รีวิว น้ำหอมจากGucci ในไลน์ The Alchemist's Gardenนะครับ และใครชอบน้ำหอมกุหลาบตัวไหนเป็นพิเศษกันบ้างครับ

ตัวนี้ถือเป็นตัวที่ผมให้เป็นอันดับ1ในน้ำหอมกลิ่นกุหลาบปัจจุบันเลยครับ หรือใครมีกลิ่นกุหลาบแนวไหนที่ชอบกันบ้างครับ

ผมเคยรีวิวเกี่ยวกับกลิ่นกุหลาบไปบ้างแล้วครับ

https://ppantip.com/topic/39207971
ช่วงนี้ หลังจากใช้ไปนานๆแล้วมีตัวใหม่มาเพิ่ม บางตัวชอบลดลง บางตัวกลับค่อยๆชอบมากขึ้น

อันนี้ที่ยังมีเก็บไว้ในปัจจุบันครับ
ที่เกริ่นไปข้างต้นแล้ว และจะมารีวิวด้วย
อันดับ1 10 คะแนนเต็มไม่หัก คือ A Song for The Rose จากGucciครับ

ส่วนอันอื่นรีวิวไปแล้ว แต่ขอสรุปคร่าวๆนะครับ
อันดับ2 9.5คะแนน
Tom Ford : Café Rose หอมที่สุด เพราะชอบกลิ่นกาแฟมาก ทนด้วยครับแต่ขอตัดคะแนนเรื่องคนรอบของบางคนที่ไม่ทานกาแฟ เคยโดนบ่นว่าเวียนหัวครับ
Serge Lutens : La Fille de Berlin เป็นกุหลาบที่ผมว่าหอมเกินกุหลาบจริงไปมาก surrealมาก กับสีของน้ำหอมที่แดงจัด ฉีดบนเสื้อขาวแล้วเสื้อติดสีเป็นชมพูเลยครับ
Frédéric Malle : Une Rose สมชื่อune rose ครับหอมลึกกว่าใคร ให้ความรู้สึกว่ากลิ่นคุณภาพสูงมาก แต่ขอไม่ให้สิบเต็มเพราะไม่ชอบกลิ่นGeranium ถึงจะพยายามมโนให้ว่าเป็นกลิ่นก้านกุหลาบแล้วก็ตามครับ

อันดับ3 9.0คะแนน
Louis Vuitton : Rose des Vents หอมหวานยาวนาน แต่สำหรับผม คิดว่าเป็นตัวที่หาเหตุผลให้ผู้ชายใช้ไม่ได้เลยครับ เพราะมันหวานเกินแต่ติดอันดับสามเพราะหอมมากและทนมาก
Christian Dior : Gris Dior กุหลาบผสมPatchouli ลงตัว หอมไม่มาก แต่ติดทน ยิ่งใช้ยิ่งชอบ แต่ติดตรงที่คนที่ไม่ใช้น้ำหอมอาจจะฉุนจากPatchouli ได้ครับ
Dolce&Gabbana : Velvet Rose หอมเปรี้ยวนิดๆคงเพราะcitrus เลยนึกถึงบ๊วยครับ ใช้ง่าย ค่อนข้างไม่เหมือนใครดี แต่ไม่ได้หอมจัดครับ

อันดับ4 8.5คะแนน
Christian Dior: La Colle Noire เคยเป็นตัวที่ชอบที่สุด เพราะกุหลาบผสมเลม่อนที่สดชื่นตอนเปิด เพิ่งมารู้ทีหลังว่ากลิ่นเบสเป็นmuskที่ผสมกับกลิ่นเหงื่อผมแล้ว รู้ซึ้งถึงคำว่า น้ำหอมเลือกคนเลยครับ คงเหมาะกับสุภาพสตรีที่ไม่เน้นกิจกรรมหรือกีฬาทางแจ้งมากกว่า
Diptique : Eau Rose น้ำกุหลาบใสๆ ใช้ง่ายสบายๆ แต่มันไม่มีจุดเด่นตรงไหนออกมาครับ อารมณ์red roseจากJo Maloneครับ

อันดับ5 8.0คะแนน
Hermès : Rose Ikébana เคยชอบว่าเป็นกุหลาบสดใส แต่จางเร็วเกิน แล้วพอใช้นานๆ รู้สึกไม่ชอบรูบาร์บเลยครับ เปรี้ยวแต่มันชวนเวียนหัวครับ

อันดับ6 7.5คะแนน
Givenchy : Rose Ardente เป็นกุหลาบที่ผมไม่ค่อยชอบแฮะ ฉีดไปเหลือ เท่าไหร่ก็เหลือเท่านั้น ไม่ค่อยสดชื่นสดใส จะหอมกุหลาบก็ไม่เชิงครับ
Etat Libre d’Orange : 500 years ในFragant บอกว่าไม่มีกลิ่นOud เลยลองBlind buy แต่ซื้อมาแล้วOudมันไม่ใช่เลยสำหรับผม แต่โอเคแหละช่วยเรื่องกลิ่นทนดีครับ

ส่วนหัวกระทู้ที่ว่า
จะรีวิว LineพิเศษจากGucci เพราะได้โอกาสที่เพิ่งซื้อตัวที่สองมาพอดี จากช่วงสถานการณ์Covid ก็เฝ้าดูจริงๆรอว่าเมื่อไหร่จะมีTom FordพวกPrivate Blendจะส่งถึงบ้านบ้าง ก็ไม่มี
แต่ก่อนเคยชอบดิออร์ ไลน์พิเศษMCD ตอนหลังเทียบกับTom Fordแล้ว เคมีผมเข้ากับTom Fordมากกว่า
จนเดือนนี้ โปรจากGucciส่งถึงบ้านได้ เอามาลด30%ถูกลงมาก เหลือ7,035เลยกดสั่งทันทีที่เห็นจากเวบของคิงพาวเวอร์เลยครับ พอได้มา เร็วกว่าคาดเพราะทีแรกเห็นว่าถ้าราคาพิเศษอาจต้องรอจัดส่ง5-10วันแต่นี่ วันกว่าๆก็ได้แล้ว
ได้ก็เห่อ ใช้สองวันติด ฉีดแม้กระทั่งเข้านอนครับ

ตัวนี้คือ
A Winter Melodyครับ

ผมบอกเลย ขอชมมากครับ คนปรุงAlberto Morillas คือเจ๋งจริง ปกติผมไม่ใช่แฟนสนCypressเท่าไหร่เพราะรู้สึกขมๆปนเหม็นเขียว เอาจริงคือที่ลองสั่ง เพราะมันลดราคาและเชื่อใจในคนปรุง และที่สำคัญดูจากnoteแล้วมีกลิ่นกุหลาบ
แต่หลังจากที่ใช้มา กลิ่นจางเร็ว สบายๆ สดชื่น ถึงไม่เคยได้กลิ่นกุหลาบ แต่ผมกลับรู้สึกว่าหอมใช้ง่าย แก้เบื่อจากปกติผมจะชอบกลิ่นสไตล์โคโลญคลาสสิค กลิ่นพวกนี้จะเยอะพอๆกับกุหลาบ แต่ไม่สันทัดน้ำหอมเท่าไหร่ เจอกลิ่นแปลกๆ ใจจะไม่เปิดรับครับ
แต่ตัวนี้ และไม่สิ ทั้งไลน์ The Alchemist’s Gardenคือหัวสเปรย์ที่ฉีด
ไม่เคยเจอยี่ห้อไหนที่พ่นออกมา ละอองสเปรย์เป็นฝอยเล็ก ดูคุณภาพสูงเท่ายี่ห้อนี้เลย ละอองฝอยบางละเอียดมากครับ ให้ความรู้สึกพรีเมียมจริงๆ
สรุปคือ เป็นตัวที่ทำให้ผมชอบได้ ทั้งที่ปกติ ผมจะชอบ ถ้าไม่citrus สไตล์โคโลญคลาสสิค ก็จะกลิ่นกุหลาบไปเลยเท่านั้นครับ (ไม่ต้องพูดถึงตัวที่ฮิตๆกันแต่ผมเหม็นอย่างBleu de Chanel, Dior Sauvage, Creed Aventusหรือ Baccarat RougeจากMFK ที่พอมีโน้ตแปลกๆผิดไปจากที่เคยใช้ ผมไม่เอาเลย)


และตัวที่จะรีวิวสุดท้ายคือ
A Song for The Rose ตัวนี้คือสิบเต็มจากผม
ให้ยืนหนึ่ง ของกลิ่นกุหลาบตอนนี้ครับ
ว่า จะ จะ จะซื้อหลายที
ครั้งแรกที่เห็นคือในKing Powerรางนั้น ตอนนั้นโกรธ เพราะก่อนไปต่างประเทศช่วงนั้น ตั้งใจจะไปซื้อBottega Veneta ไลน์Parco Palladiano เบอร์6กลิ่นกุหลาบผสมหนัง (ปกติ คนฮิตเบอร์7เนอะ แต่ผมไม่ชอบ) พอไปถึง ผิดหวังเลยไม่เปิดใจให้Gucci แต่ยังดี ที่Bottega Venetaไลน์พิเศษยังมีขายที่สุวรรณภูมิ
จนพอไปเดินเซนทรัล ชิดลม กับไอคอนสยาม ก็เห็นมีขาย ราคาราว11,xxx แต่ไม่มีขายที่พาราก้อนแฮะแต่เข้าไปฉีดเล่น เพราะตรงเซนทรัลชิดลม จนท.สบายๆดีแฮะ ไม่มีคนยืนคุม
ลองฉีด ก็เออ หอมอ่อนๆจังแฮะ คือวันนั้นฉีด Café RoseของTom Fordไป เลยแทบไม่ได้กลิ่นGucciครับ
จนอีกรอบที่จะต้องเดินทางต่างประเทศ จะใช้สิทธิ์วันเกิด30% เลยพยายามซื้อของที่จะได้เงินคืน30%ให้เยอะที่สุด เดินวนอยู่นาน สุดท้ายตัดสินใจเอา A Song for The Roseมาในรางน้ำ ขาย10,xxx เลยได้เงินคืนเข้าบัตรอีกสามพันกว่าบาท
ตัวนี้ทีแรกดูในnoteก็ไม่มีoudนะครับ แต่คนรีวิวเวบต่างประเทศบอกมีกลิ่นoud
แต่ตัวผม ที่ใช้เอง ผมให้เป็นอันดับ1 เพราะผมชอบCitrusที่เปรี้ยวไม่เลี่ยน(แต่ในโน้ตจากFragrantica กลับบอกว่าไม่มีcitrus) ผสมกุหลาบ แล้วกุหลาบ หอมสดชื่นมาก มากจนเวลาเอากลับไปเทียบกับของDiorที่เคยใช้ ให้ความรู้สึกว่าของDiorดูสังเคราะห์ไปเลยครับ
แล้วสำคัญที่สุดคือเข้ากะเหงื่อผมดีมาก ยิ่งเหงื่อออกเยอะ กลับได้กลิ่นcitrusแรงออกมา ผสมกับเหงื่อผมแล้วหอมดีครับ จนคนทัก
ตอนนี้คือให้ตัวนี้เป็นsignatureประจำตัวไปแล้วครับ ใส่ไปทำงาน เล่นกีฬา ไปงานกลางคืน ใช้ได้ทุกโอกาสครับ

ปล.
ใครชอบกุหลาบตัวไหนกันบ้างครับ มาแชร์กันครับ
ไม่มีผิดถูก ทุกอย่างคือความชอบเราล้วนๆเลยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่