มันคือความรักหรือแค่เหงา แล้วถ้ามันเเป็นแค่ความเหงาเราจะมูฟออนยังไง

กระทู้แรกที่เกิดจากการกักตัวอยุ่บ้านคนเดียว อาจจะยาวๆหน่อยนะคะ...
เริ่มต้นจากประมาณปลายปีที่แล้ว เราระหองระแหงกับแฟนที่คบกันมา 9 ปีค่ะ คบตั้งแต่เรียนมา.ปลายจนทำงานทำการ และลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ใครต่อใครที่รู้จักและเจอพวกเรา ต้องทักว่า นี่ยังไม่เลิกกันอีกหรอ? ในขณะที่ทุกคนเปลี่ยนแฟนไปไม่รู้จะกี่คนแล้ว
เหตุผลทีทำให้เราคบกับเค้าได้นานขนาดนั้น อาจเป็นเพราะนิสัยต่างๆที่ค่อนข้างไปด้วยกันได้ดี เราเอาแต่ใจมาก อารมณ์ร้อน แต่เขานิ่ง และเย็น บวกยอมตามใจเพื่อให้ทุกอย่างผ่านพ้นไป แต่นั่นอาจไม่ได้มาจากความสมัครใจของเค้าทั้งหมด เรื่องทุกอย่างเลยเป็นแบบนี้
ตอนคบกันได้ 5 ปี เราเริ่มจับได้ว่าแฟนมีกิ๊ก เค้าจีบเด็กฝึกงาน และเราจับได้เพราะกิ๊กคนที่ 2 เป็นคนแฉว่าแฟนเราไปเที่ยวเกาะพีพีกับกิ๊กคนแรก ประมาณว่าคงอยากให้เราเลิกกับแฟนเด็ดขาด เรายอมรับเลยว่าเราเจ็บและโกรธมาก เพราะเราไม่เคยคิด หรือระแวงอะไรเลยว่าแฟนเราจะนอกใจ เพราะทุกอย่างดูปกติมาก และอีกอย่างเกาะพีพีคือที่ที่เราไปเที่ยวกับแฟนในวันครบรอบ เราเป็นคนที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับวันสำคัญต่างๆมาก หลังจากที่เรารู้เรื่องจากกิ้กคนที่2 เราถามแฟนและปรับความเข้าใจกับแฟนแล้วเราตกลงว่าจะเริ่มต้นกันใหม่ โดยที่เราไม่เคยคิดเลยว่านั่นจะเป็นโอกาสที่ทำให้แฟนเรารู้สึกได้ใจและทำเรื่องพวกนี้ซ้ำๆโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของเราเลย
กิ้กคนแรกและคนที่ 2 จับได้ในปีที่ 5 ที่คบกัน แต่หลังจากนั้นทุกๆการฉลองวันครบรอบของเราทุกๆปี เราจะพบว่าแฟนของเราแอบคุยและคบกับผู้หญิงคนอื่นเรื่อยๆ แฟนเราเป็นคนเปลี่ยนที่ทำงานบ่อย และทุกการเปลี่ยนแปลงมักจะมีตัวละครผู้หญิงคนใหม่เข้ามา เราจับได้เค้าขอโทษ ขอเริ่มใหม่ เราก็เริ่มใหม่ ส่วนเค้าก็เช่นกัน เริ่มใหม่ หางานใหม่และมีผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดแตกหักในปีที่ 9 เราจับได้อีกครั้งว่าเค้าแอบคุยกับเด็กฝึกงาน มันเป็นครั้งที่ทำให้เราเกือบเป็นบ้า เพราะระยะเวลามันนานมาก คือต้องบอกก่อนเลยว่าทุกๆครั้งที่เราจับได้ว่าแฟนมีคนอื่น เราจะเคลียร์กับแฟนและผู้หญิงคนนั้นๆ และซักพักผู้หญิงพวกนั้นก็จะหายไป แต่คนล่าสุดกลับไม่ใช่เราเริ่มจับพิรุดได้คือเราเข้าเฟสแฟนและเห็นว่ารูปคู่ที่แฟนถ่ายกับเรามีการตั้งปิดไม่ให้เฟสนึงเห็น เราถามแฟนเพราะเรารู้ว่าเด็กคนนี้คือเด็กฝึกงานที่ทำงาน แฟนเราบอกว่าไม่มีอะไร กดไปโดนเฉยๆเราก็เชื่อ ไม่ใช่ว่าเราโง่นะแต่เราไม่อยากคิดอะไรมากหหรือทะเลาะกันทุกๆวันมันไม่มีความสุข เราปล่อยเรื่องนี้ให้จบไปโดยที่เราไม่รู้เลยว่าเรากำลังโดนสวมเขาอยู่ 
หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัดประมาณ 1 อาทิตย์ เราด้วยความที่ไม่เคยคิดหรือรู้อะไรเลย ด้วยความเชื่อใจเราเอากุญแจรถยนต์ไว้ที่เค้า เพื่อวันที่เรากลับมาเค้าจะได้ไปรับเราที่สนามบิน โดยที่เราไม่รู้เลยว่าเค้าจะเอาไปรับไปส่งผู้หญิงอีกคนนึง ซึ่งรถคันนั้นเป็นของเรา เพราะเราไม่เคยสร้างอะไรกับเค้า เพราะเค้าไม่ค่อยเอาไหนเรื่องงานเท่าไหร่ เปลี่ยนงานบ่อยเราเลยทำทุกอย่างด้วยตัวเอง พอมารู้แบบนี้คือเราแค้นมาก เรามาจับได้จังๆในวันที่เค้าโดกหกเราว่าเค้าจะไปรับเพื่อนที่บขส. แต่เค้าไม่ให้เราไป อ้างว่ามันเช้าเกินอยากให้เรานอน เราเลยโอเคยอมเชื่อ แต่สัญชาตญาณผู้หญิง เราขับรถตามไปแต่แฟนเรารู้ตัว ไหวตัวทัน นางขับรถกลับบ้านโดยไม่ได้ไปเจอใครที่ บขส  กลับมาทะเลาะกันที่บ้านเราเช็คโทรศัพท์และโทรกลับไป สรุปเป็นเบอร์ของเด็กใฝึกงานคนที่แฟนเราปิดโพสต์รูปคู่เราเมื่อวันก่อน แต่แฟนและเด็กคนนั้นเตี๊ยมกัน ว่าเพื่อนที่แฟนเราจะไปรับบังเอิญเจอน้องเค้าที่ บขส และโดทรศัพท์แบตหมดเลยยืมโทรศัพท์ขิงน้องเค้าโทรหาแฟนเรา เราก็ยอมจบไป 
แต่จุดพีคมาเกิดตอนที่แฟนเราไปแข่งบอล วันนั้นบังเอิญเราติดงานเราเลยไม่ได้ไปด้วย เราไม่เคยรู้เลยว่าทุกครั้งที่เราไม่ไปกับแฟนจะมีผู้หญิงคนนี้ไปแทนเราตลอด แต่เราเชื่ออย่างนึงคือ ความลับไม่มีในโลก เราบังเอิญเลิกงานเร็วและรถที่ทำงานผ่านหน้าสนามบอล เราเลยลงตรงนั้นโดยที่แฟนไม่รู้ เพราะเค้าแข่งอยู่ เราเดินเข้าไปมนสนามพร้อมสายตาเพื่อนทุกคนมองมาที่เราแบบตกใจ และเพื่อนคนนึงถามเราว่าเรามาได้ยังไง เราก็บอกไปปรกติ แต่เราสังเกตเห็นความไม่ปกติในสายตาเพื่อน เราเลยถามว่าแฟนเราพาใครมา ทุกคนถึงกับอึ้ง เราไม่รู้ว่าทำไมเราถึงถามคำถามนั้นทั้งที่เราไม่เห็นอะไรเลย แต่เหมือนทุกอย่างมันชวนให้คิด แต่สรุปวันนั้นเราก๋ไม่ได้เจอน้องคนนั้น เพราะนางหลบออกไปอีกทางตอนเห็นเรา มันเจ็บตรงที่ เราไม่รู้ว่านางคือคนไหน ในขณะที่นางรู้เรื่องของเราทุกอย่าง เราทะเลาะกับแฟนหนักมาก แฟนเราบอกจะเลิกยุ่ง ให้แม่เค้ามาคุยกับเราขอให้เราอยู่ต่อ ครั้งนี้มันเหมือนเราอยากพอแล้ว เค้าเลยให้แม่มาพูดว่าจะไปคุยกับพ่อเรา และทำทุกอย่สงให้เป็นเรื่องจริง และจริงจังกับเราคนเดียว
เราเกือบมั่นใจและเริ่มต้นใหม่กับผู้ชายคนนั้นเพียงเพราะเวลาที่คบกันมานาน โดยไม่คำนึงว่าเขาเป็นคนยังไง หลังจากเค้าไปคุยกับพ่อเราเค้าไม่เคยหยุดคุยกับเด็กคนนั้น ยังคงแอบคบ ไปเที่ยว และนัดมาที่ห้อง คือแบบ... วันที่เราเลิกงานและกลับมาเจอพวกนางอยู่ในห้องด้วยกันเราแบบ...พูดไม่ออกจริงๆ มันเป็นอารมณ์แบบตัดก็ไม่ได้ ไปต่อก็ไม่ไหว เราอายมากที่เหตุการณ์วันนั้นทำให้เราลดค่าตัวเองให้กับผู้ชายคนนึง โดยการเป็นตัวเลือก เราถามเค้าให้เค้าเลือกว่าเค้าจะเลือกใคร พอมานึกถึงวันนี้มันทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเองมาก มันทำให้เรารู้สึกไม่มีค่าเลย เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นวนเวียนกับเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าในระยะเวลา 2-3 เดือน กับผู้หญิงคนนี้คนเดียว ที่แฟนเราไม่ยอมเลิกยุ่ง จนเราเลือกที่จะถอยออกมาเอง
เราเคยคิดว่าเราจะอยู่ไม่ได้เพราะเราไม่มีเค้า แต่วันนี้เราดีขึ้นมากแล้วอาจเป็นเพราะตอนที่เราเริ่มถอยออกมา ดันมีคนอีกคนนึงเข้ามาในชีวิตเราในเวลาที่เรากำลังจะมูฟออนจากคนเก่าพอดี เค้าคือเพื่อนร่วมงานของเราเอง เราทำงานเป็นไกด์ที่ทำงานเป็นคู่และหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ และเราก็มาเจอกับคนคนนี้ เค้าดูใจดีและมีความเป็นผู้ใหญ่มากๆ เราเริ่มเปิดใจคุยกับเค้า แรกๆเค้าดูใส่ใจรายละเอียดของเราทุกอย่างทำให้เราเปิดใจมาเรื่อยๆ แต่แล้วพอเราเริ่มจะอินกับความสัมพันธ์ใหม่ เค้าก็ต้องย้ายกลับบ้านเค้า เนื่องจากจบสัญญางานและมีโควิดมาเกี่ยวข้องด้วย ตอนนี้เราเริ่มไม่แน่ใจว่าทำไมเราถึงได้มาคัยกับคนนี้ เราบอกเลยว่าเค้าดูเป้นผู้ใหญ่จริง แต่ความผู้ใหญ่ทำให้เค้าตั้งกฎกับเรามาก เราไม่สามารถทำอะไรตามใจเราได้เหมือนแต่ก่อนเลย เค้าจะคอยจับตาดูและพูดในสิ่งที่เค้าไม่ชอบ จนพักหลังๆเราเริ่มรู้สึกว่ามันเยอะเกินไป เราเริ่มไม่แน่ใจว่าเราเริ่มรักเค้า หรือแค่เหงาช่วงอกหักกันแน่ แต่ที่แน่ๆเรารู้สึกว่าบางทีมันดูเยอะเกินไป และเรารู้สึกว่ามีอะไรหลายๆอย่างที่เรากับเค้าไม่ค่อยเข้ากัน ไม่ว่าจะ ภาษา เชื้อชาติ ศาสนา ทำให้เราไม่ค่อยคุยกับเค้า และพอเราเริ่มหายไปเค้าจะกลับมาคุย วิดิโอคอล บรา...บรา... คือเราสัญญากับเค้าว่าเราจะรอเค้ากลับมา แต่ด้วยความต่างหลายๆอย่างทำให้เรารู้สึกว่าเราอาจไม่ได้รู้สึกกับเค้ามากขนาดนั้น เราควรมูฟออนยังไง หายไปเฉยๆ หรือควรพูดอะไร หรือควรรอให้เค้าถาม แล้วถ้าเค้าถามเราควรพูดอะไร เพร่ะทุกวันนี้เวลาที่เค้าโทรมาเราก็ยังทำตัวปกติ คุยกันปกติ เราเลยไม่แน่ใจว่าตกลลงเรารู้สึกยังไงกันแน่ แล้วเราควรทำยังไงต่อไป😔
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่