คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 115
เข้ามากอดให้กำลังใจนะคะ ชีวิตมีทางออกเสมอ เราเคยเจอสถานการณ์แบบนี้เมื่อ 3 ปีก่อน ทุกข์ใจมาก เป็นเรื่องที่หนักสุดในชีวิต เรากำลังสร้างบริษัทเล็กๆด้วยกัน มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง สามีเป็นคนเก็บเงินนะคะ เราแค่คอยดูยอดการเก็บการใช้จ่ายในการทำงาน ความไว้ใจอย่างเดียวเลยค่ะ เรามารู้ตัวอีกทีวันที่เงินหมดแล้ว และหนี้จำนวนมหาศาล รวมทั้งหมดเกือบ 5 ล้าน วันนั้นเขาไปสารภาพกับพี่สาวเขา เรื่องการพนันและหนี้ เขาไม่กล้าบอกเรา เพราะช่วงนั้นงานในบริษัทค่อนข้างยุ่ง เพราะเงินเริ่มไม่มีหมุน เขาอ้างว่ารอลูกค้าจ่ายบ้าง จ่ายมาแล้วบ้าง พอเราขอดูสลิปการโอนจ่ายหรือหลักฐานในการจ่าย เขาบอกจะหาให้ทีหลัง แล้วก็ทะเลาะกันเรื่อยมา จริงๆเราเริ่มรู้สึกผิดปกตินะ แต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำขนาดนี้ พอเรารู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น วันนั้นทุกข์ใจมาก แต่ไม่รู้จะคุยกับใคน ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน เราเข้าห้องพระไหว้พระและนอนอยู่ในห้องพระ ลูกยังเล็กมาก คนโต 7 ขวบ คนเล็ก 3 ขวบ เราห่วงความรู้สึกลูกมาก ความคิดแว่บหนึ่ง ถ้าอยากหลุดพ้นโดยไม่เจ็บปวดอีกคือการตายไปพร้อมกับลูก แต่เราไม่สามารถทำร้ายลูกได้ ถ้าเลิกกันลูกคงต้องถามหาพ่อ สุดท้ายเขามาขอโทษ ขอโอกาสเขา ขอให้อย่ากลับไปเป็นแบบนั้นอีก เขารับปาก ช่วงนั้นไม่มีแม้เงินจะหมุนทำงาน มีแค่ค่าจ้างพนักงาน ส่วนเงินสดที่ใช้ในการทำงานไม่มีเลยค่ะ ใช้เครดิตล้วนๆ โดนด่าบ้างจากsup ต่างๆ เราคิดว่าเดี๋ยวมันต้องดีขึ้น เราจะจัดการเรื่องการเงินทุกอย่างเอง โดยเราจะให้เงินเขาใช้ ส่วนหนี้สินต่างๆจากการพนันทยอยจ่ายเรื่อยๆ มันเยอะมาก ช่วงนั้นเครียดสุดๆ เรากลายเป็นคนไม่ค่อยคุยกับใคร ทำงานอย่างเดียว ผ่านมา 5 เดือน เหตุการณ์เริ่มผิดปกติอีก เขาบอกเก็บเงินลูกค้าไม่ได้เป็นบางเจ้า และที่สุด คือ แอบเอางานในบริษัทไปทำเอง เพื่อจะได้รับส่วนต่างเป็นกำไร วันนั้นเรารู้เรื่องนี้เพราะโทรเช้คกับ sup เราถามเขาว่าทำแบบนี้ทำไม เคยเห็นความทุกข์ใจของเราไหม ทุกอย่างบั่นทอนจิตใจเราจนจะอยู่ไม่ไหวแล้ว เราทำงานงกๆหาเงินใช้หนี้พนันให้เขาเดือนละหลายหมื่น เขาสารภาพกับเราว่าแอบเล่นอีกเพราะอยากได้เงินคืน แต่สุดท้ายติดหนี้อีก เขาขอโอกาสอีกได้ไหม ตอนนั้นเราไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว เสียใจซ้ำกับเรื่องเดิมๆ สุดท้ายเหมือนเดิมเพื่อลูก เราให้เขาสาบานต่อหน้าพระหากเขาโกหกหรือเล่นการพนันขอให้มีอันเป็นไป และไปบวชเพื่อขออโหสิกรรมกับทุกคนและเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาก็ยอมทำตามนั้น เรายอมกลับมาเป็นครอบครัว เพราะงานในบริษัทเริ่มดีขึ้น และครอบครัวเขาขอโอกาสให้เขาอีกครั้ง แต่ห้ามให้เขายุ่งเรื่องการเงินทั้งหมด และหากมีครั้งต่อไปเลิกกันเลย จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบ 3 ปีเต็ม เรามองย้อนกลับไปเห็นภาพตัวเองแอบนอนร้องไห้ตอนกลางคืนบ้าง นอนร้องไห้ในห้องพระบ้าง เราผ่านมาได้ด้วยกำลังใจของตัวเองล้วนๆ มีอ้อมกอดเล็กๆของลูกคอยกอดในวันที่เหนื่อยหล้า ขอให้คุณก้าวผ่านมันไปให้ได้นะคะ สติสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตนะคะ มีสติในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ หาหนังสือธรรมมะดีๆมาพกติดตัวไว้อ่านนะคะ มันช่วยเราได้เยอะมากในวันที่หมดสิ้นกำลังใจที่จะไปต่อในโลกนี้
แสดงความคิดเห็น
เมื่อสามีติดพนันบาคาร่า ควรทำอย่างไรค่ะ
โดยผู้ชายคนนี้เป็นคนจังหวัดเดียวกัน อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เรียกเพื่อนได้ ทำงานบ.เอกชน
แห่งหนึ่งซึ่งมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง สามีได้ซื้อทาวโฮมไว้อยู่แล้วหลังหนึ่ง ส่วนเราเป็น
พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เรามีแต่รถขับไปทำงาน เมื่อครบกันก็วินวินๆ มีทั้งรถมีทั้งบ้าน
แหละนั่นคือจุดเริ่มต้นการศึกษาดูใจกัน โดยที่พ่อแม่ทั้ง 2 บ้านรับรู้
ปี 59 เราได้ตกลงแต่งงานกัน คิดว่าเราเป็นผู้หญิงทีโชคดีมากๆคนหนึ่งได้เจอสามีที่ดี ไม่สูบบุหรี่
กินเหล้าบ้างกับเพื่อนฝูงตามปกติ หลังจากแต่งกันเราทั้งสอง ทำทุกอย่าง เพื่อให้มีเจ้าตัวเล็ก ไป
หาหมอ ออกกำลังกาย ปรึกษาหมอมีบุตรยาก ทำ iui จนได้เจ้าตัวเล็กมาตอนนี้ลูกอายุ 1 ขวบ
5 เดือน แต่ระหว่างที่ไปปรึกษาหมอเรื่องมีบุตรยาก เราไปเจอที่ดินแห่งหนึ่งขนาด 1 งาน ราคา
ประมาณ 1 ล้าน เราจึงตัดสินใจซื้อ เรากู้เอง เพื่อที่จะขยายครอบครัวสร้างบ้าน
แหละนี้คือจุดเริ่มต้นเป็นช่วงที่เรากำลังตั้งท้องเดือนแรก พร้อมกับกำลังโอนที่ดินแปลงนี้
สามีไปลักเล่นการพนันบาคาร่า หมดไปประมาณ 2 แสนกว่า โดยไปสมัครบัตรเครดิตมาเล่น
โดยที่เราไม่รู้ตัว ตอนเรารู้เรื่องปรึกษาพ่อแม่ทั้ง 2 บ้าน เราแก้ปัญหาปิดบัตรเครดิตสามี โดยเรา
เอาเงินจากบัตรเครดิตของเราไปใช้หนี้แทนสามี แล้วเราก็จ่ายขั้นต่ำมาเรื่อยๆ ได้โบนัสทั้งคู่ก็เอา
ไปปิดเรื่อยๆ
จนรอบที่ 2 เดือน ก.ย. 62 เขากลับมาบ้านตอนเมา เราค้นกระเป๋าไปเจอใบจำนำทอง 2 บาท
ถามไปถามมา ไปเล่นบาคาร่ามาอีกแล้ว ประมาณ 2 แสนกว่าบาท รอบนี้ มาขอโทษอีกตามเคย
แล้วเราก็ช่วยปิดเหมือนเดิม โดยการหมุนเงินไปเรื่อยๆ เราคิดจะหย่าจริงๆรอบนี้ เราก็ใจดีทำเหมือนเดิม
คือช่วยปิดบัตร โดยให้พ่อสามีช่วยปิดบัตรด้วยคิดว่าเอาว่ะ ให้อภัย คงไม่คิดจะกลับไปเล่นแน่นอน
เราถามว่ามีบัตรอีกไหม จะได้ช่วยกันแก้ สามีบอกไม่มีแล้ว ปิดหมดแล้ว บอกสามีเสมอให้ช่วยรักษา
เครดิตหน่อยจะไปสร้างบ้านบนที่ดินแปลงที่ซื้อไว้ 1 งาน
จนรอบที่ 3 แต่รอบนี้คือ ในวันที่ 25 เม.ย. 63 เป็นวันที่เราดีใจมากๆ คือ มีคนจะมาซื้อทาวโฮมของสามี
มาวางมัดจำแล้ว เพื่อไปยื่นกู้แบงค์ เราก็จะไปสร้างบ้านบนในที่ดิน 1 งานแปลงนั้น หลัง นั่งอมยิ้มได้ประมาณ
2-3 ชั่วโมง ก็มีคนมาส่งเอกสาร เราไปรับเอง ตกใจมากเป็นหมายศาลจาก แบงค์กรุงไทย บอกสามีค้างชำระ
ให้ไปขึ้นศาลเดือน สิงหา โดยวันรุ่งขึ้นเราชวนสามีไปเช็คบูโรที่ ธอส สำนักงานใหญ่ เจอแจ็คพอร์ตค่ะ มี uob
อีก 3 ใบ หนี้รวมๆประมาณ 3 แสน ฝันสลาย เพราะสามีกู้สร้างบ้านไม่ได้แล้ว เพราะติดบูโร แต่ลำพังตัวเราเอง
สามารถกู้ได้เพิ่มอีก 2.2 ล้าน ยังไม่พอตามงบที่เราอยากได้ อยากถามว่าถ้าเจอสามีแบบนี้ จะทำอย่างไรดี อีกใจ
อยากหย่ามากเลยค่ะ แต่สงสารลูกยังเล็ก เพราะกลัวหนี้พนันแบบไม่มีวันจบ อีกใจก็รักกันดี พ่อแม่ทั้ง 2 ฝั่ง ยังไม่ทราบเรื่องและ
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการประเมินบ้านค่ะ ไม่รู้ว่าคนซื้อจะกู้ผ่านไหม ถ้ากู้ผ่าน จะมีเงินมาปิดหนี้บางส่วน แต่เกือบหมด
เราควรทำอย่างไรดีค่ะ เขาเห็นแก่ตัวมากที่ทำแบบนี้ในตอนที่ลูกเกิดมาแล้ว คิดไม่ออก ช่วยบอกเราที ทุกข์ใจมากค่ะ