้านที่มาตกปลาและก่อกองไฟกันไว้เพื่อปิ้งปลานั่นเองนั่นแหละจ้า)


มุมนี้สวยขนาด คลื่นสาดกระเซ็นแรงมากจ้า 


จากการเดินสำรวจ เราได้พบกับ tide pool ขนาดใหญ่พอที่เราจะลงไปนอนแอ้งแม๋งแช่น้ำอาบแดดกันได้เลยจ้า
แต่ระวังปู ระวังหอยคมๆกันด้วยนะจ๊ะ


เรามาเดินสำรวจ tide pool เจอหอยนางรมเยอะมากมาย อาหารอันโอชะ


มาลองชิมกันดูสักหน่อย หอยนางรมตามธรรมชาติจะเนื้อแน่นเหนียวหนึบมากกว่า รสชาติจะเค็มทะเลนิดๆ ถือว่าเป็นการเพิ่มไอโอดีน


และเราก็เจอ Anemone ชื่อไทยคืออะไรไม่รู้นะคะ ตัวนี้จะมีปากอยู่ตรงกลาง หนวดๆรอบๆจะคอยจับอาหารเข้าปาก


และน้องปูแสนน่ารัก ตัวจริงอันจิ๋วเดียวเองนะจ๊ะ เท่าปลายนิ้วก้อยเท่านั้นเอง

ใครชอบ หรืออยากดูเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยว หรือ กิจกรรมสนุกๆ
ฝากติดตามเพจบน facebook กันด้วยนะคะ : nichazen
ขอบพระคุณค่ะ กราบลงงามๆ ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บกันนะคะ

และดิฉันก็ขอจบการรายงานแต่เพียงเท่านี้
สวัสดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่