ROG เปิดตัวหูฟังสายเกมมิ่งแบบไร้สายมาอีก 1 รุ่นครั้งนี้มาพร้อมกับการรองรับที่หลากหลายมากๆแน่นอนว่ามันไม่ได้ใช้ Bluetooth แต่จะใช้งานตัว Adaptor ที่รองรับกับ USB-C นั้นเองการเชื่อมแบบนี้แน่นอนว่ามันดีกว่าในแง่ของความเสถียรและแม่นยำครับ ส่วนทางด้านหูฟังถือว่าออกมามีจุดเด่นๆที่น่าสนใจเยอะทั้งเรื่องของการใช้งาน ดีไซน์ และการรองรับเสียงคุณภาพสูงแบบ Hi-res Audio เลยทีเดียวอีกทั้งยังเด่นเรื่องของ AI ในการตัดเสียงรบกวนเวลาเล่นเกม ทั้งเสียงลม เสียงคียบอร์ดและรวมถึงเสียงอื่นๆที่ไม่ใช่เสียงเราโดยที่ยังคงคุณภาพเสียงได้ดี ส่วนเรื่อของน้ำหนักก็ถือว่ากลางๆกำลังดีครับ มาพร้อมกับงานออกแบบที่เรียบๆไม่ได้หวือหวามากนัดสวมใส่ได้สบายๆ
ROG STRIX GO 2.4 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นหลายๆอย่างทั้งเรื่องของดีไซน์ สเปค รวมถึงการรองรับ ทั้งหลากหลายโปรแกรม Discord ต่างๆที่เป็นที่รู้จักกันดีรวมถึงการรองรับระบบเสียง Hi-res Audio ด้วย การเชื่อมต่อรองรับ Low-latency 2.4 GHz wireless เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C adapter ที่รองรับอุปกรณ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Nintendo Switch ในโหมด handheld, PC, Mac,PS4 รวมไปถึง Xbox One ผ่านพอร์ต 3.5 mm ได้อีกด้วย ตัวหูฟัง ออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา สำหรับระบบ AI noise-cancelling microphone ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก เวลาคุยเล่นเกมได้ดี ยังมาพร้อมกับ Fast charging ที่ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ชัวโมงและใช้งานต่อเนื่องสูงสุดถึง 25 ชัวโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง รวมถึงตัว ไดร์เวอร์ขนาด 40 mm ASUS Essence drivers ส่งมอบรายละเอียดเสียงที่ดีเยี่ยมและเบสที่หนักแน่น ทางด้านราคานั้น ในรุ่นนี้มาพร้อมกับราคา 4,990 บาทครับถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับ สเปคและการรองรับของมัน
UNBOX
สำหรับตัวกล่องนั้นจะเห็นว่ามีของมาให้เยอะแยะเอาเรื่องเลยทั้งตัวสายชาร์จ สาย 3.5 ค่อนข้างครบพร้อมใช้งานแถมยังมีกล่องและตัวแปลงมาให้เรียบร้อยครับสำหรับทาง ROG STRIX GO รุ่นนี้ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มเติมเลย
- ตัวหูฟัง ROG STRIX GO 2.4
- กล่องใส่หูฟัง ROG
- สาย USB-A ไป USB-C
- Adaptor Wireless 2.4 USB-C
- Adaptor แปลงหัว USB-A ไป USB-C
- สายเสียงสำหรับเสียบ 3.5มม.
- ตัวไมค์สำหรับตัดในหูฟัง สามารถถอดออกได้ เป็นพอร์ตแยกกับรู 3.5
- คู่มือ
ตัวสาย และ พวก Adaptor นั้นถือว่างานดีเป็นสายถักอะไรดูแข็งแรงรวมถึงตัว Adaptor ก็ดูดีสวยครับผมแน่นอนว่ามีการคิดอะไรมาให้เรียบร้อยมีตัวแปลงครบ และในกล่องมีที่ใส่สายมาให้ช่องอะไรอย่างดีเลย รวมถึงการพกพาพับเก็บทำได้ง่ายและคล้ายกับหูฟังทั่วไปทำให้พกพาได้ง่ายและบางมากขึ้น กล่องบุนุ่มและเป็น Hard case แข็งแรง
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้ต้องบอกว่าน่าสนใจเพราะมันแตกต่างกับ ROG รุ่นอื่นๆทั้งในเรื่องของวัสดุงานออกแบบทั้งหมดมันเหมือนจะเป็นหูฟังที่ออกไปในทาง Lifestyle มากขึ้นเยอะครับดีไซน์ดูเรียบๆและการใช้งานวัสดุที่ค่อนข้าพรีเมี่ยมากขึ้นใส่สบายมากขึ้น ไม่ได้มีลวดลายออกแบบอะไรเยอะมากเน้นความเรียบและผิวด้านๆเข้ามาแทน รวมถึงมีกล่องพกพาและมีขนาดในการพับอะไรได้ง่ายขึ้นครับถือว่าตอบโจทย์มากกว่าเดิมในเรื่องของการใช้งานทั่วไปได้
ในส่วนของหูฟังรูปทรงมันเป็นแบบ Overear ปกติครับสามารถครอบใบหูทั้งหมดได้และไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปดีไซน์ในด้านนอกนั้นจะเป็นวัสดุผิวด้านยางหนืดนิดหน่อย พร้อมโลโก้ ROG และ ฟอนต์เขียนแบบเนียนๆพิมพ์แบบ 3 มิติลึกลงไปมีการเล่นฟองน้ำบุนุ่มอะไรดูหนาในส่วนของแกนด้านบนและมีเล่นโครเมี่ยมตัดทำให้มีความหรูนิดๆ ส่วนของฟองน้ำด้านในหนานุ่มอย่างมากพร้อมกับมีโลโก้ ROG ในส่วนของข้างใน Earpad ด้วยครับ ตัว Earpad รองรับอิสระในการใช้งาน หมุนอะไรได้หลากหลายและสามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายทรงของศรีษะได้ดี
ตัวฟองน้ำตรงในส่วนของ EarPad นั้นมีความหนาลึกกำลังดีครับ ตัวหนังนั้นเป็นหนังเทียมแต่เก็บงานอะไรได้ดีมีความนุ่มไม่อึดอัดเลยแม้แต่น้อย ส่วนในเรื่องของระยะรูปทรงครอบใบหูได้ทั้งหมด ไม่ได้บีบหรือกดใบหูครับ ความลึกนั้นก็ทำได้ดีคือไม่โดนใบหูแม้จะครอบไปทั้งหมดในเรื่องนี้ถือว่ารับได้สบาย ส่วนฟองน้ำข้างบนมีความหนานุ่มเช่นกัน แต่การใช้วัสดุแบบนี้อาจจะไม่ค่อยทนสักเท่าไรถ้าหากเป็นคนผมสั้น(สกินเฮด)เพราะผมที่สั้นอาจจะไปทำให้หนังเสียได้ง่ายครับ คงต้องระวังกันนิดหน่อย
แบรนด์นี้ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในเรื่องของความละเอียดในหลายๆอย่างได้ดี คือในหลายๆจุดดูใส่ใจในการออกแบบครับ ส่วนด้านก้านข้างบนมีการพิมพ์โลโก้มาอย่างดีสวยงามเขียนชื่อเต็มของทางแบรนด์ ส่วนในข้อพับต่างๆนั้นถือว่าทำได้แข็งแรงมีบอกเขียนซ้ายขวา และมีโลโก้ ASUS ซ่อนเนียนๆในส่วนนี้ ส่วนวัสดุนั้นเป็นพลาสติกด้านเป็นหลักจะออกสีเทาด้านๆนะครับไม่ได้ดำสนิท ส่วนงานประกอบความแข็งแรงอะไรนั้นถือว่าใช้งานได้ดีเท่าที่ลอง
ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อนั้นต้องบอกว่าให้มาครบในด้านขวานั้นจะเป็น USB-C ในการชาร์จไฟเข้า พร้อมไฟสถานะ แต่น่าเสียดายว่าพอร์ตนี้มันไม่สามารถรับส่งเสียงได้ ตอนแรกคิดว่าจะเสียบและชาร์จไฟทำงานไปได้ด้วยครับแต่ไม่ได้นะ ส่วนในเรื่องของการชาร์จรองรับชาร์จไวด้วย ในอีกฝั่งนั้นจะเป็นรู 3.5 มม. และ ไฟสถานะ รวมถึงสวิทช์สลับ ไร้สาย กับ แบบสาย และ สวิทช์สำหรับกดเล่นเพลง หยุดเพลง รวมถึงการปรับเสียงขึ้นลง และกด Mute ได้โดยการกดลงไปครับ ส่วนรูไมค์นั้นจะมีแยกไปต่างหากสำหรับเสียบไมค์ที่ให้มาครับรองรับการตัดเสียงไปได้ในตัวเลย
ในภาพคือตัวไมค์ที่แถมมาให้เป็นก้านสีดำมีความยาวพอประมาณไม่สามารถยืดหดอะไรได้ครับ และไม่สามารถพับเก็บได้ต้องถอดออกมาเท่านั้นเลย และตัวไมค์นั้นจะเป็นแจ็ค 3.5 ที่มีหัวทรงเฉพาะของมันครับวัสดุอะไรงอได้ปกติ
SPEC
- การเชื่อมต่อ USB (wireless 2.4GHz) และ 3.5 mm(1/8”) connector Audio/mic combo
- แพลตฟอร์ม / PC / MAC / Mobile device / PlayStation® 4 / Nintendo Switch
- หูฟัง ไดร์เวอร์ Driver diameter : 40 mm Driver material : Neodymium magnet
- ความต้านทาน 32 Ohm
- Frequency Response (headphones) 3.5mm: 10 ~ 40000 Hz Wireless: 20 ~ 20000 Hz
- Noise Cancellation AI Noise Cancellation
- ไวร์เลส เทคโนโลยี RF 2.4GHz
- ระยะเวลาที่ใช้งาน Listen time (per charge) : Up to 25 Hours
- ชนิดของแบตเตอรี่ Lithium Polymer
- Microphone Pick-up Pattern Microphone boom: Bi-directional
- Hidden Microphone: Omni-directional
- Microphone boom: 100 ~ 8000 Hz
- Hidden Microphone: 100 ~ 8000 Hz
- Sensitivity Microphone boom: Sensitivity : -54 dB
- สาย USB-C charging cable: 1m; และ 3.5 mm audio cable: 1.2 m
- น้ำหนัก 290 g
- อุปกรณ์เสริม
* Carrying case
* Charging cable
* Detachable microphone
* Quick start guide
* 3.5mm cable
* USB-C to USB 2.0 (Type-A) adapter
SOUND
ในเรื่องของเสียงตัวนี้อย่างที่แจ้งไปคือรองรับได้ค่อนข้างอิสระครับทั้งเรื่องของการใช้ไร้สาย และแบบมีสาย รองรับกับทั้ง โทรศัพท์มือถือ USB-C และรวมไปถึงคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต USB-C และ ใช้งานกับ Nintendo Switch ได้ด้วยนั้นเองครับแน่นอนว่าค่อนข้างอิสระมากๆ และยังรองรับการใช้งานแบบสายได้ผ่านรู 3.5 มม. นั้นเองถือว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบมารองรับได้เยอะมากแม้จะไม่ได้ใช้งาน Bluetooth ก็ตามแต่ที่ให้มาก็รองรับได้มากเพียงพอแล้วในเรื่องของเสียงหูฟังตัวนี้ทำออกมาตอบโจทย์ในเรื่องของการฟังเพลงเสียงดีๆได้ และ ยังรองรับการเล่นเกมได้ดีเช่นกันทั้งเรื่องของมิติเสียง ความไวในการตอบสนองทั้งเรื่องของไมค์และเสียงในการเล่นเกมที่ไม่มีหน่วงเลยด้วยครับ
[SR] รีวิว ROG STRIX GO 2.4 เสียง Hi-Res รองรับทั้ง มือถือ คอม และ Nintendo Switch !
ROG เปิดตัวหูฟังสายเกมมิ่งแบบไร้สายมาอีก 1 รุ่นครั้งนี้มาพร้อมกับการรองรับที่หลากหลายมากๆแน่นอนว่ามันไม่ได้ใช้ Bluetooth แต่จะใช้งานตัว Adaptor ที่รองรับกับ USB-C นั้นเองการเชื่อมแบบนี้แน่นอนว่ามันดีกว่าในแง่ของความเสถียรและแม่นยำครับ ส่วนทางด้านหูฟังถือว่าออกมามีจุดเด่นๆที่น่าสนใจเยอะทั้งเรื่องของการใช้งาน ดีไซน์ และการรองรับเสียงคุณภาพสูงแบบ Hi-res Audio เลยทีเดียวอีกทั้งยังเด่นเรื่องของ AI ในการตัดเสียงรบกวนเวลาเล่นเกม ทั้งเสียงลม เสียงคียบอร์ดและรวมถึงเสียงอื่นๆที่ไม่ใช่เสียงเราโดยที่ยังคงคุณภาพเสียงได้ดี ส่วนเรื่อของน้ำหนักก็ถือว่ากลางๆกำลังดีครับ มาพร้อมกับงานออกแบบที่เรียบๆไม่ได้หวือหวามากนัดสวมใส่ได้สบายๆ
ROG STRIX GO 2.4 เปิดตัวมาด้วยจุดเด่นหลายๆอย่างทั้งเรื่องของดีไซน์ สเปค รวมถึงการรองรับ ทั้งหลากหลายโปรแกรม Discord ต่างๆที่เป็นที่รู้จักกันดีรวมถึงการรองรับระบบเสียง Hi-res Audio ด้วย การเชื่อมต่อรองรับ Low-latency 2.4 GHz wireless เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C adapter ที่รองรับอุปกรณ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Nintendo Switch ในโหมด handheld, PC, Mac,PS4 รวมไปถึง Xbox One ผ่านพอร์ต 3.5 mm ได้อีกด้วย ตัวหูฟัง ออกแบบมาให้มีขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา สำหรับระบบ AI noise-cancelling microphone ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก เวลาคุยเล่นเกมได้ดี ยังมาพร้อมกับ Fast charging ที่ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ชัวโมงและใช้งานต่อเนื่องสูงสุดถึง 25 ชัวโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง รวมถึงตัว ไดร์เวอร์ขนาด 40 mm ASUS Essence drivers ส่งมอบรายละเอียดเสียงที่ดีเยี่ยมและเบสที่หนักแน่น ทางด้านราคานั้น ในรุ่นนี้มาพร้อมกับราคา 4,990 บาทครับถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับ สเปคและการรองรับของมัน
UNBOX
สำหรับตัวกล่องนั้นจะเห็นว่ามีของมาให้เยอะแยะเอาเรื่องเลยทั้งตัวสายชาร์จ สาย 3.5 ค่อนข้างครบพร้อมใช้งานแถมยังมีกล่องและตัวแปลงมาให้เรียบร้อยครับสำหรับทาง ROG STRIX GO รุ่นนี้ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มเติมเลย
- ตัวหูฟัง ROG STRIX GO 2.4
- กล่องใส่หูฟัง ROG
- สาย USB-A ไป USB-C
- Adaptor Wireless 2.4 USB-C
- Adaptor แปลงหัว USB-A ไป USB-C
- สายเสียงสำหรับเสียบ 3.5มม.
- ตัวไมค์สำหรับตัดในหูฟัง สามารถถอดออกได้ เป็นพอร์ตแยกกับรู 3.5
- คู่มือ
ตัวสาย และ พวก Adaptor นั้นถือว่างานดีเป็นสายถักอะไรดูแข็งแรงรวมถึงตัว Adaptor ก็ดูดีสวยครับผมแน่นอนว่ามีการคิดอะไรมาให้เรียบร้อยมีตัวแปลงครบ และในกล่องมีที่ใส่สายมาให้ช่องอะไรอย่างดีเลย รวมถึงการพกพาพับเก็บทำได้ง่ายและคล้ายกับหูฟังทั่วไปทำให้พกพาได้ง่ายและบางมากขึ้น กล่องบุนุ่มและเป็น Hard case แข็งแรง
DESIGN
งานออกแบบในรุ่นนี้ต้องบอกว่าน่าสนใจเพราะมันแตกต่างกับ ROG รุ่นอื่นๆทั้งในเรื่องของวัสดุงานออกแบบทั้งหมดมันเหมือนจะเป็นหูฟังที่ออกไปในทาง Lifestyle มากขึ้นเยอะครับดีไซน์ดูเรียบๆและการใช้งานวัสดุที่ค่อนข้าพรีเมี่ยมากขึ้นใส่สบายมากขึ้น ไม่ได้มีลวดลายออกแบบอะไรเยอะมากเน้นความเรียบและผิวด้านๆเข้ามาแทน รวมถึงมีกล่องพกพาและมีขนาดในการพับอะไรได้ง่ายขึ้นครับถือว่าตอบโจทย์มากกว่าเดิมในเรื่องของการใช้งานทั่วไปได้
ในส่วนของหูฟังรูปทรงมันเป็นแบบ Overear ปกติครับสามารถครอบใบหูทั้งหมดได้และไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปดีไซน์ในด้านนอกนั้นจะเป็นวัสดุผิวด้านยางหนืดนิดหน่อย พร้อมโลโก้ ROG และ ฟอนต์เขียนแบบเนียนๆพิมพ์แบบ 3 มิติลึกลงไปมีการเล่นฟองน้ำบุนุ่มอะไรดูหนาในส่วนของแกนด้านบนและมีเล่นโครเมี่ยมตัดทำให้มีความหรูนิดๆ ส่วนของฟองน้ำด้านในหนานุ่มอย่างมากพร้อมกับมีโลโก้ ROG ในส่วนของข้างใน Earpad ด้วยครับ ตัว Earpad รองรับอิสระในการใช้งาน หมุนอะไรได้หลากหลายและสามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายทรงของศรีษะได้ดี
ตัวฟองน้ำตรงในส่วนของ EarPad นั้นมีความหนาลึกกำลังดีครับ ตัวหนังนั้นเป็นหนังเทียมแต่เก็บงานอะไรได้ดีมีความนุ่มไม่อึดอัดเลยแม้แต่น้อย ส่วนในเรื่องของระยะรูปทรงครอบใบหูได้ทั้งหมด ไม่ได้บีบหรือกดใบหูครับ ความลึกนั้นก็ทำได้ดีคือไม่โดนใบหูแม้จะครอบไปทั้งหมดในเรื่องนี้ถือว่ารับได้สบาย ส่วนฟองน้ำข้างบนมีความหนานุ่มเช่นกัน แต่การใช้วัสดุแบบนี้อาจจะไม่ค่อยทนสักเท่าไรถ้าหากเป็นคนผมสั้น(สกินเฮด)เพราะผมที่สั้นอาจจะไปทำให้หนังเสียได้ง่ายครับ คงต้องระวังกันนิดหน่อย
แบรนด์นี้ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจในเรื่องของความละเอียดในหลายๆอย่างได้ดี คือในหลายๆจุดดูใส่ใจในการออกแบบครับ ส่วนด้านก้านข้างบนมีการพิมพ์โลโก้มาอย่างดีสวยงามเขียนชื่อเต็มของทางแบรนด์ ส่วนในข้อพับต่างๆนั้นถือว่าทำได้แข็งแรงมีบอกเขียนซ้ายขวา และมีโลโก้ ASUS ซ่อนเนียนๆในส่วนนี้ ส่วนวัสดุนั้นเป็นพลาสติกด้านเป็นหลักจะออกสีเทาด้านๆนะครับไม่ได้ดำสนิท ส่วนงานประกอบความแข็งแรงอะไรนั้นถือว่าใช้งานได้ดีเท่าที่ลอง
ทางด้านพอร์ตเชื่อมต่อนั้นต้องบอกว่าให้มาครบในด้านขวานั้นจะเป็น USB-C ในการชาร์จไฟเข้า พร้อมไฟสถานะ แต่น่าเสียดายว่าพอร์ตนี้มันไม่สามารถรับส่งเสียงได้ ตอนแรกคิดว่าจะเสียบและชาร์จไฟทำงานไปได้ด้วยครับแต่ไม่ได้นะ ส่วนในเรื่องของการชาร์จรองรับชาร์จไวด้วย ในอีกฝั่งนั้นจะเป็นรู 3.5 มม. และ ไฟสถานะ รวมถึงสวิทช์สลับ ไร้สาย กับ แบบสาย และ สวิทช์สำหรับกดเล่นเพลง หยุดเพลง รวมถึงการปรับเสียงขึ้นลง และกด Mute ได้โดยการกดลงไปครับ ส่วนรูไมค์นั้นจะมีแยกไปต่างหากสำหรับเสียบไมค์ที่ให้มาครับรองรับการตัดเสียงไปได้ในตัวเลย
ในภาพคือตัวไมค์ที่แถมมาให้เป็นก้านสีดำมีความยาวพอประมาณไม่สามารถยืดหดอะไรได้ครับ และไม่สามารถพับเก็บได้ต้องถอดออกมาเท่านั้นเลย และตัวไมค์นั้นจะเป็นแจ็ค 3.5 ที่มีหัวทรงเฉพาะของมันครับวัสดุอะไรงอได้ปกติ
SPEC
- การเชื่อมต่อ USB (wireless 2.4GHz) และ 3.5 mm(1/8”) connector Audio/mic combo
- แพลตฟอร์ม / PC / MAC / Mobile device / PlayStation® 4 / Nintendo Switch
- หูฟัง ไดร์เวอร์ Driver diameter : 40 mm Driver material : Neodymium magnet
- ความต้านทาน 32 Ohm
- Frequency Response (headphones) 3.5mm: 10 ~ 40000 Hz Wireless: 20 ~ 20000 Hz
- Noise Cancellation AI Noise Cancellation
- ไวร์เลส เทคโนโลยี RF 2.4GHz
- ระยะเวลาที่ใช้งาน Listen time (per charge) : Up to 25 Hours
- ชนิดของแบตเตอรี่ Lithium Polymer
- Microphone Pick-up Pattern Microphone boom: Bi-directional
- Hidden Microphone: Omni-directional
- Microphone boom: 100 ~ 8000 Hz
- Hidden Microphone: 100 ~ 8000 Hz
- Sensitivity Microphone boom: Sensitivity : -54 dB
- สาย USB-C charging cable: 1m; และ 3.5 mm audio cable: 1.2 m
- น้ำหนัก 290 g
- อุปกรณ์เสริม
* Carrying case
* Charging cable
* Detachable microphone
* Quick start guide
* 3.5mm cable
* USB-C to USB 2.0 (Type-A) adapter
SOUND
ในเรื่องของเสียงตัวนี้อย่างที่แจ้งไปคือรองรับได้ค่อนข้างอิสระครับทั้งเรื่องของการใช้ไร้สาย และแบบมีสาย รองรับกับทั้ง โทรศัพท์มือถือ USB-C และรวมไปถึงคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต USB-C และ ใช้งานกับ Nintendo Switch ได้ด้วยนั้นเองครับแน่นอนว่าค่อนข้างอิสระมากๆ และยังรองรับการใช้งานแบบสายได้ผ่านรู 3.5 มม. นั้นเองถือว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบมารองรับได้เยอะมากแม้จะไม่ได้ใช้งาน Bluetooth ก็ตามแต่ที่ให้มาก็รองรับได้มากเพียงพอแล้วในเรื่องของเสียงหูฟังตัวนี้ทำออกมาตอบโจทย์ในเรื่องของการฟังเพลงเสียงดีๆได้ และ ยังรองรับการเล่นเกมได้ดีเช่นกันทั้งเรื่องของมิติเสียง ความไวในการตอบสนองทั้งเรื่องของไมค์และเสียงในการเล่นเกมที่ไม่มีหน่วงเลยด้วยครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้