A World of Married Couple ศีลไม่เสมอ หรือให้เธอได้ไม่มากพอ 6 ต้องการพื้นฐานเสริมความสัมพันธ์ให้ไปรอด

การเลิกรากันธรรมดา ต่างคนต่างแยกย้าย ไม่มีมือที่สาม ไม่มีคนใหม่ อาจจะหลงเหลือแค่ความเสียใจ
แต่ถ้ามีความแค้น เสียผลประโยชน์ที่คิดว่าจะได้ เสียชื่อเสียง นอกจากความเสียใจ ถ้ามีแค่สักคนปล่อยวางไม่ได้ ก็อาจนำไปสู่การเอาชนะคะคาน โดยไม่สนขอบเขตของกฎหมายศีลธรรม ปมความแค้นผสมความผูกพันของคนเคยรัก ที่ยังไม่รู้จุดจบ(ตอนนี้เพิ่ง Ep.10)

คำเตือน
โดยรวมดูแล้วไหลลื่นดี เดินเรื่องเร็ว อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อตลอด เดาไม่ค่อยได้(ยังไม่อ่านspoilต้นฉบับ)
อารมณ์หลักๆ เครียด ลุ้น กดดัน-รู้สึกหนักหน่วงอึดอัด
ถ้าดูติดๆกันก่อนนอน ริ้วรอยที่หน้าผากจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
 
Plotรวม 


 รักสามเส้า+++ของคู่แต่งงานเกิน10ปี มีมือที่สามที่มีเสน่ห์เกินต้านทานหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นเมียน้อยที่แซ่บ 
(กระทู้นี้ มองข้ามความแซ่บและไปหาเหตุผลที่ทำให้เรื่องกลายเป็นแบบนี้ตามหลัก 6 Human needs)
เรื่องไม่ได้จบที่การหย่า
เมื่อนางเอกกลายเป็นหม้ายก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ และสามีที่เลิกกันไปก็ยังดูงงๆว่าเอ๊ะ ยังรักอยู่?
ปนไปกับความแค้นที่ท่วมท้นอยากเอาคืน ที่พลาดท่าไปในการชิงไหวชิงพริบกันช่วงหย่า
 
 
         -   การเมืองในที่ทำงานของนางเอก หน้าที่ไม่ใช่แค่รักษาคนไข้ให้ดี แต่ต้องระวังเพื่อนร่วมงานมาเลื่อยขาเก้าอี้ไปพร้อมๆกัน ระวังคนไข้ที่เข้ามาล้ำเส้นเรื่องส่วนตัว คอยข่มขู่และลอบทำร้าย

 
         -   ผลกระทบหลังหย่าที่มีต่อลูกในช่วงที่เป็นวัยรุ่น
         -   การรักษาภาพพจน์ของครอบครัว การแต่งงาน 

ในความผิดทางศีลธรรมเห็นชัดเจนว่าคนผิด=สามี+เมียน้อย ที่ลักลอบเป็นชู้และผิดศีล ทุกครั้งที่หมอจีด่า คนดูน่าจะคล้อยตามว่า ใช่ๆ สารเลว และเป็นธรรมดาที่คนดูจะมีคำถามที่ผุดขึ้นในใจระหว่างที่ดูไปลุ้นไปหนักๆหน่วงๆ 

ทำไมชีวิตหมอจีซอนอูถึงมีแต่เรื่องรุมเร้า เคราะห์ซ้ำกรรมซัด 

ปัญหาหย่าร้าง ปัญหาลูก ปัญหาเพื่อนร่วมงาน วนๆไปไม่ให้ได้หายใจหายคอ
ชอตที่ชนะ สาแก่ใจคนดูที่เอาใจช่วย รู้สึก เออ โล่งใจ โชคเข้าข้างคนดี 
มีน้อยกว่าอารมณ์ที่ต้องอดทน กล้ำกลืน เพื่อเอาตัวรอด 

สถานการณ์ก็พลิกกลับไปกลับมา ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะจบยังไง

เบื้องหลังการผิดศีล มีอะไรที่เป็นรอยร้าวในความสัมพันธ์
เพราะคำมั่นสัญญาของอีแทโอที่ให้จีซอนอูในวันแต่งงาน ก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะรักผู้หญิงคนนี้คนเดียวตลอดไป

ก่อนคนเราจะมีตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่าง อะไรที่ผลักดันความคิด แรงจูงใจ จนเกิดพฤติกรรมต่างๆ
อ้างอิงจาก ความต้องการพื้นฐานหลักของคน หรือ 6 Human needs (Reference Tony Robbins) 
6 อย่างนี้เป็นที่มาของการกระทำและการตัดสินใจทุกเรื่องๆ รวมไปถึงการดำเนินชีวิตคู่ด้วย

ถ้ามองตามหลักการ6ข้อ (อัพเดทถึงEp.10)
ศักยภาพการอยู่รอดของหมอจี+อีแทโอ+ไม่มีมือที่สาม=1+4
 

ศักยภาพการอยู่รอดของดาคยอง+อีแทโอ+รักเดียวใจเดียว=1+2+3+4+5
 

เป็นยังไงมาดูกัน

1.ความแน่นอน Certainty 
คนเราต้องการความปลอดภัยมั่นคง การเป็นสามีภรรยาก็เป็นหนึ่งในเหตุผลนี้ การแต่งงานที่ยาวนานเป็นสิบปี จีซอนอูเป็นช้างเท้าหน้าในการหาเงินให้อีแทโอรู้สึกปลอดภัย ค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าดูแลลูก แม้แต่ค่าดูแลแม่สามีที่ป่วยเธอก็ออก หลังนอกใจไปแล้วช่วงต้นจะเห็นว่าอีแทโอดูลังเล ไม่ยอมตัดสินไปหาดาคยองเพราะมีความกังวลเรื่องทรัพย์สินเงินทองอยู่มาก 

2.ความไม่แน่นอน Uncertainty/Variety
 ความตื่นเต้น การผจญภัยความแปลกใหม่ อยู่ด้วยกันไปนานๆอาจจะเบื่อ พอมีสิ่งเร้าใหม่=เมียน้อย อีแทโอบอกกับหมอซอล(เพื่อนของนางเอกที่แอบตี2หน้า) ดาคยองให้ความรู้สึกแปลกใหม่ อยู่ด้วยแล้วมีความคิดสร้างสรรค์เลยตัดใจเลิกไม่ได้ เพราะจะต้องใช้ไอเดียในการทำหนัง (ความเข้าข้างเมียหลวงของพวกเราจะรู้สึกว่า แหม แถได้อีกนะแก) ในทางกลับกันถ้าเป็นจีซอนอูเองที่ให้ความรู้สึกนี้ได้อาจจะไม่เกิดการนอกใจขึ้นเลย(และพวกเราก็ไม่ต้องขอบตาดำเพราะตามดู)

3.ความสำคัญ Significance 
การเป็นที่ยอมรับ เป็นที่ต้องการ จีซอนอูเป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่ง เป็นเสาหลักของครอบครัว หน้าที่เดียวที่ทำแทนอีแทโอไม่ได้คือเล่มเกม เล่นกีฬากับลูกชาย เสียงนินทาจากข้างนอกทำให้อีแทโอรู้สึกต่ำต้อย ทำอะไรก็ไม่เก่ง ไม่ดีเท่าเมียที่ได้รับการยอมรับนับหน้าถือตา เมื่อไปอยู่กับดาคยองที่ชื่นชมในตัวเค้าโดยไม่มีความคาดหวังหรือกดดัน เลยกลายเป็นพื้นที่สบายใจขึ้นมา

4.การเป็นที่รัก ความสัมพันธ์ที่ดี Love/Connection 
ส่วนตัวมองว่าทั้งจีซอนอูและดาคยองต่างทุ่มเทให้อีแทโอ ในช่วงเวลาที่ไม่มีความสงสัยเคลือบแคลงคือ รักแบบรักเต็มที่บริสุทธิ์ใจจริงๆ แต่ความรักที่อีแทโอมีให้ดาคยองดูไม่เต็ม100 ตั้งแต่เริ่มต้น ถ้าให้เดาตอนจบไม่น่าจะได้อยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น 

5.การเติบโต Growth 
ความโชคร้ายของหมอจีที่ผลักดัน ออกทุน หาconnectionให้สามีได้ทำหนังมาตลอด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เลยทำให้เกิดการเปรียบเทียบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เพราะคิดย้อนไปที่จุดเริ่มต้น 10ปีผ่านไปหมอจีเป็นรองผอ แต่อีแทโอเป็นคนสร้างหนังที่ล้มเหลว พอหย่ากันเรื่องก็พลิกกลายเป็นอีแทโอสร้างหนังได้ปังมาก จากการมีดาคยองอยู่ข้างๆ กลายเป็น เอ๊ะ ทำไมคนทำดี คนทุ่มเท กลับไม่ได้ดี??? โชคเข้าข้างคนที่เป็นชู้แล้วได้ดีเหรอ 
ถ้าวางเรื่องนี้ลงก่อน แล้วมองลงไปในงานเพียงอย่างเดียวจะเห็นว่า ความสำเร็จบางอย่างก็เหมือนการปลูกต้นไม้แต่ละคนหยอดเมล็ดคนละชนิดลงไปในดินที่แตกต่าง+ปัจจัยอื่นๆ หน้าที่การงานของหมอจีเส้นทางอาจจะราบรื่นกว่าการสร้างหนัง แต่ของอีแทโออาจจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่งอกช้า เลยทำให้เรื่องออกมาเป็นแบบนี้

6.การให้ Contribution 
การได้เป็นผู้ให้ การบริจาคทำการกุศล ในซีรี่ย์ไม่ชัดเจน มีเรื่องเงินบริจาคโรงพยาบาลที่เอามาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น ไม่ตรงกับประเด็นนี้สักเท่าไหร่
 
เห็นด้วย?คะ ถ้ามองตามหลักการ6ข้อ
ศักยภาพการอยู่รอดของหมอจี+อีแทโอ+ไม่มีมือที่สาม=1+4
ศักยภาพการอยู่รอดของดาคยอง+อีแทโอ+รักเดียวใจเดียว=1+2+3+4+5

***แต่ดาคยอง+อีแทโอ เพิ่งอยู่ด้วยกันมา2ปี ไม่มีอะไรการันตีอนาคต***
ที่สำคัญที่สุด คือ แต่ละคนมีการให้น้ำหนักความต้องการ6ข้อ ไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต 
ดังนั้น ถึงในจอเรื่องจะจบ แต่ถ้ามองชีวิตจริงยาวๆ มันอาจจะไม่จบ
 
 
ดูแล้วปลงไปอีกแบบ นึกถึง หลัก โลกธรรม8 ไม่มีอะไรดีรังยั่งยืน

ได้ลาภ เสื่อมลาภ 
ได้ยศ เสื่อมยศ 
สรรเสริญ นินทา
สุข ทุกข์
 
มีแต่ตัวเราที่ต้องประคองตัวเองผ่านวิกฤติต่างๆให้รอดพ้นไปด้วยดี 

ดูซีรี่ย์แล้วย้อนดูตัว รักษาตัวให้ปลอดโควิด รักษาใจให้ดูแล้วเอาสิ่งดีๆที่ได้มาพัฒนาชีวิตต่อไป

ฝากติดตามเพจ
www.facebook.com/Meenacreator