สวัสดีค่ะ
กระทู้นี้คือกระทู้แรกของเราเลยนะคะ ถ้าหากผิดพลาดประการใดหรือพิมพ์ผิดตรงไหนสามารถแนะนำได้เลยนะคะ
วันนี้เราจะมาประประสบการณ์รักษาสิวมากกว่า 6 ปีของเรา เราเป็นสิวจนหมดหวัง ท้อใจมากค่ะ
หาหมอแล้ว รักษาก็แล้ว เปลี่ยนครีมก็แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้คือสิวครั้งแรกตอนที่ไปอยู่อเมริกาค่ะ รูปนี้แค่น้ำจิ้มนะคะ อืมหิมมมม มีสยองกว่านี้อีก
เราไม่รู้เลยว่าจะรักษายังไง พอกลับมาไทยเราก็พยายามหาหมอหมดเงินไปเป็นแสนเลยค่ะ ( รวมๆนะคะ )
พอเหมือนจะหายก็กลับมาอีก บอกก่อนเราเป็นคนแพ้ง่ายมากกกกก นิดหน่อยก็ผื่นขึ้น แถมหน้ามันเป็นของแถมด้วยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้คือดีที่สุดก่อนหน้านะคะ คือหน้าสดปกติสิวและความมันเลยค่ะ ภาพนี้ตอนกลับไปเมืองไทยครั้งที่แล้วนะคะ
จนกระทั้งเราย้ายมาอยู่ออสเตรเลียค่ะ พอปีที่สองเราได้รู้จักกับน้องคนนึง จบวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
เรียกว่า น้องลุ๊คนะคะ
เราไม่ได้ไปขอคำแนะนำนะคะ เพราะอย่างที่บอกไปเพราะท้อใจแล้ว ก็รักษาไม่ให้เจ็บหน้าก็พอ ให้มันไม่แห้งจนเจ็บหน้าแค่นั้น
น้องเดินมาแนะนำเราค่ะว่าให้ทำไม่เราถึงไม่ลองรักษาหน้าด้วยตัวเองอีกสักครั้ง
วิธีง่ายๆมีดังนี้ค่ะ
1. ล้างหน้าให้สะอาดน้องลุ๊คบอกว่า เครื่องสำอางเนี้ยมันมีซิลิโคนและออยอยู่ ถ้าล้างแค่โฟมมันไม่พอหรอก ให้ใช้ make up remover ด้วย
เพราะล้างหน้าคือส่วนที่สำคัญที่สุดของการรักษาหน้า
2. ให้ลองใช้ Product ของ The ordinary แค่สองตัวพอตัวละ 10 AUD เอง ( ประมาณ 200 บาทไทย )
คือตัว Hyaluronic Acid และ Niacinamide แต่เราซื้อเพิ่มอีก 1 ตัว Resveratrol Fulic Acid เพราะเห็นมันไม่แพงในตอนนั้น
ตอนแรกน้องแนะนำแค่เท่านี้จริงๆค่ะ เพราะน้องคงรู้เราไม่มีเงินซื้อของแพงๆมาใช้
เรากลับมาทำอย่างเคร่งครัดค่ะ ก็คือลองดูอีกครั้ง ได้ดีใจ ถ้าไม่ได้ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
เราล้างหน้าอย่างดี ใช้ผ้าขนหนูแยกจากผ้าเช็ดตัวด้วยค่ะ เมาแค่ไหน ปาร์ตี้ยังไง ถึงบ้านปีบ ก่อนนอนเลยคือล้างหน้าให้สะอาด
มันเป็นความรู้สึกสู้แบบสุดใจค่ะ เพราะอยากสวยก่อนอายุสามสิบ อิอิ
และทาเซรั่มเป็นประจำทุกวันไม่ให้ขาด
อ๋อลืมบอกไปเราล้างหน้าด้วย Cethaphil pro Acne prone นะคะ มันเป็นเนื้อโฟมนิ่มๆ ดูสะอาดดี และมีคำว่า Acne อยู่เราเลยซื้อมาใช้
ใช้ไปประมาณแค่อาทิตย์แรกคือหน้าเราไม่มันมากตอนตื่นมาตอนเช้า และ ไม่เจ็บตรงสิวๆแล้วค่ะ
แต่ แต่ แต่
การรักษาที่เห็นผลชัดเจนเป็นเดือนเลยนะคะ เราอยากจะหารูปที่เห็นผิวหน้าชัดๆ ช่วงเดือนแรกแต่ไม่มีเลยค่ะ
มีแต่อันนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ อันนี้คือเรากับน้องลุ๊คค่ะ ลองซูมผิวหน้าดูได้นะคะ ไม่ว่ากัน
แต่มันเห็นผลแบบสังเกตุได้คือเราจับหน้าแล้วนิ่มๆ ไม่เจอสิวแล้วถึงได้ส่องดูหน้าตัวเองจริงๆจังค่ะ แล้วก็แปลกใจว่า เอออ ดีขึ้นเยอะเลยหนิหนา
พอรักษามาได้สักประมาณ 7 เดือน เราเริ่มมาใช้ mosituriser ค่ะ .......
อันนี้คือขั้นตอนที่ 3 หลังจากสิวหายแล้ว มารักษารอยกันต่อแบบราคาถูกเช่นเดิม
เราเลือกใช้ Clinique dramatically different lotion plus
น้องบอกว่าจริงๆเหมาะกับคนหน้าแห้ง แต่แฟนน้องเป็นคนหน้ามันและสิวก็รักษาหายเช่นกัน และดีขึ้นมากเลยให้เรามาลองใช้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้คือหน้าเราตอนนี้ค่ะ มาวิ่งออกกำลังกายที่สวน รูปนี้แฟนบอกว่าหน้าตาดูเศร้า แต่เราก็เศร้าจริงค่ะ ตกงานอยู่ที่ออสเตรเลียเพราะ Covid19 hahaha
รูปจะไม่ค่อยมีการแต่งหน้าเท่าไรนะคะ เพราะ " เราอยู่กันแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่ทำอะไรให้ยุ่งยาก "
อันนี้คือรูปความแตกต่างตอนเป็นสิวหนักๆและรักษาดีขึ้นมาแล้ว 70 %
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หน้าสดไปอีกรูปค่ะ จัดเต็ม
สยองหนองสิวตัวเองสุดๆไปเลยค่ะ
ดีใจมากค่ะที่วันนี้สามารถมาโพสเรื่องราวตัวเองได้แล้ว ความฝันสูงสุดใครอยากมีสามีรวยก็ตามแต่
แต่เราอยากรักษาสิวให้หายค่ะ อยากสวยอีกสักครั้งในชีวิตตเน้ !!
ราคาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เราแจ้งมา ไม่เกิน 2000 บาทค่ะ แถมใช้ได้หลายเดือนอีกต่างหาก
สุดท้ายนี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาสิวคือระเบียบวินัยจริงๆค่ะ คือต้องไม่ขี้เกียจและรักษาความสะอาดให้มากขึ้น
อย่าจับหน้าบ่อยๆด้วยนะคะ และพยายามไม่สัมผัสเนื้อครีมในประปุกตอนมือไม่สะอาดด้วยจะดีมากเลยค่ะ
จะมาอัพเดตถ้าเมื่อไรหน้าใสเหมือนก้นเด็ก จะมาอวดอีกแน่นอนค่ะทุกคน
สุดท้ายนี้ แต่ยังไม่ท้ายสุด เราอยากจะฝากช่อง Youtube ของเราเองค่ะ เนื่องจากเราตกงานอยู่ที่ออสเตรเลีย กลับไทยก็ไม่ได้ ไปหาแฟนที่แคนาดาก็ไม่ได้ อยู่บ้านทั้งวัน เราเลยทำช่อง Youtube ของตัวเองที่ทำเป็นภาษาไทยและอังกฤษให้คนได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับเล่าประสบการณ์ของตัวเอง
https://youtu.be/jebe-zzhq5Y
https://youtu.be/jebe-zzhq5Y
ตอนนี้เรากำลังทำChallenge ลดน้ำหนักให้พี่ที่บ้านจาก 108 Kilo ให้ลงมาเหลือเลขสองตัวให้ได้
และหากใครอยากฝึกสำเนียงและภาษาอังกฤษผ่านช่องเล็กๆของเรา
เราก็ต้องของฝากเนื้อฝากตัวด้วยจริงๆนะคะ เจอกันใหม่นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. แฟนเราหล่อนะ
อยากรู้ต้องดูที่ Youtube นะทุกคนนนน อิอิ ( นอกประเด็นสูดๆไปเลย)
เป็นสิวตอนอยู่ต่างประเทศ รักษามาทั้งชีวิต หมดเงินไปหลายบาทแต่กลับหายด้วยตัวเอง ( มีรูป )
กระทู้นี้คือกระทู้แรกของเราเลยนะคะ ถ้าหากผิดพลาดประการใดหรือพิมพ์ผิดตรงไหนสามารถแนะนำได้เลยนะคะ
วันนี้เราจะมาประประสบการณ์รักษาสิวมากกว่า 6 ปีของเรา เราเป็นสิวจนหมดหวัง ท้อใจมากค่ะ
หาหมอแล้ว รักษาก็แล้ว เปลี่ยนครีมก็แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้คือสิวครั้งแรกตอนที่ไปอยู่อเมริกาค่ะ รูปนี้แค่น้ำจิ้มนะคะ อืมหิมมมม มีสยองกว่านี้อีก
เราไม่รู้เลยว่าจะรักษายังไง พอกลับมาไทยเราก็พยายามหาหมอหมดเงินไปเป็นแสนเลยค่ะ ( รวมๆนะคะ )
พอเหมือนจะหายก็กลับมาอีก บอกก่อนเราเป็นคนแพ้ง่ายมากกกกก นิดหน่อยก็ผื่นขึ้น แถมหน้ามันเป็นของแถมด้วยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนกระทั้งเราย้ายมาอยู่ออสเตรเลียค่ะ พอปีที่สองเราได้รู้จักกับน้องคนนึง จบวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
เรียกว่า น้องลุ๊คนะคะ
เราไม่ได้ไปขอคำแนะนำนะคะ เพราะอย่างที่บอกไปเพราะท้อใจแล้ว ก็รักษาไม่ให้เจ็บหน้าก็พอ ให้มันไม่แห้งจนเจ็บหน้าแค่นั้น
น้องเดินมาแนะนำเราค่ะว่าให้ทำไม่เราถึงไม่ลองรักษาหน้าด้วยตัวเองอีกสักครั้ง
วิธีง่ายๆมีดังนี้ค่ะ
1. ล้างหน้าให้สะอาดน้องลุ๊คบอกว่า เครื่องสำอางเนี้ยมันมีซิลิโคนและออยอยู่ ถ้าล้างแค่โฟมมันไม่พอหรอก ให้ใช้ make up remover ด้วย
เพราะล้างหน้าคือส่วนที่สำคัญที่สุดของการรักษาหน้า
2. ให้ลองใช้ Product ของ The ordinary แค่สองตัวพอตัวละ 10 AUD เอง ( ประมาณ 200 บาทไทย )
คือตัว Hyaluronic Acid และ Niacinamide แต่เราซื้อเพิ่มอีก 1 ตัว Resveratrol Fulic Acid เพราะเห็นมันไม่แพงในตอนนั้น
ตอนแรกน้องแนะนำแค่เท่านี้จริงๆค่ะ เพราะน้องคงรู้เราไม่มีเงินซื้อของแพงๆมาใช้
เรากลับมาทำอย่างเคร่งครัดค่ะ ก็คือลองดูอีกครั้ง ได้ดีใจ ถ้าไม่ได้ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
เราล้างหน้าอย่างดี ใช้ผ้าขนหนูแยกจากผ้าเช็ดตัวด้วยค่ะ เมาแค่ไหน ปาร์ตี้ยังไง ถึงบ้านปีบ ก่อนนอนเลยคือล้างหน้าให้สะอาด
มันเป็นความรู้สึกสู้แบบสุดใจค่ะ เพราะอยากสวยก่อนอายุสามสิบ อิอิ
และทาเซรั่มเป็นประจำทุกวันไม่ให้ขาด
อ๋อลืมบอกไปเราล้างหน้าด้วย Cethaphil pro Acne prone นะคะ มันเป็นเนื้อโฟมนิ่มๆ ดูสะอาดดี และมีคำว่า Acne อยู่เราเลยซื้อมาใช้
ใช้ไปประมาณแค่อาทิตย์แรกคือหน้าเราไม่มันมากตอนตื่นมาตอนเช้า และ ไม่เจ็บตรงสิวๆแล้วค่ะ
แต่ แต่ แต่
การรักษาที่เห็นผลชัดเจนเป็นเดือนเลยนะคะ เราอยากจะหารูปที่เห็นผิวหน้าชัดๆ ช่วงเดือนแรกแต่ไม่มีเลยค่ะ
มีแต่อันนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่มันเห็นผลแบบสังเกตุได้คือเราจับหน้าแล้วนิ่มๆ ไม่เจอสิวแล้วถึงได้ส่องดูหน้าตัวเองจริงๆจังค่ะ แล้วก็แปลกใจว่า เอออ ดีขึ้นเยอะเลยหนิหนา
พอรักษามาได้สักประมาณ 7 เดือน เราเริ่มมาใช้ mosituriser ค่ะ .......
อันนี้คือขั้นตอนที่ 3 หลังจากสิวหายแล้ว มารักษารอยกันต่อแบบราคาถูกเช่นเดิม
เราเลือกใช้ Clinique dramatically different lotion plus
น้องบอกว่าจริงๆเหมาะกับคนหน้าแห้ง แต่แฟนน้องเป็นคนหน้ามันและสิวก็รักษาหายเช่นกัน และดีขึ้นมากเลยให้เรามาลองใช้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปจะไม่ค่อยมีการแต่งหน้าเท่าไรนะคะ เพราะ " เราอยู่กันแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่ทำอะไรให้ยุ่งยาก "
อันนี้คือรูปความแตกต่างตอนเป็นสิวหนักๆและรักษาดีขึ้นมาแล้ว 70 %
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดีใจมากค่ะที่วันนี้สามารถมาโพสเรื่องราวตัวเองได้แล้ว ความฝันสูงสุดใครอยากมีสามีรวยก็ตามแต่
แต่เราอยากรักษาสิวให้หายค่ะ อยากสวยอีกสักครั้งในชีวิตตเน้ !!
ราคาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เราแจ้งมา ไม่เกิน 2000 บาทค่ะ แถมใช้ได้หลายเดือนอีกต่างหาก
สุดท้ายนี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาสิวคือระเบียบวินัยจริงๆค่ะ คือต้องไม่ขี้เกียจและรักษาความสะอาดให้มากขึ้น
อย่าจับหน้าบ่อยๆด้วยนะคะ และพยายามไม่สัมผัสเนื้อครีมในประปุกตอนมือไม่สะอาดด้วยจะดีมากเลยค่ะ
จะมาอัพเดตถ้าเมื่อไรหน้าใสเหมือนก้นเด็ก จะมาอวดอีกแน่นอนค่ะทุกคน
สุดท้ายนี้ แต่ยังไม่ท้ายสุด เราอยากจะฝากช่อง Youtube ของเราเองค่ะ เนื่องจากเราตกงานอยู่ที่ออสเตรเลีย กลับไทยก็ไม่ได้ ไปหาแฟนที่แคนาดาก็ไม่ได้ อยู่บ้านทั้งวัน เราเลยทำช่อง Youtube ของตัวเองที่ทำเป็นภาษาไทยและอังกฤษให้คนได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับเล่าประสบการณ์ของตัวเอง
https://youtu.be/jebe-zzhq5Y
ตอนนี้เรากำลังทำChallenge ลดน้ำหนักให้พี่ที่บ้านจาก 108 Kilo ให้ลงมาเหลือเลขสองตัวให้ได้
และหากใครอยากฝึกสำเนียงและภาษาอังกฤษผ่านช่องเล็กๆของเรา
เราก็ต้องของฝากเนื้อฝากตัวด้วยจริงๆนะคะ เจอกันใหม่นะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. แฟนเราหล่อนะ อยากรู้ต้องดูที่ Youtube นะทุกคนนนน อิอิ ( นอกประเด็นสูดๆไปเลย)