เรื่อง…ต้นไม้วิเศษกับหญิงสาวผู้หลงทาง
บทที่ 1 เรื่องราวในอดีต (1) (1.1)
“ได้สิ ฉันจะบอกเธอ แต่นั่นหมายถึง ถ้าเธอรู้ความลับของฉันแล้ว เธอจะต้องกลายมาเป็นเจ้าสาวของฉัน เธอตกลงไหม”
………… เมื่อ 15 ปีก่อนหน้านี้………….
“ที่นี้สวยจังค่ะ” ฮันนาในวัย 10 ขวบพูดขึ้น หลังจากเปิดกระจกรถยนต์ ที่กำลังขับไปตามทางถนนลูกรัง เด็กหญิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ด้วยดวงตาเป็นประกาย ราวกับได้พบกับสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ซึ่งสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่างนั้น คือธรรมชาติที่สวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นาๆชนิด สิ่งธรรมดาๆเหล่านี้ทำให้เด็กหญิงที่เคยพบเห็นเพียงสิ่งที่มีอยู่ในเมืองกรุง เหมือนได้มาเปิดโลกใบใหม่ โลกใบที่เธอเคยเห็นเพียงในหนังสือ รูปภาพ หรือหน้าจอโทรทัศน์เท่านั้น
“ที่นี้คือบ้านเก่าของปู่ เมื่อสมัยหนุ่มๆ และมันจะกลายเป็นของหลานต่อไป ถ้าหลานต้องการ” คุณปู่ผู้ใจดีกล่าวขึ้น พร้อมกับยิ้มหวานๆให้หลานสาว
ขับรถไปตามทางสักพัก ก็มาถึงบ้านไม้สีขาวสองชั้น ที่ไม่ใหญ่โตเหมือนบ้านในเมืองกรุง แต่ก็ใหญ่พอให้อยู่อาศัยได้สบายๆ สองคนปู่หลานลงจากรถเมื่อรถจอดนิ่ง “ปู่จะพาไปดูรอบๆบ้านนะฮันนา” คุณปู่พูดขึ้น พร้อมกับจูงมือน้อยๆ ของเด็กหญิงฮันนาไปตามทางเดินรอบๆบ้าน
และด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเด็กสาว ก็ไม่รีรอที่จะให้คุณปู่เป็นผู้นำอย่างเดียว เธอได้วิ่งไปมารอบๆบ้าน ที่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้หลากสีหลากชนิด พร้อมกับถามคำถามมากมาย ที่เกี่ยวกับดอกไม้เหล่านี้ “คุณปู่ๆ ดอกสีแดงๆอันนี้เรียกว่าอะไรคะ” พร้อมชีมือชีไม้ไปที่ดอกไม้นั้น “คุณปู่ๆ ดอกสีขาวๆนี่เรียกว่าอะไรคะ กลิ่นหอมจัง” หลานสาวยิ่งคำถามมากมายใส่คุณปู่ โดยที่ไม่รอแม้แต่คำตอบใดๆ ที่ตนถาม
คุณปู่ได้แต่ยืนมองการกระทำต่างๆของหลานสาว ด้วยรอยยิ้มในความน่ารักน่าชังที่ไร้เดียงสาของหลานสาว
ฮันนาคือหลานสาวสุดรักสุดหวง ที่คุณปู่คนนี้ พร้อมจะทำทุกอย่าง และยกทุกอย่างให้ แม้แต่บ้านหลังนี้ ที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียว ที่เขาไม่แม้แต่จะให้คนอื่นในครอบครัวรู้ แม้แต่ลูกชายแท้ๆของเขาก็ไม่เคยรู้เรื่องที่นี้
“โอ๊ย!...” ฮันนาร้องขึ้นเสียงดัง ทำให้คุณปู่ที่กำลังอยู่ในภาวัง เมื่อคิดถึงสิ่งต่างๆได้สติ
คุณปู่ตื่นตกใจกับเสียงร้องของฮันนาและวิ่งไปหาหลานสาวทันที “ฮันนา หลานเป็นอะไร เจ็บตรงไหน” คุณปู่รีบพูดขึ้นด้วยความตกใจ พร้อมกับสำรวจไปทั่วร่างกายของหลานสาว ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ และก็พบว่าฮันนากำลังกุมนิ้วมือ ที่มีเลือดสีแดงหยดไหลออกมา
“ดอกไม้สวยๆ ฮืออ… มันมีหนาม ฮึกก… ด้วยค่ะคุณปู่ ฮันเจ็บ…” เด็กสาวบอกกับคุณปู่ พร้อมกับน้ำตาที่กำลังไหล อาบสองแก้มนุ้มๆของเด็กหญิง
“โอ้ๆ ไม่ร้องนะเด็กดี เจ็บนิดเดียวเอง เดี๋ยวปู่พาไปทำแผลนะ” คุณปู่ว่าพรางกอดหลานสาวไว้ และไม่นานก็จูงมืออีกข้างของหลานสาวเดินเข้าไปในตัวบ้าน ในใจนึกอยากจะอุ้ม แต่ด้วยความที่ตนนั้นอายุมากแล้ว ด้วยวัย 60 กว่าๆ กับหลานสาววัย 10 ขวบคงไม่ไหว ไม่สามารถที่จะอุ้มฮันนา ได้เหมือนเมื่อตอนที่ยังเล็กกว่านี้
เวลาผ่านไปสักพัก หลังจากทำแผลที่นิ้วมือน้อยๆของเด็กหญิงฮันนาเสร็จ ก็ได้เวลาของอาหารเย็นของปู่หลาน ในระหว่างมื้อเย็นแห่งความสุข ที่เต็มไปด้วยรอบยิ้มและเสียงหัวเราะ อยู่ๆก็มีเสียงฟ้าร้องจากข้างนอกบ้าน ที่อากาศกำลังบอกว่า อีกไม่นานจะมีฝนตกอย่างหนัก
“ฟ้าร้องน่ากลัวจังค่ะ” เด็กสาวพูดกับคุณปู่ เมื่อเสียงฟ้าร้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“สงสัยวันนี้พายุจะเข้านะ” คุณปู่พูดขึ้น หลังจากมองออกไปด้านนอก ที่เริ่มมีแสงฟ้าผ่าบนท้องฟ้า พร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดเข้ามาในตัวบ้าน
“ฮันอิ่มแล้วค่ะ” เด็กสาวรวบช้อนที่จาน แบบสะแปะสะปะเมื่อกินเสร็จ พร้อมกับยิ้มร่าให้คุณปู่
“ถ้าหลานอิ่มแล้ว งั้นก็ไปอาบน้ำ และเตรียมตัวเข้านอนนะ วันนี้ฝนน่าจะตกหนัก” คุณปู่พูดกับฮันนาและเรียกแม่บ้าน ในมาพาหลานสาวไปอาบน้ำเปียนเสื้อผ้า
ผ่านไปไม่นานฝนก็เริ่มตก และเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อฉันว่าง ฉันจึงแต่งนิยาย (2)
บทที่ 1 เรื่องราวในอดีต (1) (1.1)
“ได้สิ ฉันจะบอกเธอ แต่นั่นหมายถึง ถ้าเธอรู้ความลับของฉันแล้ว เธอจะต้องกลายมาเป็นเจ้าสาวของฉัน เธอตกลงไหม”
………… เมื่อ 15 ปีก่อนหน้านี้………….
“ที่นี้สวยจังค่ะ” ฮันนาในวัย 10 ขวบพูดขึ้น หลังจากเปิดกระจกรถยนต์ ที่กำลังขับไปตามทางถนนลูกรัง เด็กหญิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ด้วยดวงตาเป็นประกาย ราวกับได้พบกับสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ซึ่งสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่างนั้น คือธรรมชาติที่สวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นาๆชนิด สิ่งธรรมดาๆเหล่านี้ทำให้เด็กหญิงที่เคยพบเห็นเพียงสิ่งที่มีอยู่ในเมืองกรุง เหมือนได้มาเปิดโลกใบใหม่ โลกใบที่เธอเคยเห็นเพียงในหนังสือ รูปภาพ หรือหน้าจอโทรทัศน์เท่านั้น
“ที่นี้คือบ้านเก่าของปู่ เมื่อสมัยหนุ่มๆ และมันจะกลายเป็นของหลานต่อไป ถ้าหลานต้องการ” คุณปู่ผู้ใจดีกล่าวขึ้น พร้อมกับยิ้มหวานๆให้หลานสาว
ขับรถไปตามทางสักพัก ก็มาถึงบ้านไม้สีขาวสองชั้น ที่ไม่ใหญ่โตเหมือนบ้านในเมืองกรุง แต่ก็ใหญ่พอให้อยู่อาศัยได้สบายๆ สองคนปู่หลานลงจากรถเมื่อรถจอดนิ่ง “ปู่จะพาไปดูรอบๆบ้านนะฮันนา” คุณปู่พูดขึ้น พร้อมกับจูงมือน้อยๆ ของเด็กหญิงฮันนาไปตามทางเดินรอบๆบ้าน
และด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเด็กสาว ก็ไม่รีรอที่จะให้คุณปู่เป็นผู้นำอย่างเดียว เธอได้วิ่งไปมารอบๆบ้าน ที่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้หลากสีหลากชนิด พร้อมกับถามคำถามมากมาย ที่เกี่ยวกับดอกไม้เหล่านี้ “คุณปู่ๆ ดอกสีแดงๆอันนี้เรียกว่าอะไรคะ” พร้อมชีมือชีไม้ไปที่ดอกไม้นั้น “คุณปู่ๆ ดอกสีขาวๆนี่เรียกว่าอะไรคะ กลิ่นหอมจัง” หลานสาวยิ่งคำถามมากมายใส่คุณปู่ โดยที่ไม่รอแม้แต่คำตอบใดๆ ที่ตนถาม
คุณปู่ได้แต่ยืนมองการกระทำต่างๆของหลานสาว ด้วยรอยยิ้มในความน่ารักน่าชังที่ไร้เดียงสาของหลานสาว
ฮันนาคือหลานสาวสุดรักสุดหวง ที่คุณปู่คนนี้ พร้อมจะทำทุกอย่าง และยกทุกอย่างให้ แม้แต่บ้านหลังนี้ ที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียว ที่เขาไม่แม้แต่จะให้คนอื่นในครอบครัวรู้ แม้แต่ลูกชายแท้ๆของเขาก็ไม่เคยรู้เรื่องที่นี้
“โอ๊ย!...” ฮันนาร้องขึ้นเสียงดัง ทำให้คุณปู่ที่กำลังอยู่ในภาวัง เมื่อคิดถึงสิ่งต่างๆได้สติ
คุณปู่ตื่นตกใจกับเสียงร้องของฮันนาและวิ่งไปหาหลานสาวทันที “ฮันนา หลานเป็นอะไร เจ็บตรงไหน” คุณปู่รีบพูดขึ้นด้วยความตกใจ พร้อมกับสำรวจไปทั่วร่างกายของหลานสาว ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ และก็พบว่าฮันนากำลังกุมนิ้วมือ ที่มีเลือดสีแดงหยดไหลออกมา
“ดอกไม้สวยๆ ฮืออ… มันมีหนาม ฮึกก… ด้วยค่ะคุณปู่ ฮันเจ็บ…” เด็กสาวบอกกับคุณปู่ พร้อมกับน้ำตาที่กำลังไหล อาบสองแก้มนุ้มๆของเด็กหญิง
“โอ้ๆ ไม่ร้องนะเด็กดี เจ็บนิดเดียวเอง เดี๋ยวปู่พาไปทำแผลนะ” คุณปู่ว่าพรางกอดหลานสาวไว้ และไม่นานก็จูงมืออีกข้างของหลานสาวเดินเข้าไปในตัวบ้าน ในใจนึกอยากจะอุ้ม แต่ด้วยความที่ตนนั้นอายุมากแล้ว ด้วยวัย 60 กว่าๆ กับหลานสาววัย 10 ขวบคงไม่ไหว ไม่สามารถที่จะอุ้มฮันนา ได้เหมือนเมื่อตอนที่ยังเล็กกว่านี้
เวลาผ่านไปสักพัก หลังจากทำแผลที่นิ้วมือน้อยๆของเด็กหญิงฮันนาเสร็จ ก็ได้เวลาของอาหารเย็นของปู่หลาน ในระหว่างมื้อเย็นแห่งความสุข ที่เต็มไปด้วยรอบยิ้มและเสียงหัวเราะ อยู่ๆก็มีเสียงฟ้าร้องจากข้างนอกบ้าน ที่อากาศกำลังบอกว่า อีกไม่นานจะมีฝนตกอย่างหนัก
“ฟ้าร้องน่ากลัวจังค่ะ” เด็กสาวพูดกับคุณปู่ เมื่อเสียงฟ้าร้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“สงสัยวันนี้พายุจะเข้านะ” คุณปู่พูดขึ้น หลังจากมองออกไปด้านนอก ที่เริ่มมีแสงฟ้าผ่าบนท้องฟ้า พร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดเข้ามาในตัวบ้าน
“ฮันอิ่มแล้วค่ะ” เด็กสาวรวบช้อนที่จาน แบบสะแปะสะปะเมื่อกินเสร็จ พร้อมกับยิ้มร่าให้คุณปู่
“ถ้าหลานอิ่มแล้ว งั้นก็ไปอาบน้ำ และเตรียมตัวเข้านอนนะ วันนี้ฝนน่าจะตกหนัก” คุณปู่พูดกับฮันนาและเรียกแม่บ้าน ในมาพาหลานสาวไปอาบน้ำเปียนเสื้อผ้า
ผ่านไปไม่นานฝนก็เริ่มตก และเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ