ในยุคโควิด-19 รัฐบาลประเทศต่างๆ พยายามส่งเสริมการทำงานจากที่บ้าน ( Work From Home ) และการเรียนออนไลน์ แต่ก็มีเสียงทักท้วงทั้งในไทยและต่างประเทศ ว่าประสิทธิภาพ ( Productivity ) มันจะได้น้อยลงเมื่อเทียบกับการทำงานในออฟฟิศ หรือเรียนในโรงเรียน-มหาวิทยาลัย
ผมขอยก 2 ข่าวนี้เป็นตัวอย่าง
--------------------
The cultural emphasis on collective decision-making in Japan can also make people feel reluctant to work from home, where they will not bephysically surrounded by colleagues.
"The situation in Japan is a bit unique compared to other countries where people have a more individualistic work style. It's easier for them to transition to teleworking," Kato said. "In Japan, one person can't make an important decision alone at their home — people have to come together to make decisions."
ที่มา :
https://edition.cnn.com/2020/04/02/business/japan-coronavirus-work-lockdown-guilt-hnk-intl/index.html
คร่าวๆ คือวัฒนธรรมองค์กรของคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการมารวมตัวกันที่ออฟฟิศ จะทำอะไรตัดสินใจอะไรการมีเพื่อนร่วมงานอยู่รอบๆ ตัวสำคัญมาก ( ของไทยก็น่าจะไม่ต่าง หลังๆ เริ่มได้ยินเสียงบ่นละ ว่าทำงานที่บ้านมันไม่มีความกระตือรือร้นเท่าไปทำงานที่ออฟฟิศเลย )
------------------------------
ความเชื่อที่ 2 ที่ถูกหักล้างคือ ห้องเรียนออนไลน์สามารถแทนที่ห้องเรียนปกติได้การเรียนในห้องเรียนปกติไม่ใช่แค่การทำตามคำบอก อ่านข้อความบนจอ แต่ยังรวมไปถึงความรู้สึกของการได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลานั้น ซึ่งเกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นและผู้สอน ความรู้สึกเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียนมีสิ่งยึดโยงทางความรู้สึก และช่วยให้ซึมซับบทเรียนได้ดีกว่าเดิม
ในห้องเรียนปกติ การจะดึงให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมได้มีหลายวิธี เช่น การสบตา การเรียกชื่อ การเดินเข้าไปหา หรือใช้ท่าทางช่วย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยากในการเรียนออนไลน์ เพราะที่ทำได้ก็มีแค่เรียกชื่อ หรือส่งคำถามออนไลน์ให้ผู้เรียนตอบ หากเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ก็เป็นเรื่องยากที่ผู้เรียนจะสามารถกระตุ้นให้นักศึกษาทุกคนมีส่วนร่วมได้
ที่มา :
https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/650103
อันนี้จะคล้ายๆ กับกรณีก่อนหน้านี้ที่หลายคนยอมจ่ายค่าเทอมแพงๆ เรียน ม.เอกชน แทนที่จะเรียน ม.เปิด อย่างรามคำแหงหรือ มสธ. เพราะรู้ว่าตัวเอง ( หรือพ่อแม่รู้นิสัยลูก ) ว่าคุมตัวเองให้อ่านหนังสือสม่ำเสมอไม่ได้ การส่งไปเรียน ม.เอกชนยังไงก็ยังมีระบบบังคับเข้าเรียน ก็จะมีเพื่อนช่วยติว มีอาจารย์จี้ตามให้ส่งงาน โอกาสเรียนจบมีสูงกว่าเรียน ม.เปิดแล้วไม่มีคนมาคุม
------------------------------
ถ้าสมมติจะผลักดัน WfH , เรียนออนไลน์ให้ได้ประสิทธิภาพเท่าทำงานที่ออฟฟิศ-เรียนที่ ร.ร. หรือมหา'ลัย จะทำยังไงได้บ้างครับ?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
จะทำยังไงให้WorkfromHome-เรียนออนไลน์มีประสิทธิภาพไม่ด้อยลงไปกว่าการทำงานในออฟฟิศ-เรียนในสถาบันการศึกษา?
ผมขอยก 2 ข่าวนี้เป็นตัวอย่าง
--------------------
The cultural emphasis on collective decision-making in Japan can also make people feel reluctant to work from home, where they will not bephysically surrounded by colleagues.
"The situation in Japan is a bit unique compared to other countries where people have a more individualistic work style. It's easier for them to transition to teleworking," Kato said. "In Japan, one person can't make an important decision alone at their home — people have to come together to make decisions."
ที่มา : https://edition.cnn.com/2020/04/02/business/japan-coronavirus-work-lockdown-guilt-hnk-intl/index.html
คร่าวๆ คือวัฒนธรรมองค์กรของคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการมารวมตัวกันที่ออฟฟิศ จะทำอะไรตัดสินใจอะไรการมีเพื่อนร่วมงานอยู่รอบๆ ตัวสำคัญมาก ( ของไทยก็น่าจะไม่ต่าง หลังๆ เริ่มได้ยินเสียงบ่นละ ว่าทำงานที่บ้านมันไม่มีความกระตือรือร้นเท่าไปทำงานที่ออฟฟิศเลย )
------------------------------
ความเชื่อที่ 2 ที่ถูกหักล้างคือ ห้องเรียนออนไลน์สามารถแทนที่ห้องเรียนปกติได้การเรียนในห้องเรียนปกติไม่ใช่แค่การทำตามคำบอก อ่านข้อความบนจอ แต่ยังรวมไปถึงความรู้สึกของการได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลานั้น ซึ่งเกิดจากการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นและผู้สอน ความรู้สึกเหล่านี้ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ช่วยให้ผู้เรียนมีสิ่งยึดโยงทางความรู้สึก และช่วยให้ซึมซับบทเรียนได้ดีกว่าเดิม
ในห้องเรียนปกติ การจะดึงให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมได้มีหลายวิธี เช่น การสบตา การเรียกชื่อ การเดินเข้าไปหา หรือใช้ท่าทางช่วย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยากในการเรียนออนไลน์ เพราะที่ทำได้ก็มีแค่เรียกชื่อ หรือส่งคำถามออนไลน์ให้ผู้เรียนตอบ หากเรียนเป็นกลุ่มใหญ่ก็เป็นเรื่องยากที่ผู้เรียนจะสามารถกระตุ้นให้นักศึกษาทุกคนมีส่วนร่วมได้
ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/650103
อันนี้จะคล้ายๆ กับกรณีก่อนหน้านี้ที่หลายคนยอมจ่ายค่าเทอมแพงๆ เรียน ม.เอกชน แทนที่จะเรียน ม.เปิด อย่างรามคำแหงหรือ มสธ. เพราะรู้ว่าตัวเอง ( หรือพ่อแม่รู้นิสัยลูก ) ว่าคุมตัวเองให้อ่านหนังสือสม่ำเสมอไม่ได้ การส่งไปเรียน ม.เอกชนยังไงก็ยังมีระบบบังคับเข้าเรียน ก็จะมีเพื่อนช่วยติว มีอาจารย์จี้ตามให้ส่งงาน โอกาสเรียนจบมีสูงกว่าเรียน ม.เปิดแล้วไม่มีคนมาคุม
------------------------------
ถ้าสมมติจะผลักดัน WfH , เรียนออนไลน์ให้ได้ประสิทธิภาพเท่าทำงานที่ออฟฟิศ-เรียนที่ ร.ร. หรือมหา'ลัย จะทำยังไงได้บ้างครับ?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )