https://waymagazine.org/sihanoukville/
ญหาความเหลื่อมล้ำและการเข้าถึงสิทธิที่ดินทำกินของคนกัมพูชา ปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้นในเมืองพระสีหนุ เมืองที่รัฐบาลไล่รื้อบ้าน ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านไปสัมปทานให้นายทุนจีนหวังสรรค์สร้างเมืองชายทะเลเงียบสงบให้กลายเป็นเมืองแห่งสีสันและคับคั่งด้วยธุรกิจการพนัน แต่คำสัญญาที่รัฐบาลบอกว่าเมื่อโครงการนี้สำเร็จคนกัมพูชาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นนั้น – ไม่เป็นจริง เพราะคนจีนที่รัฐบาลเปิดรับเข้ามาในเมืองมีอภิสิทธิ์เหนือคนพื้นเมืองและแย่งงานคนท้องถิ่น
ร่มเงาของต้นไม้ในเขตร้อนชื้นเขียวชอุ่ม และทะเลอันเงียบสงบ ในเมืองพระสีหนุ ซึ่งรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวว่า ‘สีหนุวิลล์’ ประเทศกัมพูชา กลายเป็นเพียงภาพความทรงจำของ โสพล (นามสมมุติ) ชายผู้ย้ายมาอยู่ในเมืองนี้นานกว่า 24 ปี
“เมื่อราวปี 2539 ผมอายุ 12 ปี บ้านเรือนตอนนั้นสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด ถนนในเมืองเป็นดินแดง มีต้นไม้ริมทางจำนวนมาก เมืองนี้จึงร่มเย็น เงียบสงบ” โสพลเล่าให้เราฟังในร้านอาหารริมชายหาดแห่งหนึ่ง
แม้พื้นเพครอบครัวของโสพลไม่ได้เป็นคนเมืองพระสีหนุโดยกำเนิด เพราะพวกเขาโยกย้ายมาจากจังหวัดกันดาร จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศใกล้กับกรุงพนมเปญ เพื่อหางานทำและปักหลักอยู่ที่นี่ แต่ความทรงจำในวัยเด็กของเขาก็เป็นเครื่องยืนยันว่า เมืองแห่งนี้เคยสวยงามและเงียบสงบสมกับคำร่ำลือของนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
“สภาพเมืองตอนนั้นแตกต่างจากตอนนี้ที่ต้นไม้ถูกตัดเพื่อก่อสร้างตึก อากาศมีแต่มีฝุ่นจากการก่อสร้าง ขยะในเมืองเพิ่มขึ้น ภาพความสงบ ความร่มเย็นคงไม่มีวันได้เห็นอีกแล้ว เพราะที่นี่กลายเป็นสวรรค์ของนักลงทุนจีนไปเสียแล้ว” โสพลกล่าว........................................................ง
สีหนุวิลล์: สวรรค์ของคนจีน นรกของคนกัมพูชา
ญหาความเหลื่อมล้ำและการเข้าถึงสิทธิที่ดินทำกินของคนกัมพูชา ปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้นในเมืองพระสีหนุ เมืองที่รัฐบาลไล่รื้อบ้าน ยึดที่ดินทำกินชาวบ้านไปสัมปทานให้นายทุนจีนหวังสรรค์สร้างเมืองชายทะเลเงียบสงบให้กลายเป็นเมืองแห่งสีสันและคับคั่งด้วยธุรกิจการพนัน แต่คำสัญญาที่รัฐบาลบอกว่าเมื่อโครงการนี้สำเร็จคนกัมพูชาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นนั้น – ไม่เป็นจริง เพราะคนจีนที่รัฐบาลเปิดรับเข้ามาในเมืองมีอภิสิทธิ์เหนือคนพื้นเมืองและแย่งงานคนท้องถิ่น
ร่มเงาของต้นไม้ในเขตร้อนชื้นเขียวชอุ่ม และทะเลอันเงียบสงบ ในเมืองพระสีหนุ ซึ่งรู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวว่า ‘สีหนุวิลล์’ ประเทศกัมพูชา กลายเป็นเพียงภาพความทรงจำของ โสพล (นามสมมุติ) ชายผู้ย้ายมาอยู่ในเมืองนี้นานกว่า 24 ปี
“เมื่อราวปี 2539 ผมอายุ 12 ปี บ้านเรือนตอนนั้นสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด ถนนในเมืองเป็นดินแดง มีต้นไม้ริมทางจำนวนมาก เมืองนี้จึงร่มเย็น เงียบสงบ” โสพลเล่าให้เราฟังในร้านอาหารริมชายหาดแห่งหนึ่ง
แม้พื้นเพครอบครัวของโสพลไม่ได้เป็นคนเมืองพระสีหนุโดยกำเนิด เพราะพวกเขาโยกย้ายมาจากจังหวัดกันดาร จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศใกล้กับกรุงพนมเปญ เพื่อหางานทำและปักหลักอยู่ที่นี่ แต่ความทรงจำในวัยเด็กของเขาก็เป็นเครื่องยืนยันว่า เมืองแห่งนี้เคยสวยงามและเงียบสงบสมกับคำร่ำลือของนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
“สภาพเมืองตอนนั้นแตกต่างจากตอนนี้ที่ต้นไม้ถูกตัดเพื่อก่อสร้างตึก อากาศมีแต่มีฝุ่นจากการก่อสร้าง ขยะในเมืองเพิ่มขึ้น ภาพความสงบ ความร่มเย็นคงไม่มีวันได้เห็นอีกแล้ว เพราะที่นี่กลายเป็นสวรรค์ของนักลงทุนจีนไปเสียแล้ว” โสพลกล่าว........................................................ง