อยากแบ่งปัน วิธีแก้ปัญหา ที่ใช้แล้วอาการดีขึ้น
        เรื่องมีว่าลูกสาว อยู่ดีๆ ก็มีตุ่มขึ้น เป็นน้ำใสพอง ส่วนใหญ่เป็นที่ขา ส่วนน้อยที่แขน ลูกสาวอายุ 18 ค่ะตอนที่เป็นครั้งแรก  ไม่ทราบสาเหตุ แต่คิดว่าอาจจะเกิดจาก ยาทากันยุงชนิดน้ำที่ลูกพึ่งซื้อมาใช้ได้ 2 อาทิตย์ ทราบอีกที ก็ตอนลูกใส่ขาสั้น แล้วจึงเห็นว่า ขามีแต่รอยแผลที่ลูกเกาซึ่งลูกบอกว่าคันมากทนไม่ไหวก็เมื่อ 3 อาทิตย์ผ่านไป แผลแฉะ มีน้ำเหลือง พาไปหาหมอ ให้ยาทา TA และยากินแก้แพ้ อาการก็ไม่ดีขึ้น ลูกใช้เบตาดีนหยอดแผลบ่อยมาก(สังเกต เอง ว่าลูก หยอดยา 5-6 ครั้งต่อวัน) ต้องบอกให้หยุดทุกอย่าง เพราะไม่รู้แพ้อะไร อาจทำให้แพ้ตัวอื่นเพิ่มขึ้นได้ แผลแฉะอยู่ 2เดือนกว่า หาหมอไป 2 ครั้ง ก็ยาเหมือนเดิม แม่เริ่มสงสัย ถามดูก็รู้ว่ายังอาบน้ำถูสบู่ ปกติ ไม่เลี่ยงบริเวณแผลเลย 
             แม่จึงต้องสั่งเช็ดตัวเท่านั้น  ช่วยเช็ดบ้าง สระผมให้บ้าง แล้วให้กินยา แอนตี้ไบโอติก พวก amoxil ( เขาแพ้ยากลุ่มซัลฟา) เพราะแผลเต็มขา และแขน เริ่มลามไปที่ตัว และให้งดอาหาร เนื้อสัตว์และนมวัวและขนมปัง เพราะไม่รู้ว่าแพ้อะไร ช่วงที่ร่างกายเสียสมดุล ทำให้แพ้สิ่งที่ไม่เคยแพ้ได้ง่าย  ทำอยู่เกือบเดือน แผลก็ค่อยๆหายไปในที่สุด     
        แต่ไม่จบ หลังจากนั้นก็กลับไปทานอาหารตามปกติเหมือนเดิม  ลูกบอกบริเวณที่เคยเป็นแผล มักจะมีตุ่มใสขึ้นมาอีก คัน ก็ได้แต่บอกว่าห้ามเกา ห้ามทำให้ตุ่มแตก แต่แล้วผ่านไป 4-5 เดือนทั้งเครียดเรื่องเรียน แล้วแผลระลอกใหม่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แม่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ลูกก็เผลอเกา แล้วคราวนี้ดูจะหนักกว่าเดิมเพราะ ลูกทนไม่ไหวเกาหนัก ดูแผลลามเร็ว แม่เริ่มสั่งให้ใช้สูตรเดิม แต่คราวนี้ไม่ได้ผล ทั้งกินยาแอนตี้ไบโอติก ห้ามแผลโดนน้ำ แต่ไม่ได้งดเนื้อสัตว์ และ นมวัว และขนมปัง ก็ยังไม่ดีขึ้น ผ่านไปอีก 2 เดือน จึงเริ่มงดอาหารเนื้อสัตว์ นมวัว ขนมปัง ไข่แดง  ทานแต่ไข่ขาว กับ นมถั่วเหลือง ข้าว ผัก ผลไม้ งดยากิน และยาทา ห้ามแผลโดนน้ำ และเพิ่ม การฆ่าเชื้อด้วย UV จากแสงแดด วันละ 2 รอบ รอบละ 1 ชม. ตอน 8-9 โมง และ   บ่าย 3-4 ผลปรากฏว่าดีขึ้นเรื่อยๆ แผลหายใน 1 เดือนค่ะ
หลังจากนี้จะค่อยๆ ให้ลูกทานอาหาร เพิ่มทีละ 1 อย่าง ไปทุก 1 อาทิตย์ เพื่อดูว่าเขาแพ้อะไรกันแน่ เป็นจากอาหาร หรือเปล่าด้วยค่ะ
          แชร์ประสบการณ์ ให้ผู้ที่มีปัญหาเหมือนกัน เผื่อว่าได้แนวคิดอะไรบ้างนะคะ