คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เอามาฝาก จขกท. ให้สบายใจขึ้น
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
มาตรา ๓๒/๑ การจําหน่ายต้นฉบับหรือสําเนางานอันมีลิขสิทธิ์โดยผู้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในต้นฉบับหรือสําเนางานอันมีลิขสิทธิ์นั้น
โดยชอบด้วยกฎหมายมิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ การซื้อมาขาย เป็นเรื่องของกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่เรื่องลิขสิทธิ์
เมื่อ จขกท. ซื้อมาจากเจ้าของหรือตัวแทนจำหน่ายแล้ว (ซึ่งสินค้าเป็นของแท้อยู่แล้ว) จขกท. ย่อมมีกรรมสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับสินค้านั้นก็ได้ เช่น เอามาใช้ จำหน่าย ขายต่อ แจกจ่าย ตราบใดที่ไม่ได้ดัดแปลงแก้ไขสินค้านั้นให้เกิดความเข้าใจผิด เรียกว่า หลักการระงับไปซึ่งสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (Exhaustion of Rights) หรือ First Sale Doctrine
ดังนั้น เจ้าของหรือตัวแทนจำหน่ายไม่มีสิทธิ์หวงห้าม จขกท. จำหน่ายได้ และไม่มีสิทธิ์ควบคุม คุกคาม จขกท. ด้วยเหตุเสียผลประโยชน์ทางการค้าได้บนโลกการค้าเสรี (พรบ. แข่งขันทางการค้า)
ปล. การขาย CD DVD มือสองไม่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์เช่นกันแต่ต้องมีใบอนุญาตก่อนถึงจะขายได้ครับ อย่าเข้าใจผิดเหมารวมว่าละเมิดลิขสิทธิ์
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘
มาตรา ๓๒/๑ การจําหน่ายต้นฉบับหรือสําเนางานอันมีลิขสิทธิ์โดยผู้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในต้นฉบับหรือสําเนางานอันมีลิขสิทธิ์นั้น
โดยชอบด้วยกฎหมายมิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
ขออธิบายเพิ่มเติมดังนี้ การซื้อมาขาย เป็นเรื่องของกรรมสิทธิ์ ไม่ใช่เรื่องลิขสิทธิ์
เมื่อ จขกท. ซื้อมาจากเจ้าของหรือตัวแทนจำหน่ายแล้ว (ซึ่งสินค้าเป็นของแท้อยู่แล้ว) จขกท. ย่อมมีกรรมสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับสินค้านั้นก็ได้ เช่น เอามาใช้ จำหน่าย ขายต่อ แจกจ่าย ตราบใดที่ไม่ได้ดัดแปลงแก้ไขสินค้านั้นให้เกิดความเข้าใจผิด เรียกว่า หลักการระงับไปซึ่งสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (Exhaustion of Rights) หรือ First Sale Doctrine
ดังนั้น เจ้าของหรือตัวแทนจำหน่ายไม่มีสิทธิ์หวงห้าม จขกท. จำหน่ายได้ และไม่มีสิทธิ์ควบคุม คุกคาม จขกท. ด้วยเหตุเสียผลประโยชน์ทางการค้าได้บนโลกการค้าเสรี (พรบ. แข่งขันทางการค้า)
ปล. การขาย CD DVD มือสองไม่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์เช่นกันแต่ต้องมีใบอนุญาตก่อนถึงจะขายได้ครับ อย่าเข้าใจผิดเหมารวมว่าละเมิดลิขสิทธิ์
แสดงความคิดเห็น
หากเราซื้อสินค้ามาขาย แต่ทางแบรนด์ส่งข้อความมาแจ้งให้ลบสินค้าออก เราจำเป็นต้องลบไหมคะ
ก็ขายของมาปกติราวๆ ครึ่งปีค่ะ จนล่าสุด มีแบรนด์ A (นามสมมติ) ทักแชททางช้อปปี้มาแจ้งว่า ‘ทางเราไม่รับตัวแทน และไม่อนุญาตให้ขายสินค้า ลบออกด้วยค่ะ’ พีก็งงๆหน่อย
เลยอธิบายไปว่า เราซื้อสินค้าคุณตอนจัดเชตมาค่ะ เราไม่ได้เป็นตัวแทน ใช้ไป 1 ชิ้น กับกระเป๋า เหลือสินค้าอีก 3 ชิ้น เรารู้สึกใช้แล้วไม่ชอบ และไม่ได้ตั้งใจจะขายต่อหลังจาก หมด 3 ชิ้นนี้ เลยนำมาขายต่อในราคาที่เราขาดทุน โดยไม่ได้มีการโพสภาพพรีเซนเตอร์ของแบรนด์แต่อย่างใด
พร้อมถามด้วยความอยากรู้ว่า เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับความผิดทางข้อกฎหมายด้วยไหมคะ เราจะได้ระมัดระวังต่อไปในอนาคต
แต่ทางแบรนด์ก็เงียบหายไป ไม่ตอบกลับอะไรอีก
ระหว่างนั้นก็มีลูกค้ามากดสั่งซื้อสินค้าไป 1 ชิ้นค่ะ
พีเลยอยากรบกวนขอคำแนะนำจากผู้รู้ว่า
จริงๆแล้ว คนที่ซื้อแล้วนำสินค้ามาขายต่อ มีความผิดอะไรบ้างคะ และคนที่ซื้อต่อไปจากเรา จะได้รับผลกระทบอะไรไหมคะ
ทำไมบางยี่ห้อ ซึ่งเป็นแบรนด์ใหญ่ๆ ที่มีคนนำมาขายต่อกันหลายร้อยร้าน ทางแบรนด์ถึงไม่ห้ามขาย และสามารถขายกันได้อย่างเสรี แล้วแบบนี้ พีต้องระวังในการเลือกซื้อสินค้ามาขายต่ออย่างไรดีคะ
ขอบพระคุณมากค่ะ