ทริปนี้เป็นทริปของปีที่แล้ว ช่วงนี้ว่างเลยอยากมาแชร์ให้อ่านเล่นๆกัน  
ปล. รูปในทริป ถ่ายจาก กล้อง, กล้องฟิลม์, มือถือ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
ทริปนี้เราตัดสินใจกันไวมาก เลยไม่ค่อยได้เตรียมตัวอะไรกันซักเท่าไหร่ เราบอกก่อนนะว่าเราเดินทางในช่วง  เดือนกันยายน ซึ่งเป็นหน้าฝน เราคิดว่าไปเที่ยวภูเขาช่วงหน้าฝนน่าจะสวย
             จุดเริ่มต้นเริ่มต้นจากเราอยากนั่งรถไฟไปเที่ยวกัน เลยคิดว่าอยากนั่งไปภาคเหนือดู เพราะได้ยินมาว่าทางรถไฟสายเหนือ เป็นเส้นที่สวยมาก เราเลยเลือกมาที่ น่าน นี่เหละค่า  
ทริปนี้เราไปกับแฟน2คน เริ่มจากเราต้องไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงกันโดยรอบที่เราจองไว้ก็คือประมาณ2ทุ่ม(กทม.-เด่นชัย) เราจองเป็นแบบชั้น2เป็นรถนั่งพัดลมและไม่ใช่ห้องแอร์ ด้วยความงกแท้ๆทำให้เหมือนไม่ได้นอนทั้งคืน คือจ่ายเพิ่มอีกนิดก็ได้รถนอนห้องแอร์แล้ว ไม่รู้ตอนนั้นคิดไรกันอยู่ 😂 แต่ข้อดีของรถพัดลมคือเราจะได้สัมผัส ธรรมชาติอย่างใกล้ชิด มองออกไปนอกหน้าต่าง ชมวิวกันได้อย่างจุใจกันเลย

            เรามาถึงที่หัวลำโพงกันประมาณ 5 โมงเย็นในช่วงระหว่างรอ พวกเราเลยจะไปเดินเล่นหาอะไรกินที่เยาวราชกันก่อน เราเอากระเป๋าไปฝากที่รับฝากกระเป๋าที่สถานีหัวลำโพงได้เลย ค่าฝากอยู่ที่ ใบละ 60 ฿ ปลอกภัยหายห่วง ฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเดดินเล่นเยาวราชกัน
            หลังจากไปตลุยเยาวราชกันมา พอดียังพอมีเวลาเหลืออีกครึ่งชั่วโมง เลยอยากจะอาบน้ำ ซึ่งที่สถานีหัวลำโพงก็มีบริการห้องอาบน้ำให้บริการ โดยค่าบริการอยู่ที่ 20 ฿ มีสบู่ยาสระผมให้พร้อม ห้องอาบน้ำคุณภาพพอใช้ได้ หลังจากอาบน้ำกันเสร็จสรรพ ก็ได้เวลามาขึ้นรถไฟกันแล้ว
 เราเดินทางมาถึงสถานีปลายทางเด่นชัย จ.แพร่ 7โมงเช้า ด้วยความที่อยากนั่งรถไฟเที่ยวแต่น่านไม่มีรถไฟเลยต้องมาลงที่นี่แล้วต่อรถเข้าน่านกัน หลังจากนั่งๆนอนๆ หัวเหนียวกันมาทั้งคืนก็อยากอาบน้ำ และที่สถานีเด่นชัย ก็มีห้องน้ำห้องอาบน้ำบริการกันที่สถานีเลย ค่าบริการ เข้าห้องน้ำ 5.฿ อาบน้ำ 10.฿ หลังจากอาบน้ำกันเรียบร้อยแล้วก็ไปขึ้น2แถวที่สถานี 20.฿ เพื่อไปลงที่ขนส่งเด่นชัย
 พอมาถึงสถานีขนส่งที่น่านเราก็หาร้านเช่ามอไซค์จะขี่เที่ยวกัน เดินไปเจอร้านนึงอยู่ทางเข้าขนส่งเลย ได้ Click 125 มาพาเราเที่ยวในทริปนี้ โดยค่าเช่าจะอยู่ที่วันละ 300.฿
                                  วันนี้เราจะเที่ยวในเมืองเบาๆก่อนแล้วขึ้นไปนอนดอยเสมอดาวกัน เรื่องร้านอาหารที่น่านไม่มีแนะนำนะคะ แต่เรามีร้านกาแฟร้านนึงอยากฝากไว้ชื่อร้าน Workboxes Cafe ร้านเล็กๆน่ารักๆกาแฟอร่อย แนะนำเลยมี wifi สามารถนั่งชาร์จแบตได้เพราะเราไปซ้ำ2รอบ🥰
 ในเมืองที่เราเที่ยวเราก็ไปวัดชื่อดังของน่านต่างๆค่ะ วัดภูมินทร์ วัดมิ่งเมือง วัดพระธาตุเขาน้อย แล้วก็พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติค่าเข้าชมคนละ 20.฿
ก่อนจะถึงทางขึ้นดอย เราแวะถ่ายรูปกันที่เสาดินนาน้อยค่ะ เค้าบอกเป็นแกรนด์แคนยอนเมืองไทย ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดคือ4โมงเย็นแต่แดดเหมือนเที่ยง ถ่ายรูปออกมาอย่างเท่😎
                ได้เวลาขึ้นดอยแล้วค่ะ ทางไม่ยากนะ มอไซค์ขี่ได้สบาย ถนนดีไม่ต้องกลัวเลย 
คือช่วงที่เราคือช่วงกันยายน เป็นหน้าฝน เค้าไม่อนุญาติให้กางเต้นนอนที่ดอยเสมอดาว ต้องไปนอนที่ผาชู้ซึ่งอยู่ห่างจากดอยไม่ไกลค่ะ แต่เราแวะถ่ายรูปที่เสมอดาวกันพักนึงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน สวยมาก สวยแบบหายเหนื่อยเลยกับที่อดนอนมาเมื่อคืนแล้วมาขี่รถตากแดดเพื่อมาเห็นภาพตรงหน้า
              มาถึงผาชู้ก็เริ่มมืดเราก็ติดต่อเช่าเต้นท์ กางเต้นท์กัน ที่นี่เค้าจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานดูแลเราตลอดนะคะ ไม่มีอุปกรณ์นอนมาเช่าได้ราคาถูกหรือใครจะขนของขึ้นมาเองก็ได้ มีพื้นที่กว้างขวางให้เลือกปักหมุดนอน ห้องน้ำมีให้เพียงพอ สะอาดด้วยไม่ต้องกลัวลำบาก แต่บนนี้ไม่มีร้านค้านะอยากขนม น้ำอะไรซื้อจากข้างล่างขึ้นมาเด้อค้า
บนนี้มีหมูกระทะด้วยนะ เหมาะกับบรรยากาศแบบนี้เลย จะมีป้าเค้าขนขึ้นมาขายคนที่ขึ้นมานอนหลายชุด เราก็จัดเลย1ชุด กินกัน2คนจุกๆ ถ้าจำราคาไม่ผิดก็ชุดล่ะ400-500ค่ะ
                สายๆก็เก็บของ เกียมตัวงลงดอยกันเพราะวันนี้จะไปนอนที่ ดอยสกาดซึ่งไกลมาก
อ๊ะ แวะถ่ายรูปที่ดอยเสมอดาวก่อนกลับแปปนึงล่ะกัน
                 จุดหมายวันนี้อยู่ที่ดอยสกาด อ.ปัวค่ะ แต่เส้นทางที่เราจะวิ่งคือที่สุดแล้ว เราวิ่งผ่านเมืองแล้วต่อยาวไปถนนลอยฟ้าที่เค้าว่าสวยที่สุดในไทย ดูรูปเอาแล้วกันว่าสวยมั้ย