เมื่อสามีติดพนันบาคาร่า ควรทำอย่างไรค่ะ

กระทู้คำถาม
ย้อนไปปี 57 ได้เจอผู้ชายคนนี้ในแอฟ แอฟหนึ่ง ที่เขย่าหาคนทีอยู่ใกล้แล้วเจอกันในแอพ
โดยผู้ชายคนนี้เป็นคนจังหวัดเดียวกัน อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เรียกเพื่อนได้ ทำงานบ.เอกชน
แห่งหนึ่งซึ่งมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง สามีได้ซื้อทาวโฮมไว้อยู่แล้วหลังหนึ่ง ส่วนเราเป็น
พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง เรามีแต่รถขับไปทำงาน เมื่อครบกันก็วินวินๆ มีทั้งรถมีทั้งบ้าน
แหละนั่นคือจุดเริ่มต้นการศึกษาดูใจกัน โดยที่พ่อแม่ทั้ง 2 บ้านรับรู้

ปี 59 เราได้ตกลงแต่งงานกัน คิดว่าเราเป็นผู้หญิงทีโชคดีมากๆคนหนึ่งได้เจอสามีที่ดี ไม่สูบบุหรี่
กินเหล้าบ้างกับเพื่อนฝูงตามปกติ หลังจากแต่งกันเราทั้งสอง ทำทุกอย่าง เพื่อให้มีเจ้าตัวเล็ก ไป
หาหมอ ออกกำลังกาย ปรึกษาหมอมีบุตรยาก ทำ iui จนได้เจ้าตัวเล็กมาตอนนี้ลูกอายุ 1 ขวบ 
5 เดือน  แต่ระหว่างที่ไปปรึกษาหมอเรื่องมีบุตรยาก เราไปเจอที่ดินแห่งหนึ่งขนาด 1 งาน ราคา
ประมาณ 1 ล้าน เราจึงตัดสินใจซื้อ เรากู้เอง เพื่อที่จะขยายครอบครัวสร้างบ้าน 

แหละนี้คือจุดเริ่มต้นเป็นช่วงที่เรากำลังตั้งท้องเดือนแรก พร้อมกับกำลังโอนที่ดินแปลงนี้  
สามีไปลักเล่นการพนันบาคาร่า หมดไปประมาณ 2 แสนกว่า โดยไปสมัครบัตรเครดิตมาเล่น 
โดยที่เราไม่รู้ตัว ตอนเรารู้เรื่องปรึกษาพ่อแม่ทั้ง 2 บ้าน เราแก้ปัญหาปิดบัตรเครดิตสามี โดยเรา
เอาเงินจากบัตรเครดิตของเราไปใช้หนี้แทนสามี แล้วเราก็จ่ายขั้นต่ำมาเรื่อยๆ ได้โบนัสทั้งคู่ก็เอา
ไปปิดเรื่อยๆ

จนรอบที่ 2 เดือน ก.ย. 62 เขากลับมาบ้านตอนเมา เราค้นกระเป๋าไปเจอใบจำนำทอง 2 บาท 
ถามไปถามมา ไปเล่นบาคาร่ามาอีกแล้ว ประมาณ 2 แสนกว่าบาท รอบนี้ มาขอโทษอีกตามเคย 
แล้วเราก็ช่วยปิดเหมือนเดิม โดยการหมุนเงินไปเรื่อยๆ เราคิดจะหย่าจริงๆรอบนี้ เราก็ใจดีทำเหมือนเดิม
คือช่วยปิดบัตร โดยให้พ่อสามีช่วยปิดบัตรด้วยคิดว่าเอาว่ะ ให้อภัย คงไม่คิดจะกลับไปเล่นแน่นอน  
เราถามว่ามีบัตรอีกไหม จะได้ช่วยกันแก้ สามีบอกไม่มีแล้ว ปิดหมดแล้ว บอกสามีเสมอให้ช่วยรักษา
เครดิตหน่อยจะไปสร้างบ้านบนที่ดินแปลงที่ซื้อไว้ 1 งาน

จนรอบที่ 3 แต่รอบนี้คือ ในวันที่ 25 เม.ย. 63 เป็นวันที่เราดีใจมากๆ คือ มีคนจะมาซื้อทาวโฮมของสามี
มาวางมัดจำแล้ว เพื่อไปยื่นกู้แบงค์ เราก็จะไปสร้างบ้านบนในที่ดิน 1 งานแปลงนั้น หลัง นั่งอมยิ้มได้ประมาณ
2-3 ชั่วโมง ก็มีคนมาส่งเอกสาร เราไปรับเอง ตกใจมากเป็นหมายศาลจาก แบงค์กรุงไทย บอกสามีค้างชำระ
ให้ไปขึ้นศาลเดือน สิงหา โดยวันรุ่งขึ้นเราชวนสามีไปเช็คบูโรที่ ธอส สำนักงานใหญ่ เจอแจ็คพอร์ตค่ะ มี uob
อีก 3 ใบ หนี้รวมๆประมาณ 3 แสน ฝันสลาย เพราะสามีกู้สร้างบ้านไม่ได้แล้ว เพราะติดบูโร แต่ลำพังตัวเราเอง
สามารถกู้ได้เพิ่มอีก 2.2 ล้าน ยังไม่พอตามงบที่เราอยากได้ อยากถามว่าถ้าเจอสามีแบบนี้ จะทำอย่างไรดี อีกใจ
อยากหย่ามากเลยค่ะ แต่สงสารลูกยังเล็ก เพราะกลัวหนี้พนันแบบไม่มีวันจบ อีกใจก็รักกันดี พ่อแม่ทั้ง 2 ฝั่ง ยังไม่ทราบเรื่องและ
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการประเมินบ้านค่ะ ไม่รู้ว่าคนซื้อจะกู้ผ่านไหม ถ้ากู้ผ่าน จะมีเงินมาปิดหนี้บางส่วน แต่เกือบหมด
เราควรทำอย่างไรดีค่ะ เขาเห็นแก่ตัวมากที่ทำแบบนี้ในตอนที่ลูกเกิดมาแล้ว  คิดไม่ออก ช่วยบอกเราที ทุกข์ใจมากค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 115
เข้ามากอดให้กำลังใจนะคะ  ชีวิตมีทางออกเสมอ เราเคยเจอสถานการณ์แบบนี้เมื่อ 3 ปีก่อน ทุกข์ใจมาก  เป็นเรื่องที่หนักสุดในชีวิต  เรากำลังสร้างบริษัทเล็กๆด้วยกัน  มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง  สามีเป็นคนเก็บเงินนะคะ  เราแค่คอยดูยอดการเก็บการใช้จ่ายในการทำงาน  ความไว้ใจอย่างเดียวเลยค่ะ เรามารู้ตัวอีกทีวันที่เงินหมดแล้ว  และหนี้จำนวนมหาศาล  รวมทั้งหมดเกือบ 5 ล้าน  วันนั้นเขาไปสารภาพกับพี่สาวเขา  เรื่องการพนันและหนี้   เขาไม่กล้าบอกเรา  เพราะช่วงนั้นงานในบริษัทค่อนข้างยุ่ง  เพราะเงินเริ่มไม่มีหมุน  เขาอ้างว่ารอลูกค้าจ่ายบ้าง  จ่ายมาแล้วบ้าง  พอเราขอดูสลิปการโอนจ่ายหรือหลักฐานในการจ่าย  เขาบอกจะหาให้ทีหลัง  แล้วก็ทะเลาะกันเรื่อยมา  จริงๆเราเริ่มรู้สึกผิดปกตินะ  แต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำขนาดนี้  พอเรารู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น   วันนั้นทุกข์ใจมาก  แต่ไม่รู้จะคุยกับใคน  ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน  เราเข้าห้องพระไหว้พระและนอนอยู่ในห้องพระ  ลูกยังเล็กมาก คนโต 7 ขวบ คนเล็ก 3 ขวบ  เราห่วงความรู้สึกลูกมาก  ความคิดแว่บหนึ่ง  ถ้าอยากหลุดพ้นโดยไม่เจ็บปวดอีกคือการตายไปพร้อมกับลูก  แต่เราไม่สามารถทำร้ายลูกได้  ถ้าเลิกกันลูกคงต้องถามหาพ่อ  สุดท้ายเขามาขอโทษ  ขอโอกาสเขา  ขอให้อย่ากลับไปเป็นแบบนั้นอีก  เขารับปาก  ช่วงนั้นไม่มีแม้เงินจะหมุนทำงาน  มีแค่ค่าจ้างพนักงาน  ส่วนเงินสดที่ใช้ในการทำงานไม่มีเลยค่ะ  ใช้เครดิตล้วนๆ  โดนด่าบ้างจากsup ต่างๆ  เราคิดว่าเดี๋ยวมันต้องดีขึ้น  เราจะจัดการเรื่องการเงินทุกอย่างเอง  โดยเราจะให้เงินเขาใช้  ส่วนหนี้สินต่างๆจากการพนันทยอยจ่ายเรื่อยๆ  มันเยอะมาก  ช่วงนั้นเครียดสุดๆ  เรากลายเป็นคนไม่ค่อยคุยกับใคร  ทำงานอย่างเดียว  ผ่านมา 5 เดือน  เหตุการณ์เริ่มผิดปกติอีก  เขาบอกเก็บเงินลูกค้าไม่ได้เป็นบางเจ้า  และที่สุด  คือ แอบเอางานในบริษัทไปทำเอง  เพื่อจะได้รับส่วนต่างเป็นกำไร  วันนั้นเรารู้เรื่องนี้เพราะโทรเช้คกับ sup เราถามเขาว่าทำแบบนี้ทำไม  เคยเห็นความทุกข์ใจของเราไหม  ทุกอย่างบั่นทอนจิตใจเราจนจะอยู่ไม่ไหวแล้ว  เราทำงานงกๆหาเงินใช้หนี้พนันให้เขาเดือนละหลายหมื่น  เขาสารภาพกับเราว่าแอบเล่นอีกเพราะอยากได้เงินคืน  แต่สุดท้ายติดหนี้อีก  เขาขอโอกาสอีกได้ไหม  ตอนนั้นเราไม่มีความรู้สึกอะไรแล้ว  เสียใจซ้ำกับเรื่องเดิมๆ  สุดท้ายเหมือนเดิมเพื่อลูก  เราให้เขาสาบานต่อหน้าพระหากเขาโกหกหรือเล่นการพนันขอให้มีอันเป็นไป  และไปบวชเพื่อขออโหสิกรรมกับทุกคนและเริ่มต้นชีวิตใหม่  เขาก็ยอมทำตามนั้น  เรายอมกลับมาเป็นครอบครัว  เพราะงานในบริษัทเริ่มดีขึ้น  และครอบครัวเขาขอโอกาสให้เขาอีกครั้ง  แต่ห้ามให้เขายุ่งเรื่องการเงินทั้งหมด  และหากมีครั้งต่อไปเลิกกันเลย  จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบ 3 ปีเต็ม  เรามองย้อนกลับไปเห็นภาพตัวเองแอบนอนร้องไห้ตอนกลางคืนบ้าง  นอนร้องไห้ในห้องพระบ้าง เราผ่านมาได้ด้วยกำลังใจของตัวเองล้วนๆ  มีอ้อมกอดเล็กๆของลูกคอยกอดในวันที่เหนื่อยหล้า  ขอให้คุณก้าวผ่านมันไปให้ได้นะคะ  สติสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตนะคะ  มีสติในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ  หาหนังสือธรรมมะดีๆมาพกติดตัวไว้อ่านนะคะ  มันช่วยเราได้เยอะมากในวันที่หมดสิ้นกำลังใจที่จะไปต่อในโลกนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่