เกริ่นเรื่อง
เราอาศัยกับแม่2คนในอพาร์ทเม้นท์เล็กแห่ง
เมื่อปี2561 แม่ป่วยพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะ3ไปเกือบ4 มีการทำการรักษาผ่าตัดนำก้อนเนื้อร้ายออกไปและทำการให้คีโม12ครั้ง ทำการรักษาและได้ติดตามอาการมาตลอด ซึ่งผลการรักษเป็นที่น่าพอใจ แม่กับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข แต่แล้วในคือวันที่7เมษายน 2563 แม่มีการปวดท้องอย่างหนัก เราถึงพาตัวแม่ไปส่งโรงพยาบาล ผลการตรวจรักษาทำให้ทราบว่าพบก้อนเนื้อร้ายเกิดขึ้นในตำแหน่งติดลำไส้ใหญ่และผนังท้อง ซึ่งการรักษาเบื้องต้นคือแม่ต้องรับประทานนมแอนชั่วเป็นเวลา4ครั้งต่อวัน และมีการนัดพบหมอศัลและหมอคีโม เพื่อปรึกษาถึงแนวทางการรักษา คือแม่ต้องให้คีโม12ครั้ง ครั้งหนึ่ง3วันกับอีก2คืน แม่ได้เข้ารับการรักษาให้คีโมครั้งแรกในวันที่ 27เมษายน2563 การให้คีโมครั้งแรกก็เกิดขึ้น แต่แล้วยาที่ใช้ในการรักษาแม่ไม่ตอบสนอง แม่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ทีมแพทย์ที่ดูแลจนโทรมาหาเรา (เนื่องจากช่วงนรี้มีโควิด จึงงดเยี่ยม)ทางแพทย์เจ้าของไข้ โทรมาแจ้งว่า เนื่องจากเชื้อมะเร็งมีการแพร่กระจายไปตามจุดต่างๆทั่วกระเพราะและลำไส้ เนื้อร้ายที่เจอมีตำแหน่งที่ผ่าตัดแล้วได้ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงผ่าตัด การให้คีโมต้องยุติลง ตอนนี้หมอทำได้เพียงรักษาแม่ได้ตามอาการเท่านั้น สิ่งที่เราได้รับฟังมันบาดลึกลงในใจเรา เราจึงขอร้องหมอให้ช่วงบอกถึงระยะเวลาที่แม่จะมีชีวิตอยู่(เป็นการคาดคะเนของหมอ อาจจะอยู่ในนานกว่านี้ก็ได้)ซึ่งหมอให้คำตอบมาคือ น้อยสุด3เดือนมากสุด6เดือน คำตอบที่บีบหัวใจเราสุดๆ ในชีวิตนี้เราเหลือแม่แค่คนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เป็นพนักงานออฟฟิศธรรมชาติ ข้าวต้องซื้อ ห้องต้องเช่า ไม่มีเงินเก็บ เงินเดือนออกมาใช้พอจนเดือน แต่ตอนนี้เราต้องรับบทหนักในการหาค่ารักษาพยาบาลแม่ ซึ่งมันมีส่วนต่างต้องจ่าย แม่เราใช้สิทธิบัตรทอก็จะมีส่วนต่างที่ไม่ครอบคลุมอยู่ ต้องจ่ายส่วนต่าง ครั้งละ3,000-6,000 เนื่องจากแม่นอนรพ.ครั้งหนึ่งอาทิตย์ถึงเกือบ2อาทิตย์ ซึ่งเงินจำนวนนั้นบางคนน่าจะคิดว่าน้อย แต่สำหรับเรานี่หืดขึ้นคอมันให้เรามีท้อ มีเหนื่อย มีร้องไห้ แต่เราสู้ เพราะแม่ เราลำบาก เราอดได้ ที่พิมพ์มาทั้งหมดนี้ แค่อยากขอกำลังใจจากคนอ่าน ตอนนี้สภาพจิตใจเรา เหมือนคนกำลังจมน้ำ (แม่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหนัก คิดว่าเดี๋ยวนอนโรงพยาบาลให้หมอรักษาก็หายได้กลับบ้าน)
อัปเดตอาการ
ได้ข้อสรุปใหม่สำหรับการรักษา แม่เราได้ทำการแอดมิทที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่11 พฤษภาคม 2563 ให้ทำการผ่าตัด สืบเนื่องจากการวิเคราะห์จากแพทย์สรุปคือมี2ทางเลือก 1.ผ่าตัดต่อสำไส้ หรือ2.ยกลำไส้เล็กเปิดทางหน้าท้อง ซึ้งผลการผ่าตัดแม่เรายกลำไส้เล็กเปิดหน้าท้อง เพราะก้อนเนื้อหน้าที่ก่อนหน้านี้เจอมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จนไม่สามารถผ่าตัดต่อลำไส้ได้
ซึ่งอาการของแม่หลังผ่าตัด คือแม่ปแทบไม่มีแรงเลย เนื่องด้วยเมื่อหลังผ่าตัดไป2วัน แพทย์จะให้ทำการนั่ง หรือเดิน เพื่อให้ลำไส้ทำงาน แต่แม่เราไม่สามารถทำได้เลย แม่เรามีความสั่น ไม่มีแรง ตัวเราเองตั้งแต่วันที่11ที่แม่แอดมิทเราได้ทำการหยุดลางาน (สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิท คนไข้ที่ทำการรักษาโดยการผ่าตัด ต้องมีญาติเฝ้าตลอด 24 ชม) เราไม่มีญาติที่ไหนเลย เราจนต้องเฝ้าแม่ ตอนนี้เรามีสภาพจิตใจ เครียดมาก เราไม่รู้จะคุยกันใคร ระบายกับใคร จนพิมพ์ลงพันทิป เพื่อขอกำลังใจให้ตัวเองสู้กับทุกปัญหาที่เกิดอยู่ ณ ตอนนี้ เราหาเงินคนเดียว ไหนจะขายห้องที่เช่าอยู่ ค่ารักษาพยาบาลของแม่ งานที่ต้องหยุดยาว เรื่องแม่ที่ร่างกายอ่อนแอ แทบไม่มีแรง เราเครียดทุกทาง ไม่รู้จะทำอย่างไงดี
อยากขอกำลังใจให้มีแรงในการสู้ต่อไป
เราอาศัยกับแม่2คนในอพาร์ทเม้นท์เล็กแห่ง
เมื่อปี2561 แม่ป่วยพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ระยะ3ไปเกือบ4 มีการทำการรักษาผ่าตัดนำก้อนเนื้อร้ายออกไปและทำการให้คีโม12ครั้ง ทำการรักษาและได้ติดตามอาการมาตลอด ซึ่งผลการรักษเป็นที่น่าพอใจ แม่กับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข แต่แล้วในคือวันที่7เมษายน 2563 แม่มีการปวดท้องอย่างหนัก เราถึงพาตัวแม่ไปส่งโรงพยาบาล ผลการตรวจรักษาทำให้ทราบว่าพบก้อนเนื้อร้ายเกิดขึ้นในตำแหน่งติดลำไส้ใหญ่และผนังท้อง ซึ่งการรักษาเบื้องต้นคือแม่ต้องรับประทานนมแอนชั่วเป็นเวลา4ครั้งต่อวัน และมีการนัดพบหมอศัลและหมอคีโม เพื่อปรึกษาถึงแนวทางการรักษา คือแม่ต้องให้คีโม12ครั้ง ครั้งหนึ่ง3วันกับอีก2คืน แม่ได้เข้ารับการรักษาให้คีโมครั้งแรกในวันที่ 27เมษายน2563 การให้คีโมครั้งแรกก็เกิดขึ้น แต่แล้วยาที่ใช้ในการรักษาแม่ไม่ตอบสนอง แม่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ทีมแพทย์ที่ดูแลจนโทรมาหาเรา (เนื่องจากช่วงนรี้มีโควิด จึงงดเยี่ยม)ทางแพทย์เจ้าของไข้ โทรมาแจ้งว่า เนื่องจากเชื้อมะเร็งมีการแพร่กระจายไปตามจุดต่างๆทั่วกระเพราะและลำไส้ เนื้อร้ายที่เจอมีตำแหน่งที่ผ่าตัดแล้วได้ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงผ่าตัด การให้คีโมต้องยุติลง ตอนนี้หมอทำได้เพียงรักษาแม่ได้ตามอาการเท่านั้น สิ่งที่เราได้รับฟังมันบาดลึกลงในใจเรา เราจึงขอร้องหมอให้ช่วงบอกถึงระยะเวลาที่แม่จะมีชีวิตอยู่(เป็นการคาดคะเนของหมอ อาจจะอยู่ในนานกว่านี้ก็ได้)ซึ่งหมอให้คำตอบมาคือ น้อยสุด3เดือนมากสุด6เดือน คำตอบที่บีบหัวใจเราสุดๆ ในชีวิตนี้เราเหลือแม่แค่คนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เป็นพนักงานออฟฟิศธรรมชาติ ข้าวต้องซื้อ ห้องต้องเช่า ไม่มีเงินเก็บ เงินเดือนออกมาใช้พอจนเดือน แต่ตอนนี้เราต้องรับบทหนักในการหาค่ารักษาพยาบาลแม่ ซึ่งมันมีส่วนต่างต้องจ่าย แม่เราใช้สิทธิบัตรทอก็จะมีส่วนต่างที่ไม่ครอบคลุมอยู่ ต้องจ่ายส่วนต่าง ครั้งละ3,000-6,000 เนื่องจากแม่นอนรพ.ครั้งหนึ่งอาทิตย์ถึงเกือบ2อาทิตย์ ซึ่งเงินจำนวนนั้นบางคนน่าจะคิดว่าน้อย แต่สำหรับเรานี่หืดขึ้นคอมันให้เรามีท้อ มีเหนื่อย มีร้องไห้ แต่เราสู้ เพราะแม่ เราลำบาก เราอดได้ ที่พิมพ์มาทั้งหมดนี้ แค่อยากขอกำลังใจจากคนอ่าน ตอนนี้สภาพจิตใจเรา เหมือนคนกำลังจมน้ำ (แม่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหนัก คิดว่าเดี๋ยวนอนโรงพยาบาลให้หมอรักษาก็หายได้กลับบ้าน)
อัปเดตอาการ
ได้ข้อสรุปใหม่สำหรับการรักษา แม่เราได้ทำการแอดมิทที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่11 พฤษภาคม 2563 ให้ทำการผ่าตัด สืบเนื่องจากการวิเคราะห์จากแพทย์สรุปคือมี2ทางเลือก 1.ผ่าตัดต่อสำไส้ หรือ2.ยกลำไส้เล็กเปิดทางหน้าท้อง ซึ้งผลการผ่าตัดแม่เรายกลำไส้เล็กเปิดหน้าท้อง เพราะก้อนเนื้อหน้าที่ก่อนหน้านี้เจอมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จนไม่สามารถผ่าตัดต่อลำไส้ได้
ซึ่งอาการของแม่หลังผ่าตัด คือแม่ปแทบไม่มีแรงเลย เนื่องด้วยเมื่อหลังผ่าตัดไป2วัน แพทย์จะให้ทำการนั่ง หรือเดิน เพื่อให้ลำไส้ทำงาน แต่แม่เราไม่สามารถทำได้เลย แม่เรามีความสั่น ไม่มีแรง ตัวเราเองตั้งแต่วันที่11ที่แม่แอดมิทเราได้ทำการหยุดลางาน (สืบเนื่องจากสถานการณ์โควิท คนไข้ที่ทำการรักษาโดยการผ่าตัด ต้องมีญาติเฝ้าตลอด 24 ชม) เราไม่มีญาติที่ไหนเลย เราจนต้องเฝ้าแม่ ตอนนี้เรามีสภาพจิตใจ เครียดมาก เราไม่รู้จะคุยกันใคร ระบายกับใคร จนพิมพ์ลงพันทิป เพื่อขอกำลังใจให้ตัวเองสู้กับทุกปัญหาที่เกิดอยู่ ณ ตอนนี้ เราหาเงินคนเดียว ไหนจะขายห้องที่เช่าอยู่ ค่ารักษาพยาบาลของแม่ งานที่ต้องหยุดยาว เรื่องแม่ที่ร่างกายอ่อนแอ แทบไม่มีแรง เราเครียดทุกทาง ไม่รู้จะทำอย่างไงดี