ถึงกับต้องสมัครสมาชิกเข้ามาตอบ ประเด็นสำคัญคือ ศาสตร์การแบ่งบุคลิกภาพ ไม่ว่าจะเป็น DISC (กระทิง อินทรี หมี หนู), MBTI (ตัวที่จขกท.พูดถึง), นพลักษณ์ (enneagram) ฯลฯ
จุดประสงค์คือ
1. เข้าใจและพัฒนาตัวเอง ให้เป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้น “ไม่ใช่”ยึดติดว่าเราเป็นแบบนี้ ก็ต้องทำแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร
2. เข้าใจและยอมรับผู้อื่น ในความแตกต่าง “ไม่ใช่” ไปบอกว่าเค้าไม่เหมือนเรา เข้ากันไม่ได้

ใช้หลัก anti-climax เอาส่วนเฉลยขึ้นก่อน กลัวคนอ่านไม่ถึงแล้วจะเสียประโยชน์ 555
มาประเด็นย่อยกันหน่อยครับ

1. หลายท่านเข้าใจคำว่า extrovert-introvert คลาดเคลื่อน คำจำกัดความที่ถูกคือตาม คคห.26-1 ถ้าเราชาร์ทพลังงานจากภายในเป็น Introvert ถ้าชาร์ทจากภายนอกเป็น extrovert คำจัดกัดความสำคัญเพราะถ้าให้ความหมายไม่ตรงกัน จะคุยกันต่อก็ไม่เข้าใจ เช่น พูดถึงสามล้อ คนนึงหมายถึงตุ๊กตุ๊ก อีกคนหมายถึงรถเข็น เถียงกันยังไงก็ไม่จบ

2. จริงๆแล้ว introvert กับ extrovert ดูจากภายนอกไม่ได้ 100% โลกนี้มี extrovert ที่ไม่ชอบพูด และมี introvert ที่พูดเป็นต่อยหอย

3. หลายท่านคิดว่า HR ควรจะมีลักษณะ extrovert ผมคิดว่าไม่จริง การที่เราถนัดอะไรเป็นเรื่องนึง ส่วนการที่เราพยายามทำงานให้ดีก็เป็นอีกเรื่องนึง คิดถึงพ่อที่มีลูกสาวก็ได้ ทำตัวหยาบกระด้างมาตลอดชีวิต ก็สามารถมามุ้งมิ้งกับลูกสาวได้ ร้องเพลง let it go ด้วยกันได้  อย่างสายงานผม HRM, HRD ขึ้นกับผม หัวหน้าสายนึงเป็น introvert แต่เดินเข้าหาคน คิดโปรเจคไปติดต่อฝ่ายนู้นฝ่ายนี้ เป็น HR เชิงรุก ผลงานดี ส่วนหัวหน้าอีกสายนึงเป็น extrovert แต่เกี่ยงงาน ชอบเข้าหาคนแต่ไม่ได้งาน ไปนินทาชาวบ้านซะงั้น

4. ข้อนี้ถ้าทำให้ จขกท. รู้สึกไม่ดีต้องขออภัยล่วงหน้าครับ คนทำงาน HR ต้องสามารถยอมรับความแตกต่างของคนได้ดี ตรงนี้ถ้าทำไม่ได้ไม่ควรทำงานด้านนี้ครับ (ไม่เกี่ยวกับ in-,ex-) อยากให้นึกภาพสวนยางพารากับป่า สวนยางฯดูแลง่ายกว่าป่า แต่ป่าสวยงามและยั่งยืนกว่าสวนยางฯนะครับ คำถามคือเราต้องการให้เราสบาย หรือเราต้องการให้คนอยู่ร่วมกันในองค์กรได้อย่างยั่งยืนครับ (ผมก็ต้องถามตัวเองด้วย)

5. บางท่านให้ความเห็นไปในแนวทางการจัดการอารมณ์ การจัดเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ตรงกับคำถามของจขกท. แต่ผมกลับว่าดี เพราะประเด็นจริงๆ เป็นเรื่องของการบริหารอารมณ์ ไม่ใช่ความแตกต่างของ in-,ex-

6. บางท่านมีความเห็นผิดไปเลย เช่น ไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน บรรยากาศที่ทำงาน แล้วคิดว่าตัวเองเป็น introvert อันนี้ไม่เกี่ยวเลย

7. บางท่านแนะนำวิธีหนีจากความเป็นจริงในที่ทำงาน อันนี้ผมเห็นว่าน่าจะได้ผลในระยะสั้น ในระยะยาวก็ต้องปรับทัศนคติ (Mindset) ให้ยอมรับความแตกต่างไปด้วยน่าจะดีกว่า (ภาษาพวกผมใช้คำว่าให้มี “สัมมาทิฏฐิ” = มีแนวคิดที่ถูกต้อง)

ส่วนนี้เขียนถึงจขกท.โดยเฉพาะ ผมเป็น INFP จะต่างกับจขกท. 1 ตัว
1. ตอนเด็กๆด้วยความ introvert ถูกมองว่าเป็นตุ๊ด ถูกแกล้ง (ตอนนั้นเพศที่ 3 ไม่เป็นที่ยอมรับ ยังไม่มีศัพท์ LGBT) ก็จบด้วยกันต่อยกัน
2. ตอนผจบใหม่ๆ ถึงแม้การแสดงออกจะสุภาพ แต่ในใจตัดสิน (judge) คน ก็เพราะไอ้ความไม่ยอมรับความแตกต่างของคน (โดยไม่รู้ตัว) นี่แหละครับ มองกลับไปก็เห็นว่าใจเราน่าเกลียดสิ้นดี
3. ผมเป็น director level (executive level) ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ผมเป็น INFP ซึ่งน่าจะมีปัญหากว่า จขกท. เพราะส่วนงานนี้มักใช้ ESTJ เรียกว่าต่างกันทั้ง 4 มุมมอง แต่ก็ได้รับ promote มาตลอด

ที่ตั้งใจเขียนถึง จขกท. จะบอกว่า ผมผ่านขั้นตอน “เป็นตัวเองที่ดีขึ้น” ทีละนิด ไม่ใช่ปุบปับ ผมทำได้ คุณก็ทำได้ ใครๆบนโลกนี้ก็ทำได้ ถ้าตั้งใจทำครับ

ปรับตัวค่ะ คน HR ส่วนใหญ่มักจะเป็น extrovert อยู่แล้ว แล้วถ้าหนูเป็นแบบที่ว่ามา พี่ยังสงสัยว่าผ่านการสัมภาษณ์มาได้ยังไง?

พี่ก็ introvert แต่พี่ปรับตัวเก่ง แหลได้เพื่องาน เจ๊าะแจ๊ะได้ถ้าจำเป็น คน introvert ไม่ใช่ประเภท social impairment นะคะ