ทำยังไงดีเมื่อที่บ้านเห็นเราเป็น ATM

คือจริงๆแล้วเราไม่อยากคิดแบบนี้เลยนะคะ แต่หลายๆเหตุการณ์​มันทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเขามองเราเป็นแค่ตู้กดเงินเท่านั้น
เราออกมาทำงานข้างนอกโดยเช่าห้องอยู่ ก็จะห่างกับที่บ้านพอสมควรอยู่แล้ว ตลอดทั้งเดือนคนในบ้านจะไม่มีใครทักโทรหรือติดต่อเราเลย ทุกครั้งที่เขาจะติดต่อมาคือก่อนเงินเดือนเราออกเท่านั้น จะทักมาถามว่าเราเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหมเป็นห่วง พอถึงวันเงินออกถ้าเราไม่โอนไปเขาก็จะทักหาย้ำๆว่าจะโอนเงินให้หรือยัง พอเราโอนไปให้ปุ๊ป หลังจากนั้นก็จะหายไป เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เราเรียนจบ
และยิ่งช่วงนี้มีโควิด 19 ทำให้เราถูกลดเงินเดือนลง แต่เราก็บอกที่บ้านแล้วว่าเราขอไม่ให้นะจนกว่าสถานการณ์​มันจะดีขึ้น ทุกคนไม่พอใจเรามาก เขาบอกเขาก็ไม่มี เอามาให้เขาก่อน เรายังเด็กดิ้นรนไเ้อยู่แล้ว 
ซึ่งเราเหนื่อยมาก เคลียด ไม่รู้จะทำยังไง ให้ที่บ้านเลิกขอเงิน ตลอดทั้งเดือนขอเราจนเงินเดือนเราแทบไม่เหลือให้เท่าไหร่ไม่เคยพอ ทุกคนพูดแต่ปัญหาของตัวเอง ไม่มีใครเคยถามถึงเราว่าเราอยู่ยังไง มีเงินใช้ไหม เหนื่อยไหม ท้อมากค่ะ
จริงๆเราแค่อยากมาระบาย เราไม่รู้จะพูดกับใคร เราเหนื่อย....
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ผ้าเปนผมจะใช้วิธี ฟิกไปเลย ว่าเดือนนึง เท่านี้นะ สมมุติ 3000 คือแค่นี้จบ ไม่มีขอเพิ่ม. ถ้าพูดมาก 3000 ก้อไม่ต้องเอา.  ให้ไปแค่นี้เลย

อีกกลยุทธ์นึง ถ้ามีหลายคน. ผลัดกันมาขอ วุ่นวาย. พูดไม่รู้เรื่อง ให้โอน ให้ คนใหญ่สุด น่าเ้ชื่อถือสุด หรือแสบสุด คนเดียวไปเลย แล่วให้คนอื่นไปขอแบ่งเอาจากคนนั้น  ให้เขาไปทะเลาะกันเอง ลดภาระทางหูเรา. เท่านี้น่าจะช่วยได้

บางทีผม ถ้าเปนคนที่ไม่อยากคุยผมก้อไม่รับสายไปเลยนะ จบ สบายเลย

หาือคุยกับใครแล้วลำบากใจ หรือเหมือนถูกข่มขู่ บังคับจิตใจ ผมตัดสายทิ้งเลย.  เขาไม่เกรงใจผม. ผมก้อไม่เกรงใจเขา

หรือไม่ก้อ เปลื่ยนกลยุทธ แกล้งจน. ทำเปนตัวเองเดือดร้อนติดหนี้นอกระบบ นั้นนี่ แล้วไปขอเงินที่บ้านแทน ผมว่าที่บ่านจะกลัวเรามากกว่าเรากลัวที่บ้านนะ.

คิดออกเท่านี้. มันช่วยคุณได้อยู่แล้ว อยู่ที่คุณจะกล้าทำไหม ใจแข็งพอไหม โหดพอไหม.

พวกใจอ่อนมักโดนกดขี่ข่มเหงอย่างนี้แหละ. แต่พวกโหดๆ ไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่งหรอก
ความคิดเห็นที่ 4
ให้เท่าที่เราไหวค่ะ
เดือนไหนไม่สะดวกก็ไม่ต้องให้แล้วแจ้งเหตุผลไปค่ะ กำหนดให้เป็นก้อนครั้งเดียวจบ
ไม่ต้องสนใจเวลาโดนขอระหว่างเดือนค่ะ ถ้าเยอะก็พูดแบบขู่ค่ะ ถ้าไม่พอต่อไปก็ไม่ให้แล้ว มี 2 มือเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวคำว่าบาปกรรมค่ะ เราทำดีที่สุดในจุดนี้แล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 23
เมื่อไหร่วัฒนธรรม มีลูก เพื่อให้ลูกมาเลี้ยงเราตอนแก่ นี่มันจะหมดไปจากสังคมประเทศเราสักที

วัฒนธรรมตะวันตก กลับมองว่า การที่พ่อแม่ต้องเลี้ยงดูลูก มันเป็นหน้าที่เลยแหละ ไม่ใช่บุญคุณอะไรทั้งนั้น คุณต้องรับผิดชอบที่ทำให้เด็กเกิดมา ส่วนความสัมพันธ์ จะรักกันจะห่วงใยกัน อันนั้นมันก็แล้วแต่บุคคลแล้วแต่บ้าน แต่การที่พอลูกโตมาทำงานทำการได้ แล้วมานั่งเแต่เฝ้าขอเงินลูก นี่มันห่วยแตกมากๆ

มันเป็นการลงทุนที่คุ้มเกินคุ้ม เลี้ยงอยู่สิบกว่าปี สบายตอนแก่ไปหลายสิบปี ป่วยก็มีคนมาดูแลอีก ไม่แฟร์เอาซะเลย

ผมมีลูกสาวสองคน สั่งไว้แล้วเลยว่าเรียนจบเมื่อไหร่ ไม่ต้องมาให้เงิน ชีวิตพ่อ พ่อจะจัดการเอง ทำงานหาเงินได้ ก็รีบเอาไปสร้างเนื้อสร้างตัว ใช้ชีวิตของตัวเอง อย่ามาเสียเวลากับชีวิตพ่อแม่

และมรดกตกทอดอะไรก็จะไม่มีให้นอกจากบ้านหลังที่อยู่นี้ ที่เหลือก็ไปสร้างกันเอง ให้การศึกษาไปครบแล้ว อาวุธพร้อมแล้ว

เงินทอง ที่ดิน เงินลงทุน ที่มี ผมจะบริจาคให้องค์กรการกุศลหมด เพราะนี่คือสินทรัพย์ที่ผมกับภรรยาสร้างมา ไม่ได้มีไว้ให้พวกลูกๆ อยากตั้งตัวไปสร้างเอง
ความคิดเห็นที่ 8
มีรุ่นน้อง หาเงินเท่าไรแม่ก็รีดเอาไปจนหมด พอหาไม่ได้ก็ต้องไปยืมเงินคนอื่นมาให้ ทำงานมากี่ปีไม่มีเงินเก็บ
หาเงินได้เท่าไรไม่เคยพอ  เราก็เลยแนะนำให้เปลี่ยนโทรศัพท์ ไม่ให้ที่บ้านติดต่อ ไหวแค่ไหนโอนแค่นั้น
ต้องใจแข็ง  สรุป แม่ก็ต้องไปทำงานหาเงินโดยการทำอาหารขาย(ก็อายุไม่ได้มากมายอะไรนิ) ตัวเองก็เริ่มเก็บเงินไว้ลงทุนค้าขายได้บ้าง
สุขภาพจิตก็ดีขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่